ล่าแก๊ง โจรอุ้มหมา ลักทรัพย์ ตร.ค้นบ้านผัว-เมีย ยึดของกลางอื้อ แฉตระเวน ก่อเหตุนานกว่า 15 ปี ใช้น้องหมาเบี่ยงเบนความสนใจ เหยื่อกว่า 44 ราย ความเสียหายไม่ต่ำกว่า 20 ล้านบาท
เมื่อวันที่ 27 ส.ค. ที่ กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. พร้อม พล.ต.ท.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.สมชาย พัชรอินโต รอง ผบช.ภ.1 ร่วมกันแถลงผลการตรวจยึดของกลาง แก๊ง‘โจรอุ้มหมา’
โจรอุ้มหมา / ประกอบด้วย รถยนต์ยี่ห้อนิสสัน ร่นอัลเมร่า สีดำ ติดทะเบียนป้ายแดง ศ-4430 กรุงเทพมหานคร รถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นฟอร์จูนเนอร์ สีขาว เลขทะเบียน 7กฆ-5515 กรุงเทพมหานคร รถยนต์ยี่ห้อนิสสัน รุ่นซิลฟี่ สีขาว เลขทะเบียน 5กถ-2052 กรุงเทพมหานคร อาวุธปืนขนาด 9 ม.ม. จำนวน 1 กระบอก
โทรศัพท์มือถือ 55 เครื่อง บัตรเอทีเอ็มและบัตรเครดิต 10 ใบ นาฬิกาข้อมือ 20 เรือน กระเป๋าแบรนด์เนม จำนวน 55 ใบ บัตรประจำตัวประชาชน ใบอนุญาตขับขี่ บัตรประจำตัวข้าราชการ จำนวน 18 ใบ ตั๋วรับจำนำ 18 ใบ
นอกจากนี้ยังมี เครื่องประดับ อาทิ สร้อยคอ สร้อยข้อมือ กำไล แหวน ต่างหู วัตถุมงคล พระเครื่อง จำนวนมาก รวมของกลางทั้งสิน 137 รายการ
โดยของกลางทั้งหมดตรวจยึดได้ภายในหมู่บ้านหรูแห่งหนึ่ง ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ของนายอภิชาติ บุญเรือง อายุ 42 ปี และน.ส.อุษา เกษมณี หรือ ฑิญาตา บุญเรือง อายุ 38 ปี สองสามีภรรยา ผู้ต้องหาก่อเหตุตระเวนลักทรัพย์โดยอุ้มสุนัขเบี่ยงเบนความสนใจของผู้เสียหาย
ซึ่งทั้งคู่ตระเวนก่อเหตุในหลายท้องที่ ทั้งตำรวจภูธรภาค 1,2,7 และกองบัญชาการตำรวจนครบาล มีผู้เสียหายกว่า 44 ราย มูลค่าความเสียหายไม่ต่ำกว่า 20 ล้านบาท
พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ กล่าวว่า สืบเนื่องวันที่ 7 ส.ค. ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 09.30 น. เกิดเหตุคนร้ายเป็นชายและหญิงอุ้มสุนัขเข้าไปลักทรัพย์ ที่ร้านจำหน่ายอุปกรณ์การเกษตรอาคารพาณิชย์เลขที่ 99/14 ถนนปทุมกรุงเทพ ต.บางปรอก อ.เมือง จ.ปทุมธานี ของน.ส.รสสุคนธ์ วิมูลชาติ อายุ 50 ปี
ได้ทรัพย์สินเป็นทองรูปพรรณหลายรายการ น้ำหนักรวม 20 บาท และเงินสดจำนวน 30,000 บาท รวมมูลค่าความเสียหายประมาณ 4 แสนบาท
พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ กล่าวต่อว่า สำหรับพฤติการณ์ของคนร้ายในคดีนี้ ร่วมกันก่อเหตุ 2 คน เป็นชาย 1 คน และหญิง 1 คน ใช้รถยนต์ยี่ห้อนิสสัน รุ่นอัลเมร่า สีดำ ติดทะเบียนป้ายแดงเป็นพาหนะในการก่อเหตุ ตระเวนก่อเหตุลักทรัพย์ตามร้านค้า โดยใช้อุบายทำทีเป็นลูกค้าเข้ามาชวนพูดคุยตีสนิท แล้วสั่งซื้อของจำนวนมากเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ
จากนั้นฉวยโอกาสขณะเหยื่อจัดเตรียมสินค้า และไม่ได้เฝ้าระวังทรัพย์สินของตนเอง ลักทรัพย์แล้วหลบหนีไป โดยคนร้ายเคยก่อเหตุมาแล้วหลายครั้งในท้องที่ต่างๆ ตั้งแต่ปี 2546 นานกว่า 15 ปี
ทั้งนี้จากการตรวจสอบประวัติผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย พบว่าเคยถูกออกหมายจับไว้แล้วจำนวนหลายท้องที่ โดยนายอภิชาติ มีหมายจับลักทรัพย์จำนวน 8 หมาย ส่วนน.ส.อุษา มีหมายจับ 6 หมาย ในข้อหาเดียวกัน
ด้านพล.ต.ท.สุวัฒน์ กล่าวว่า ขอประชาสัมพันธ์ หากผู้เสียหายรายใดสงสัยว่าเคยถูกผู้ต้องหากลุ่มนี้ก่อเหตุลักทรัพย์ สามารถมาตรวจสอบทรัพย์สิน และประสานแจ้งข้อมูลได้ที่ สภ.เมืองปทุมธานี อย่างไรก็ตามอยากแจ้งกับผู้ต้องหาทั้งสองรายผ่านทางสื่อมวลชนว่า
“รีบมามอบตัวติดคุกซะ เนื่องจากอายุยังน้อยและมีเวลารับโทษ ก่อนออกไปใช้ชีวิตได้ตามปกติ ส่วนเรื่องการติดตามตัวทางเจ้าหน้าที่กำลังดำเนินการอยู่ แต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้” พล.ต.ท.สุวัฒน์ กล่าว