เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 19 ธ.ค. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. กล่าวถึงการดำเนินคดีกับพระเทพญาณมหามุนีหรือพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย จ.ปทุมธานี ผู้ต้องหาตามหมายจับคดีบุกรุกพื้นที่ป่าก่อสร้างศูนย์ปฏิบัติธรรม เวิลด์พีซวัลเล่ย์ เขาใหญ่ จ.นครราชสีมา และทุจริตสหกรณ์ยูเนียนคลองจั่น ว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้ชะลอแผนการจับกุมพระธัมมชโย เพราะมีการดำเนินคดีอื่นๆอยู่ เพียงแต่ตอนนี้ยังไม่ตัดสินใจเข้าค้นวัดพระธรรมกายเท่านั้น

s__45178917

ซึ่งการจับกุมผู้ต้องหาสำคัญต้องดำเนินการตามกฎหมายอย่างรอบคอบ ต้องคำนึงถึงหลายอย่างเพื่อไม่ให้สถานการณ์บานปลาย เลวร้ายลงกว่าเดิม เพราะจะส่งผลเสียกับประเทศชาติ เจ้าหน้าที่คิดหลายมุม หลายมิติ ยืนยันว่ากระบวนการของรัฐไม่ได้ล้มเหลว ถ้าตัดสินใจบุกแล้วสถานการณ์เลวร้ายลงกว่าเดิม ก็จะเกิดความเสียหาย สมมติว่า เจ้าหน้าที่เข้าไปโดยไม่มีอาวุธ แล้วมีเสียงระเบิด เสียงปืน ดังขึ้นจะทำอย่างไร คงต้องเกิดโกลาหลขึ้นแน่นอน แต่เป็นห่วงประชาชน ซึ่งมีทั้งเด็ก ผู้สูงอายุ ยืนยันเจ้าหน้าที่ไม่ได้กลัว แม้ผู้สื่อข่าวยังเข้าไปในวัดไม่ได้เลย

201612191225374-20050222192603

พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวอีกว่า ส่วนการขอหมายค้นขอเมื่อไหร่ก็ได้ ซึ่งทุกฝ่ายกำลังพิจารณาอยู่ ส่วนจะมีความจำเป็นในการใช้มาตรา 44 มาใช้ดำเนินการกับพระธัมมชโยหรือไม่นั้น ยังไม่ต้องถึงขนาดนั้น ทำตามกฎหมายธรรมดาก็ได้ ถ้าพระธัมมชโยมอบตัวคนเดียวก็จบ ง่ายกว่า

ส่วนการดำเนินการกับนายองอาจ ธรรมนิทา โฆษกศิษยานุศิลย์วัดพระธรรมกาย ที่ยังไม่มารับทราบข้อกล่าวหานั้นก็ไม่เป็นอะไร เรื่องของเขา ตำรวจดำเนินการตามกฎหมาย เจ้าหน้าที่ใช้กฎหมายทุกฉบับอยู่แล้ว จากข้อมูลคาดว่านายองอาจยังอยู่ภายในประเทศ ส่วนจะอยู่ด้วยกันกับพระธัมมชโยหรือไม่นั้น ก็แล้วแต่จริงๆแล้ว สำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ควรจะเอากรณีแบบนี้ไปปฏิรูปด้วย ก็ปล่อยให้มีอย่างนี้ ตนก็พูดได้เท่านี้ องค์กรอื่นเขาปฏิรูปหมดแล้ว ตนไม่ได้พูดพาดพิงถึงใคร ต้องฝากไว้ด้วยว่าต้องปฏิรูปพ.ร.บ.สงฆ์

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน