ยุติคดี ขืนใจแหม่มสาว บนเกาะเต่า ‘บิ๊กโจ๊ก’เผย ขอศาลออกหมายจับ 2 เพจดัง กับอีก 20 คนแชร์ต่อ ผิด พรบ.คอมฯ

เมื่อวันที่ 31 ส.ค. ที่สน.พหลโยธิน พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบช.ทท. กล่าวถึงคดีแหม่มสาวชาวอังกฤษ ร้องถูกมอมยาข่มขืนที่เกาะเต่า ว่าทางพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. มอบหมายให้ตนพร้อมคณะตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยประกอบด้วยพล.ต.ต.ปรีดี พงศ์เศรษฐสันต์ รองผบช.สพฐ.

ขืนใจแหม่มสาว / ซึ่งได้ตรวจสอบข้อมูลในทุกประเด็น ทั้งพยานบุคคล รวมถึงการจำลองสถานการณ์ ทั้งน้ำขึ้นน้ำลง ซึ่งลักษณะทางกายภาพ จุดที่บอกว่านั่งดื่มกินอยู่ระดับน้ำขึ้นสูง โดยเขาบอกว่านั่งอยู่บนหาดทราย ในวันที่พระจันทร์เต็มดวง ขึ้น 14 ค่ำ ช่วงเวลาเที่ยงคืนถึงตีหนึ่ง อ่านข่าว : โจ๊กนําหลักฐานโชว์ กงศุลผู้ดี ทะเลขึ้น-ขืนใจไม่ได้

อ่านข่าว : เกาะเต่าอีกแล้ว! สาวอังกฤษวัย 19 โดนข่มขืนริมหาด โวยตร.ไม่รับแจ้ง

อ่านข่าว : ตร.สรุปไม่มีแหม่มโดนข่มขืนที่เกาะเต่า! จ่อหมายจับเพจดังทำลายภาพลักษณ์ประเทศ

แต่จุดนั้นจะมีน้ำขึ้นสูง ถึงหน้าร้าน ไม่ไม่ใครไปนั่งได้น้ำสูงถึงเข่า จะไปนั่งไม่ได้ และยังมีประเด็นที่เจ้าตัวให้การว่าถูกมอมยาจากจุดนั้น พาไปข่มขืนที่โขดหินหรือลานหินระยะทางเกือบ 300 เมตร โดยวันนั้นเป็นวันที่มีการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกคู่สำคัญ

เจ้าหน้าที่ตำรวจที่รักษาความปลอดภัยมีมากกว่าปกติ ประชาชนก็มีมากกว่าปกติ การที่จะอุ้มใครไปบนทะเลที่มีพระจันทร์เต็มดวงแสงไฟส่องสว่างชัดจะเห็นภาพชัดเจน ถ้ามีการอุ้มคนเดินจะต้องมีคนเห็น

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวต่ออีกว่ารวมถึงคำให้การของน้ำหวาน ที่บอกว่าเมื่อตื่นเช้าก็มาพบว่านั่งร้องไห้อยู่ที่โรงแรม เมื่อซักถามก็บอกว่าไปมีเพศสัมพันธ์กับนายมาร์ติน ซึ่งเป็นเพื่อนที่มาพร้อมกัน 1 ใน 4 คน จึงแนะนำให้มาตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลก็ไม่สนใจ แต่กลับจะเดินทางไปเที่ยวฟูลมูนปาร์ตี้ ต่อที่เกาะพะงัน

จากการสอบสวน ทราบว่านายมาร์ตินได้เดินทางกลับมาที่โรงแรมดังกล่าวอีกครั้งหนึ่งเพียงคนเดียว พร้อมทั้งบอกว่าถูกแฟนของผู้เสียหายชกต่อยมา และนายมาร์ตินได้เดินทางไปแจ้งความที่เกาะเต่า แต่ไม่ได้แจ้งความว่าตนเองถูกทำร้าย

แต่จะไปแจ้งความว่าผู้เสียหายถูกข่มขืนโดยคนอื่น ซึ่งทางพนักงานสอบสวนได้รับแจ้งความไว้ เรื่องโทรศัพท์และเงินจำนวน 3,000 บาทและเอกสารหาย

ในส่วนของคดีจึงยุติเพียงเท่านี้ เนื่องจากไม่มีพยานหลักฐานใดๆ ทั้งหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ และคำให้การสอบปากคำว่ามีเหตุมอมยาข่มขืนขึ้นจริง เพื่อไม่ให้สังคมเกิดความสับสน

อย่างไรก็ตามทาง ผบ.ตร. ได้สั่งการว่าจะไม่ปกป้องเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ถ้าไม่รับเรื่องร้องทุกข์ ก็จะดำเนินการทั้งวินัยและอาญาอย่างเด็ดขาด เพื่อปกป้องชื่อเสียงและแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของประเทศไทย

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ เปิดเผยต่ออีกว่า เมื่อวันที่ 30 ส.ค. ตนและคณะทำงาน นำเรื่องไปรายงานความคืบหน้ากับคณะกงสุลอังกฤษประจำประเทศไทย ซึ่งได้ดำเนินการมาตลอดก่อนหน้านี้ ทราบว่ากงสุลยังไม่ได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้เสียหาย จนกระทั่งตอนนี้ก็ยังไม่ได้ดำเนินการอย่างถูกต้องทั้งในไทยและในประเทศอังกฤษ

ทางผู้เป็นแม่ ก็ยังไม่ได้ให้การเพิ่มเติม ทางกงสุลจะเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุได้ ก็ต่อเมื่อได้รับแจ้งจากผู้เสียหายก่อนเท่านั้น ทั้งนี้ทางกงสุลอังกฤษกล่าวชื่นชมการทำงานของตำรวจไทย ที่ดำเนินการอย่างจริงจัง โดยแสดงความมั่นใจและเชื่อมั่น ตั้งแต่วันแรกจนถึงตอนนี้

โดยจะเร่งรัดในการตรวจสอบพยานต่างๆ ที่ยืนยันว่ามีการเกิดเหตุขึ้นจริงส่งให้ทางการไทย แต่สำหรับตอนนี้ ยืนยันว่าไม่มีหลักฐานพยานใดๆ ที่ยืนยันว่าเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นจริง อย่างไรก็ตาม หากมีพยานหลักฐานใหม่เพิ่มเติม ก็พร้อมดำเนินการเพื่อภาพลักษณ์ของประเทศ

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ เปิดเผยต่ออีกว่า ที่เกาะเต่าเคยมีคดีที่นักท่องเที่ยวแจ้งความเท็จ เพื่อไปเอาเงินประกันที่ประเทศตนเอง ถูกดำเนินคดีฐานแจ้งความเท็จแล้ว 3 ราย และถูกขึ้นแบล็คลิสและเนรเทศห้ามเข้าประเทศไทย ทั้งนี้จะมีการออกหมายจับเจ้าของเพจ 2 เพจ คือ เพจสมุยไทม์ และเพจ CSI LA

ที่โพสต์ข้อความเหตุการณ์ดังกล่าว จนสร้างความเสื่อมเสียทางด้านการท่องเที่ยวและภาพลักษณ์ของประเทศไทย ขณะนี้สามารถพิสูจน์ตัวตนของเจ้าของเพจได้แล้ว โดยเพจสมุยไทม์เป็นชาวต่างชาติ ส่วนเพจ CSI LA เป็นคนไทย ที่อยู่ต่างประเทศ

“ส่วนการออกหมายจับคาดว่าจะได้ภายในวันนี้ ในข้อหานำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จ รวมทั้งคนแชร์ข้อมูลต่อกว่า 20 ราย ก็มีความผิดด้วย ก็จะออกหมายเรียกเข้ามาให้ข้อมูลเช่นกัน” บิ๊กโจ๊กกล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน