พุตยัวร์แฮนด์สอัพ! สั่งปิดผับดัง ขัดคำสั่งคสช. โจ๋นับร้อยฉี่ม่วง-ปล่อยเด็กเข้า
พุตยัวร์แฮนด์สอัพ! กรณีเมื่อวันที่ 11 ส.ค. ที่ผ่านมา ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง นำโดยนายพิริยะ ฉันทดิลก ผอ.สำนักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง นำกำลังเจ้าหน้าที่ภายใต้การอำนวยการของนายประภัสสร์ มาลากาญจน์ ผวจ.สมุทรสาคร เข้าตรวจสอบจับกุม ผับชื่อดังแห่งหนึ่ง ในอ.กระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร
ขณะเข้าตรวจค้นจับกุมในเวลาประมาณ 01.30 น. พบว่าสถานบริการดังกล่าว ยังคงเปิดให้บริการตามปกติ โดยมีนักเที่ยวจำนวนกว่า 800 คน ดื่มกิน และ เต้นอย่างเมามัน อีกทั้งยังมีการพกยาเสพติด และอุปกรณ์การเสพ เข้ามาใช้ในผับด้วย จากการตรวจสารเสพติดในปัสสาวะ ผลการตรวจสอบพบว่า นักเที่ยวที่มีปัสสาวะเป็นสีม่วง จำนวน 123 คน เป็นชาย 80 คน เป็นหญิง 43 คน พบเยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปี เข้าใช้บริการจำนวน 7 คน อายุต่ำสุด 17 ปี
ต่อมาศาลจังหวัดสมุทรสาคร มีคำพิพากษาลงโทษฐานร่วมกันเปิดสถานบริการเกินเวลา ปรับ 10,000 บาท , ฐานร่วมกันขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในเวลาห้ามขาย จำคุก 1 เดือน ปรับ 15,000 บาท , ฐานร่วมกันใช้ป้ายชื่อสถานบริการไม่ตรงกับชื่อในใบอนุญาต ปรับ 10,000 บาท รวมจำคุก 3 เดือน ปรับ 40,000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้ 2 ปี
นายประภัสสร์ มาลากาญจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร พิจารณาเห็นว่า สถานบริการดังกล่าว กระทำการฝ่าฝืนคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 22/2558 ลงวันที่ 22 กรกฎาคม 2558
เรื่อง มาตรการในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการแข่งรถยนต์และรถจักรยานยนต์ในทาง และการควบคุมสถานบริการ หรือสถานประกอบการที่เปิดให้บริการในลักษณะที่คล้ายกับสถานบริการ ข้อ 4 (3) เปิดทำการเกินกว่าเวลาตามที่กฎหมายบัญญัติ
ข้อ 4 (4) ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เกินกว่ากำหนดเวลาที่มีกฎหมายบัญญัติ และประกาศคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 50 ลงวันที่ 15 มกราคม 2505 ข้อ 2 ซึ่งมีพฤติการณ์ขัดต่อความสงบ เรียบร้อยและนโยบายจัดระเบียบสังคมของรัฐบาล ดังนั้นอาศัยอำนาจแห่งคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ และประกาศคณะปฏิวัติ จึงให้ปิดสถานบริการ
และห้ามมิให้มีการเปิด สถานบริการหรือสถานประกอบการที่เปิดให้บริการในลักษณะที่คล้ายกับสถานบริการในสถานที่ดังกล่าว เป็นเวลา 5 ปี นับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่ง และหากผู้ประกอบการฝ่าฝืนคำสั่งนี้ ถือว่าขัดคำสั่งเจ้าพนักงาน ซึ่งมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 368
หากผู้ประกอบการสถานบริการไม่เห็นด้วยกับคำสั่งจังหวัดสมุทรสาคร มีสิทธิฟ้องคดีต่อศาลปกครอง โดยทำคำฟ้องเป็นหนังสือยื่นต่อศาลปกครองกลาง หรือส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียนไปยังศาลปกครองกลาง ภายใน 90 วัน นับแต่วันที่ได้รับทราบคำสั่งนี้
