รวบเมียเจ้าของไร่ ที่แท้วางแผนฆ่าตัดคอฝังดิน อ้างชู้บอกผัวทำมนต์ดำใส่ กะแค่ให้พิการ!

เมื่อวันที่ 31 ส.ค. พ.ต.อ.ภูมินทร์ พุ่มพันธ์ม่วง ผกก.5 บก.ป. พ.ต.ท.อภิสัณฐ์ ไชยรัตน์ รอง ผกก.5 บก.ป พ.ต.ต.มนต์ชัย เพ็งเลิศ สว.กก.5 บก.ป. พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่กก.5บก.ป. เข้าจับกุม นางสุภัชญา หรือเอียด ศิริสุข 47 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดหาญจนบุรี ที่ 440/2561 ลงวันที่ 31 ส.ค. 2561 ในข้อหา “ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนโดยทรมานหรือโดยกระทำทารุณโหดร้าย”

โดยผู้ต้องหาเป็นภรรยาของนายนวพงศ์ สัจธรรมภิวัตน์ อายุ 56 ปี เจ้าของไร่ใน จ.กาญจนบุรี ที่ถูกนายภูผาทอง หรือใหญ่ ผาทองภูมิ อายุ 36 ปี และพวกรวม 5 คน ฆ่าตัดคอก่อนนำไปเผาและฝังกลางไร่มันบนเขาใน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี เมื่อปี 2558 และเพิ่งถูกจับกุมในตัวเมือง จ.กาญจนบุรี เมื่อวันที่ 29 ส.ค.ที่ผ่านมา

การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากหลังที่ตำรวจกองปราบปรามได้จับกุมผู้ต้องทั้งหมด 5 ราย ประกอบด้วย นายภูผาทอง หรือใหญ่ ผาทองภูมิ อายุ 36 ปี ชาวจ.กาญจนบุรี , นายโซนี อายุ 25 ปี สัญชาติพม่า , นายนิวอ่อง หรือโอม อายุ อายุ 25 ปี สัญชาติพม่า , นายณัฐพล หรือกลอ์ฟ วิวัฏฏ์กุลธร อายุ 27 ปี ชาวจ.นครปฐม , นายมนตรี หรือ อิม สูนคำ อายุ 22 ปี

ที่ร่วมกันก่อเหตุฆ่าโหดนายจ้าง ต่อมาได้สืบสวนขยายผลเพิ่มเติมจนพบว่า นางสุภัชญา ภรรยาผู้ตายมีส่วนรู้เห็นในการวางแผนสังหารครั้งนี้ด้วย โดยทางเจ้าหน้าที่จึงได้รวบรวมหลักฐานขออำนาจศาลจังหวัดกาญจนบุรีออกหมายจับและวางแผนเข้าจับกุมดังกล่าว

สอบสวน นางสุภัชญา ให้การภาคเสธว่า ตนเองกับสามีที่เสียชีวิตคบหาและอยู่กินกันมาจนมีลูก 3 คน แต่หลังจากนายใหญ่ เข้ามาทำงานที่ไร่ก็เริ่มสนิทสนมกันจนมีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกัน ในตลอดระยะเวลาที่แอบคบกับนายใหญ่นั้น ตนกับสามีก็เริ่มทะเลาะเบาะแวงกันโดยตลอด

นอกจากนั้น นายใหญ่ ก็พยามบอกกับตนและลูกทั้ง 3 คน ว่าสามีมีความฝักใฝ่ด้านมนต์ดำไสยศาสตร์ อีกทั้งยังทำมนต์ดำใส่ทุกคนในบ้าน ซึ่งตนเองก็เชื่อสิ่งที่นายใหญ่พูด ต่อมาก่อนเกิดเหตุ 1 เดือน นายใหญ่ได้พูดคุยกับตนว่าจะลงมือทำร้ายสามีตน โดยต้องการทำให้ขั้นพิการแต่ไม่ถึงขั้นเสียชีวิต แต่เมื่อถึงวันก่อเหตุไม่ได้เป็นตามที่ตกลงกัน ซึ่งตนก็ไม่รู้จะทำอย่างไรก็ปล่อยให้เรื่องนี้เงียบไป

รายงานข่าวแจ้งว่า หลังจากผู้ตายเสียชีวิตลงทางนางสุภัชญา หรือเอียด ภรรยาผู้ตายได้บอกกับลูกทั้ง 3 คน ว่าพ่อบวชเป็นพระอยู่ที่ประเทศพม่า พร้อมกับเก็บงำเรื่องราวที่เกิดขึ้นไว้คนเดียว โดยย้ายที่อยู่ไปที่ ต.ปิล็อก อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี กับลูกพร้อมกับตัวนายใหญ่ด้วย ส่วนลูกน้องคนอื่นก็แยกย้ายกันไปคนล่ะทาง

เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาและสอบปากคำก่อนที่จะควบคุมตัวส่งศาลจ.กาญจนบุรีดำเนินคดีต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน