เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 20 ธ.ค. ในการพระราชพิธีบำเพ็ญพระราชกุศลพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ซึ่งดำเนินเป็นวันที่ 68 นายประสงค์ พูนธเนศ อธิบดีกรมสรรพากร เป็นประธานบำเพ็ญกุศลสวดพระอภิธรรมพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช จากนั้นถวายภัตตาหารเช้าแด่พระพิธีธรรม 8 รูป จากวัดอนงคารามวรวิหาร และวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ราชวรมหาวิหาร ที่สวดพระอภิธรรมมาตั้งแต่ค่ำวันที่ 19 ธ.ค. โดยมีหน่วยงานในสังกัดกระทรวงการคลัง ได้แก่ กรรมสรรพากร, สำนักงานคณะกรรมการและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ร่วมเป็นเจ้าภาพในการบำเพ็ญกุศลสวดพระอภิธรรมพระบรมศพ

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

สำนักพระราชวังได้สรุปยอดรวมประชาชนที่เดินทางมาสักการะพระบรมศพ เมื่อวันที่ 19 ธ.ค. หลังสำนักพระราชวังปิดการขึ้นกราบสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในเวลา 23.02 น. จากกำหนดเดิมเวลา 21.00 น. เนื่องจากยังมีประชาชนเข้าแถวรอเข้าสักการะพระบรมศพเป็นจำนวนมาก โดยมีจำนวนทั้งสิ้น 50,583 คน รวม 50 วัน มี 1,973,695 คน และมีประชาชนถวายเงินเพื่อร่วมบำเพ็ญพระราชกุศลเป็นเงิน 4,596,651.75 บาท รวม 50 วัน เป็นเงินทั้งสิ้น 155,524,090.75 บาท

นายชัยยะ คงชื่น อายุ 56 ปี ชาวไทใหญ่

นายชัยยะ คงชื่น อายุ 56 ปี ชาวไทใหญ่

จากนั้นเวลา 10.30 น. นางบุษยา มาทแล็ง ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ เป็นประธานบำเพ็ญกุศลสวดพระอภิธรรมพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง และถวายภัตตาหารเพลแด่พระพิธีธรรม 8 รูป จากวัดบวรนิเวศวิหาร และวัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร ที่สวดพระอภิธรรมพระบรมศพ โดยมีหน่วยงานในสังกัดกระทรวงการต่างประเทศ ได้แก่ สำนักงานรัฐมนตรี, กรมพิธีการทูต, กรมการกงสุล, กรมสารนิเทศ, กรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ, กรมองค์การระหว่างประเทศ, กรมความร่วมมือระหว่างประเทศ ร่วมเป็นเจ้าภาพในการบำเพ็ญกุศลสวดพระอภิธรรมพระบรมศพ

201612191414306-20100315122028

ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า วันนี้เป็นวันที่ 50 ที่มีพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ประชาชนเข้าถวายสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เบื้องหน้าพระบรมโกศ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ตั้งแต่เวลา 05.00-21.00 น. (ยกเว้นช่วงมีพระราชพิธีบนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท) โดยมีประชาชนจากทั่วทุกสารทิศเดินทางมาเฝ้ารอต่อคิวเพื่อเข้าสักการะพระบรมศพตั้งแต่เช้ามืด ภายหลังเข้ากราบถวายสักการะพระบรมศพแล้ว สำนักพระราชวังแจกภาพพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ขนาด 5 คูณ 7 นิ้ว ที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานแก่พสกนิกรทุกคนเก็บไว้เป็นที่ระลึก

201612191416354-20100315122028

นายชัยยะ คงชื่น อายุ 56 ปี ชาวไทใหญ่ ซึ่งเป็นประธานชมรมการศึกษาวัฒนธรรม จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า วันนี้นำชาวไทใหญ่จำนวน 400 คน จากหมู่บ้านต่างๆ ในจ.เชียงใหม่ จ.เชียงราย และจ.แม่ฮ่องสอน นอกจากนี้ ก็มีชาวไทใหญ่ที่อยู่ในกรุงเทพฯ และจ.พระนครศรีอยุธยา โดยออกจากเชียงใหม่เวลา 15.00 น. วันที่ 19 ธ.ค. และมาถึงสนามหลวงเวลา 02.30 น. เพราะอยากมาถึงตั้งแต่เช้าตรู่เพื่อต่อคิวกันเอง ทุกคนมีใจเดียวกันที่อยากจะมากราบพ่อหลวง เพื่อไว้อาลัยเป็นครั้งสุดท้าย

201612191737113-20120402141120

“พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณต่อพวกเราชาวไทยใหญ่มาก เมื่ออดีตชาวไทใหญ่อาศัยอยู่ในเขตเมียนมา รัฐฉาน ซึ่งมองว่าเราเป็นศัตรู มีปัญหาแย่งชิงเหมืองทองคำ เราจึงต้องหนีออกมา 16-17 หลังคาเรือน เมื่อมาอยู่ที่นี่ พระองค์ก็เสด็จฯ ไปเยี่ยม และถามถึงเรื่องราวต่างๆ เมื่อปี 2516 พระราชทานที่อยู่และทำให้เรามีตัวตน ตอนนั้นยังไม่มีถนน ต้องนั่งเรือเข้าไปในหมู่บ้าน พระองค์ก็ทรงนั่งเรือเข้าไป หลังจากนั้นจึงได้พระราชทานเส้นทางรถให้เรา และพระราชทานโรงเรียนเจ้าพ่อหลวงอุปถัมภ์ให้ลูกหลานได้เรียน ถือเป็นความประทับใจในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ นอกจากนี้ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ยังพระราชทานอาชีพอย่างการทอผ้าส่งศิลปาชีพให้พวกเรา ทำให้เรารักพระองค์ทั้งสองอย่างสุดหัวใจ เพราะหากไม่มีพระองค์ ชาวไทใหญ่ก็คงจบชีวิตแค่นั้น ไม่อาจมีลูกหลานได้หลายรุ่นเช่นนี้ แม้ไม่เคยได้รับเสด็จ แต่ก็รู้สึกซาบซึ้งในสิ่งที่พระองค์ทรงทำเพื่อชาวไทยใหญ่เสมอ ทุกวันนี้คนในหมู่บ้านมีอาชีพและมีรายได้มั่นคง ก็จากสิ่งที่พระองค์พระราชทานให้แก่เรา” นายชัยยะกล่าว

201612191737115-20120402141120

น.ส.ภัทรศยา สกุลรักษาทรัพย์ อายุ 18 ปี นักเรียนชั้น ม.6 โรงเรียนท่ามะกาวิทยาคม จ.กาญจนบุรี กล่าวว่า ตนเดินทางมากับคณะครูและเพื่อนนักเรียน โดยออกจาก จ.กาญจนบุรี ตั้งแต่ 24.00 น. และมาเข้าคิวที่สนามหลวงประมาณ 03.00 น. จึงได้เข้าสักการะพระบรมศพเวลา 12.00 น. แม้จะรอนานถึง 9 ชั่วโมง แต่ก็ไม่รู้สึกเหนื่อยเลย เพราะตั้งใจไว้แล้วว่าถ้ามีโอกาสสักครั้งในชีวิตจะต้องมาให้ได้ เมื่อได้เข้าสักการะพระบรมศพก็รู้สึกดีใจและตื้นตันใจมาก

201612191737128-20120402141120

“แม้หนูจะเกิดไม่ทันเห็นพระองค์เสด็จพระราชดำเนินไปทรงงานตามที่ต่างๆ แต่ก็ติดตามข่าวและศึกษาพระราชกรณียกิจที่พระองค์ทรงทำเพื่อประชาชน อย่างโครงการชั่งหัวมันตามพระราชดำริที่ได้เปลี่ยนพื้นที่แห้งแล้งว่างเปล่า ให้กลายเป็นศูนย์รวมการปลูกพืชเศรษฐกิจ และเป็นแหล่งเรียนรู้ของชุมชน พระองค์ทรงมีพระอัจฉริยภาพในทุกด้าน ทรงเป็นแบบอย่างที่ดีให้ประชาชนเจริญรอยตาม ทำให้หนูรักและเทิดทูนพระองค์มาก หนูจะตอบแทนพระองค์ด้วยการเป็นคนดีของสังคม และจะน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการดำเนินชีวิต” น.ส.ภัทรศยา กล่าวด้วยความตื้นตัน

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน