กรณีเหตุระทึกกลางเมืองกรุง โชเฟอร์รถบรรทุก 6 ล้อ เมายาเสพติดซิ่งรถหนีตำรวจไล่ชนดะรถยนต์ จยย. พังเสียหายรวม 41 คัน ตั้งแต่ท้องที่สน.พญาไท สน.มักกะสัน และสน.ทองหล่อ ถูกตำรวจยิงยางจนแตกไม่ยอมสิ้นฤทธิ์ขับหนีจนน้ำมันหมด จนถูกชาวบ้านรุมประชาทัณฑ์น่วมก่อนคุมตัวส่งเจ้าหน้าที่เมื่อวันที่ 21 ธ.ค.ที่ผ่านมา โดยบริษัทประกันภัยเร่งเยียวยาผู้เสียหายเผยมีทุนประกันแค่ 6 แสนเท่านั้น หากเกินให้ไปฟ้องบริษัทนายจ้างคนก่อเหตุได้ ตำรวจเตรียมนำโชเฟอร์ตัวต้นเหตุส่งศาลฝากขัง บริษัทค้าวัสดุก่อสร้างนายจ้างก็เตรียมเข้าให้ปากคำ เผยถูกเรียกร้องค่าเสียหายมาแล้วรวมกว่า 2.5 ล้าน ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
อ่านข่าว 6 ล้อชนดะอ่วม 41 คันซ่อม 2.5 ล้าน เผยทุนประกันแค่ 6 แสน หากเกินให้ไปฟ้องบริษัทนายจ้าง
ความคืบหน้า เมื่อวลา 10.00 น. วันที่ 23 ธ.ค. ร.ต.อ.สุทธิพงษ์ โสระบุตร รองสว.สส. สน.ทองหล่อ นำตัวนายเอกพจน์ ยศศิริ อายุ 27 ปี คนขับรถขนส่งวัสดุก่อสร้าง บริษัทชัยภิวัตร จำกัด ไปขอฝากขังที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ โดยนายเอกพจน์ยังคงมีสีหน้าเรียบเฉย เหม่อลอย เดินขึ้นรถควบคุมผู้ต้องขังไปส่งศาล
พ.ต.ท.นพดล สามารถ รอง ผกก.สอบสวน สน.ทองหล่อ กล่าวว่า ขณะนี้สรุปยอดความเสียหายของท้องที่ สน.ทองหล่อ มีจำนวน 32 คัน สน.มักกะสัน จำนวน 10 คัน รวมแล้วมีรถส่วนบุคคลจำนวน 34 คัน รถจักยานยนต์ 8 คัน รวมทั้งหมดจำนวน 42 คัน ซึ่งตอนนี้ตัวแทนบริษัทประกันภัยสินมั่นคง ได้เจรจาตกลงชดใช้ค่าเสียหายร่วมกับทางบริษัท ชัยภิวัตร จำกัด เพื่อที่จะชดใช้ค่าเสียหายให้กับเจ้าของรถยนต์
โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อหากับนายเอกพจน์ ยศศิริ จำนวน 7 ข้อหา 1.มียาเสพติด (ยาไอซ์) ไว้ในครอบครอง เพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย 2.เสพยาเสพติด 3.ขับรถขณะเสพยาเสพติด 4.ไม่หยุดให้การช่วยเหลือ 5.ฝ่าฝืนสัณญาณไฟจราจร 6.ฝ่าฝืนสัณญาณมือเจ้าหน้าที่ 7.หลบหนีเจ้าพนักงานโดยไม่หยุดให้การช่วยเหลือ
Advertisement
นายสุภีร์ บุตรพรม หัวหน้าฝ่ายขนส่ง บริษัท ชัยภิวัตร จำกัด กล่าวว่า ตนไม่เคยทราบมาก่อนว่านายเอกพจน์เคยก่อเหตุในลักษณะนี้มาหลายครั้ง ซึ่งในช่วงที่มาสมัครงานก็สัมภาษณ์และสอบถามจากญาติๆ พี่น้องและตรวจปัสสาวะ แต่ไม่ได้เช็คประวัติจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งตนเองบอกกับลูกน้องเสมอว่า หากถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับแล้วออกใบสั่งให้นำมาให้ตนเลย เพราะส่วนใหญ่ลูกน้องจะโดนเรื่องออกวิ่งเลนขวา ซึ่งเป็นเรื่องปกติ โดยพนักงานขับรถส่วนใหญ่ก็จะมีเงินเดือน 10,000 บาท พร้อมมีที่พักให้ ซึ่งนายเอกพจน์เพิ่งเข้าทำงานได้เพียง 4 เดือน และไม่มีพฤติกรรมที่ผิดปกติ แต่ได้สอบถามจากเพื่อนคนงานก็บอกว่าจะเป็นเก็บตัวเงียบๆ ไม่ค่อยชอบสุงสิงกับใคร ซึ่งตนเองก็ไม่เข้าใจว่าจะขับรถหลบหนีทำไม จนมาทราบว่านายเอกพจน์เสพยาเสพติดเข้าไป จนเกิดอาการหลอนหวาดระแวง จนเกิดเรื่องขึ้น เมื่อเป็นแบบนี้ก็ต้องปล่อยให้เป็นไปตามกฎหมาย
ในส่วนจองการชดใช้ค่าเสียหายทางบริษัทประกันภัยฯ คุ้มครองจำนวน 600,000 บาท กับคู่กรณีทั้ง 42 คัน ซึ่งต้องแยกเป็นรายๆไป โดยส่วนตัวมองว่าค่าเสียหายน่าจะเกิน 2 ล้านบาท ซึ่งหากว่าทางเจ้าของรถไม่พอใจกับวงเงินที่ทางบริษัทประกันภัยจ่ายให้ ทางบริษัท ชัยภิวัตร จำกัด ยินดีชดใช้ในส่วนต่างที่เกิน โดยไม่ต้องไปยื่นเรื่องฟ้องร้อง ให้ติดต่อกับตนที่บริษัทฯ ได้เลยจะได้เจรจาค่าเสียหายกับเจ้าของรถทั้งหมดต่อไป
