เมื่อวันที่ 26 ธ.ค. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. พล.ต.ต.ชัยพร พานิชอัตรา รรท.รอง ผบช.น. พล.ต.ต.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.พรชัย ขจรกลิ่น รอง ผบก. พ.ต.อ.อรรถพล อนุสิทธิ์ ผกก.สส.2 บก.สส.บช.น. พ.ต.ท.ธนาวินท์ กาญจนวิภาส สว.กก.สส.2 พร้อมกำลัง สืบสวนกก.สส.2 จับกุม นายนพพร หรือรอน เครือนวล อายุ 35 ปี พร้อมของกลาง รถกระบะ ยี่ห้อ อีซูซุ ดีแม็ก สีดำ ทะเบียน บว-1700 ชลบุรี ยาเสพติดประเภท 1 (ไอซ์) จำนวน 59.47 กิโลกรัม ยาเสพติดประเภท 1 (ยาอี) จำนวน 1,900 เม็ด ยาเสพติดประเภท 1 (ยาบ้า) จำนวน 28,000 เม็ด

วัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 2 (เคตามีน) จำนวน 29 กิโลกรัม รถยนต์ จำนวน 2 คัน รถจักรยานยนต์ จำนวน 1 คัน สมุดบัญชีธนาคาร จำนวน 4 บัญชี โดยกล่าวหาว่า มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า, ยาอี, ไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย และมีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทประเภท 2 (เคตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย จับกุมได้ลานจอดรถข้างแมนชั่นในซอยรามอินทรา 5 แยก 7 รวมมูลค่ากว่า 200 ล้านบาท

สืบเนื่องจากชุดสืบสวนสืบทราบว่า มีเครือข่ายยาเสพติดจากจังหวัดลำปาง ลำเลียงยาเสพติดมาพักไว้ที่ย่านรามอินทรา โดยใช้รถกระบะ ยี่ห้ออีซูซุ ดีแม็ก สีดำ ทะเบียน บว-1700 ชลบุรี มีนายรอน ทราบชื่อต่อมาว่า นายนพพร เครือนวล เป็นผู้ขนส่งและนำยามาพักและส่งให้ผู้ซื้อในเขตกรุงเทพมหานคร จึงเฝ้าสะกดรอยติดตามจับกุม จนต่อมาวันที่ 25 ธันวาคม 2559 เวลา 17.45 น. เห็นพฤติการณ์ นายนพพรนำยาเสพติดจำนวน 1 ห่อ มาจากท้ายกระบะรถยนต์คันข้างต้น ซึ่งจอดอยู่ในลานจอดรถในซอยรามอินทรา 5 แยก 7 แล้วนำใส่ถุงหิ้วสีดำ จากนั้นขับรถจักรยานยนต์เพื่อที่จะนำไปส่งให้ผู้ซื้อ จึงติดตามไปจับกุม พบว่ายาเสพติดในถุงหิ้วดังกล่าวคือวัตถุออกฤทธิ์ (เคตามีน) จำนวน 1 ห่อ น้ำหนัก 1 กิโลกรัม

สอบถามนายนพพร รับว่ายังมียาเสพติดซุกซ่อนอยู่ที่ท้ายกระบะรถคันข้างต้น จึงนำตัวกลับมาทำการตรวจค้น พร้อมกับรับสารภาพว่า ทำมาแล้วปีกว่า ครั้งล่าสุดที่ถูกจับได้ค่าจ้าง 150,000 บาท โดยเพื่อนที่เคยรับงานมาก่อนหน้านี้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจยิงตาย ตนนำเบอร์โทรประสานงานต่อ จากนั้นก็ได้งานมา โดยยาเสพติดส่วนใหญ่ไปรับมาบริเวณจ.เชียงใหม่และจ.ลำพูน

ทั้งนี้ นโยบายให้ทุกหน่วยในสังกัดปฏิบัติกรณีที่มีการจับกุมคดียาเสพติด ให้ดำเนินการสืบสวนขยายผลทุกราย โดยจะนำมาตรการยึดทรัพย์ตาม พ.ร.บ.มาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ.2534 มาบังคับใช้ เพื่อทำลายเครือข่ายและตัดวงจรการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดอย่างเด็ดขาด เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ประชาชนชาวกรุงเทพมหานคร เพื่อช่วยกันสร้างสรรค์กทม.ให้เป็นมหานครแห่งความปลอดภัยต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน