เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 26 ธ.ค. ที่กรมศุลกากร นายกุลิศ สมบัติศิริ อธิบดีกรมศุลกากร พร้อมด้วยนายณัฐวุฒิ สระฏัน หัวหน้าหน่วยปฏิบัติการพิเศษกรมศุลกากร ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมสินค้าต้องกำกัดประเภทยาไวอากร้าและบุหรี่ต่างประเทศ ลักลอบและหลีกเลี่ยงหนีศุลกากร รวมมูลค่ากว่า 130 ล้านบาท

นายกุลิศ กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษกรมศุลกากร เข้าตรวจสอบตามใบขนส่งสินค้าขาเข้าที่ท่าเรือคลองเตย ซึ่งสำแดงชนิดสินค้าเป็นกลองชุด น้ำหนักรวม 3 ตัน จำนวน 82 ชิ้น โดยแอบอ้างสวมรอยชื่อบริษัทในการนำเข้าสินค้าดังกล่าว จากประเทศอินเดียและส่งผ่านทางเครื่องบินไปยังประเทศสิงคโปร์ ซึ่งเป็นจุดพักสินค้าก่อนจะลำเลียงเข้ามาภายในประเทศไทยผ่านทางเรือขนส่งสินค้า ก่อนจะเข้าตรวจสอบพบของกลางเป็นยาเพิ่มสมรรถภาพทางเพศคามากร้า และ อปาเซีย ทั้งชนิดเม็ดซองและเจลจำนวนกว่า 2 ล้านชิ้น รวมมูลค่ากว่า 120 ล้านบาท

กรณีเป็นความผิดฐานนำเข้าสินค้าต้องกำกัดเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่มีใบอนุญาต ซึ่งสินค้าดังกล่าวจะต้องมีการขอใบอนุญาตก่อนนำเข้า จากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา และเป็นการสำแดงชนิด ปริมาณ/จำนวนและน้ำหนักเป็นเท็จ ก่อนนำของกลางส่งกรมศุลกากรดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

นายกุลิศ กล่าวอีกว่า ขณะเดียวกันทางเจ้าหน้าที่ได้นำกำลังสกัดกั้นขบวนการลักลอบขนบุหรี่ที่ผลิตจากประเทศจีน นำเข้ามาภายในราชอาณาจักรโดยไม่มีหลักฐานการชำระภาษีทั้งศุลกากรและสรรพสามิต รวมจำนวนของกลาง 632 ลังหรือ 6,320,000 มวน รวมมูลค่า 12 ล้านบาท หากนำเข้ามาขายต้นทุนการผลิตซองละ 35 บาท และนำมาขายซองละ 70-80 บาท สำหรับบุหรี่ดังกล่าวเป็นบุหรี่เถื่อน ลักลอบที่มีแสตมป์ติดจากประเทศจีน และนำเข้ามาโดยไม่ได้ชำระค่าภาษีศุลกากร และค่าอากรแสตมป์ของสรรพสามิต ก่อนตรวจยึดของกลางทั้งหมดนำส่งกรมศุลกากรดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน