เมื่อเวลา 04.00 น. วันที่ 28 ธ.ค. พ.ต.อ.ธีรศักดิ์ ภิญโญ ผกก.สส.บก.น.5 พ.ต.ท.วิทวัช บูรณะ รอง ผกก.สส.บก.น.5 พ.ต.ท.วิษณุวัฒน์ ภู่ระหงษ์ สว.กก.สส.บก.น.5 และพ.ต.ต.สุรพล จันทร์สมศักดิ์ สว.กก.สส.บก.น.5 ร่วมกันนำกำลังตำรวจ กก.สส.บก.น.5 จับกุมตัวนายชัชวาล ศรีเรือง อายุ 37 ปี และนายศักดิ์ดา จิตต์ดำหริ อายุ 38 ปี พร้อมของกลางเงินสด จำนวน 10,000 บาท โทรศัพท์ไอโฟน 4 สีดำ 1 เครื่อง โทรศัพท์มือถือทรู สีดำ 1 เครื่อง ยาแวเลี่ยม จำนวน 45 เม็ด และยาอัลปร้าโซแลม จำนวน 10 เม็ด โดยจับกุมได้ที่บริเวณหน้าอพาร์ตเมนต์ บ้านพรทิพย์ ซอยเศรษฐีทวีทรัพย์ ภายในซอยสุขุมวิท 22 แขวงและเขตคลองเตย กทม.
สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 24 ธ.ค. เวลาประมาณ 22.00 น. น.ส.มล (นามสมมติ) ผู้เสียหาย ร้องทุกข์กับตำรวจ กก.สส.บก.น.5 ว่าขณะที่ตนพักอาศัยอยู่ภายในห้องพักย่านสุขุมวิท 22 จู่ๆ ก็มีชายฉกรรจ์ 3 คนบุกเข้ามาภายในห้องพัก พร้อมกับอ้างตัวเป็นตำรวจ ยศ “ร.ต.ท.” ตำแหน่งรองสารวัตร สังกัด “กองบัญชาการตำรวจสันติบาล” ทำการตรวจค้นห้องพักดังกล่าว แต่ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย จากนั้นจึงกล่าวหาผู้เสียหายมีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด และข่มขู่เหยื่อให้นำเงินสดจำนวน 100,000 บาท มาให้ เพื่อแลกกับการปล่อยตัว ด้วยความกลัว เหยื่อจึงมอบเงินที่ติดตัว จำนวน 7,500 บาท ให้ไป พร้อมทั้งต่อรองจะทยอยจ่ายเงินจำนวนที่เหลือในภายหลัง และให้เบอร์โทรศัพท์ไว้ ต่อมาเมื่อกลุ่มคนร้ายได้เบอร์โทรศัพท์เหยื่อไปแล้วนั้น มักจะโทรศัพท์มาข่มขู่ จนเหยื่อหวาดกลัวทนไม่ไหวจึงเข้าร้องทุกข์กับทางตำรวจดังกล่าว
จากนั้น ตำรวจ กก.สส.บก.น.5 ได้ทำการวางแผนให้ผู้เสียหายโทรศัพท์ติดต่อกลับไปยังกลุ่มคนร้ายเพื่อจะนัดจ่ายเงินเพิ่มเติม ที่บริเวณซอยเศรษฐีทวีทรัพย์ ภายในซอยสุขุมวิท 22 โดยคนร้ายตอบตกลง ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะวางกำลังเพื่อเฝ้าสังเกตการณ์ กระทั่งเมื่อเวลา 20.40 น. วันที่ 27 ธ.ค. ที่ผ่านมา คนร้ายทั้งสองรายได้เดินทางมายังจุดนัดหมายเพื่อรับเงิน 10,000 บาท ที่ผู้เสียหายได้ตกลงไว้ว่าจะจ่ายให้ โดยนายชัชวาลได้เข้ามาเจรจาพูดคุยกับทางผู้เสียหาย ส่วนนายศักดิ์ดายืนดูต้นทางอย่างระแวดระวัง จนผู้เสียหายได้มีการส่งมอบเงินของกลางให้กับนายชัชวาล เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแสดงตัวเข้าจับกุม พร้อมทั้งตรวจสอบเงินของกลาง พบว่าตัวเลขบนธนบัตรตรงตามที่บันทึกไว้ก่อนหน้านี้ จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน ก่อนจะดำเนินการเข้าตรวจค้นห้องพัก ชั้น3 ของอาคารไม่มีชื่อ ภายในซอยสุขุมวิท 16 พบยาอัลปร้าโซแลม และยาแวเลี่ยม ถูกซุกซ่อนอยู่ภายในห้อง โดยนายชัชวาลอ้างว่าเป็นของนายปั๊ม (ไม่ทราบชื่อจริง-นามสกุลจริง) นำมาฝากไว้ที่ห้อง แต่เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อ ก่อนควบคุมตัวคนร้ายทั้งสองรายส่งตรวจปัสสาวะเพื่อหาสารเสพติดในร่างกาย ผลคือนายชัชวาลมีปัสสาวะสีม่วง โดยรับสารภาพว่าได้เสพยาไอซ์มาก่อนหน้านี้ ส่วนนายศักดิ์ดาตรวจไม่พบสารเสพติด เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวมาสอบสวนเพิ่มเติมที่ สส.บก.น.5
สอบสวน ผู้ต้องหาทั้งสอง ให้การยอมรับสารภาพว่า พวกตนไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่อย่างใด ก่อนหน้านี้พวกตนเคยเป็นสายลับให้ตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติด ของหน่วยงานตำรวจแห่งหนึ่งในภาคใต้ (กองบังคับการตำรวจภูธรภาค8) จนได้เรียนรู้การทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทุกครั้งพวกตนจะออกตระเวนตามพื้นที่เส้นถนนสุขุมวิท เลือกเหยื่อที่มีพฤติกรรมพวกชื่นชอบขับขี่ จยย.ซิ่ง หรือพวกที่เข้าข่ายจะติดยาเสพติด และพวกสาวตามสถานบริการ เมื่อพบเหยื่อจะเข้าไปแสดงตัว โดยนายชัชวาลจะอ้างเป็นตำรวจ ยศ “ร.ต.ท.” ตำแหน่งรองสารวัตร ในสังกัดดังกล่าวส่วนที่เหลือ จะอ้างเป็นตำรวจ ยศ “ด.ต.” ในสังกัดเดียวกัน จากนั้นจะพาเหยื่อไปยังเซฟเฮ้าส์ในย่านสุขุมวิท เพื่อขู่บังคับเอาเงินจำนวนหลักหมื่นจนถึงหลักแสนเพื่อแลกกับอิสรภาพ ก่อนนำเงินที่ได้ไปใช้เที่ยวเตร่ เล่นพนันฟุตบอล รวมทั้งเสพยาเสพติด ซึ่งพวกตนยอมรับว่าทำเป็นครั้งแรก เนื่องจากได้เงินเยอะดี แล้วเชื่อว่าเหยื่อจะไม่แจ้งความเพราะความเกรงกลัว
อย่างไรก็ตามทางตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อต่อคำให้การ เนื่องจากการก่อเหตุลักษณะนี้มีการเตรียมการมาเป็นอย่างดี หากผู้เสียหายรายใดถูกคนร้ายกลุ่มนี้ ก่อเหตุลักษณะดังกล่าวสามารถเข้าชี้ตัวได้ที่ กก.สส.บก.น.5 ซึ่งเชื่อว่าคนร้ายกลุ่มนี้จะก่อเหตุมาแล้วหลายครั้ง รวมทั้งหลังจากนี้จะเร่งขยายผลติดตามตัวผู้ร่วมขบวนการที่เหลือมาให้ได้ เบื้องต้นแจ้งข้อหา “ร่วมกันบุกรุกในเวลากลางคืน,ร่วมกันกรรโชกทรัพยผู้อื่น ,ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังหรือกระทำด้วยประการใดๆ ให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย , ร่วมกันแสดงตนเป็นเจ้าพนักงานและกระทำการเป็นเจ้าพนักงานโดยตนมิได้เป็นเจ้าพนักงานที่มีอำนาจกระทำนั้น ,ร่วมกันมีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทประเภท4 ไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และแจ้งข้อกล่าวหานายชัชวาล ผู้ต้องหา เพิ่มเติมอีก 1 ข้อหา เสพยาเสพติดให้โทษประเภท1 (แอมเฟตามีน)โดยผิดกฏหมาย” ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
