เมื่อวันที่ 28 ธ.ค.59 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้รับจดหมายขอความช่วยเหลือเขียนด้วยลายมือ วอนให้ช่วยเผยแพร่ โดยข้อความในจดหมายดังกล่าว ระบุว่า “ขอความช่วยเหลือ” ฉบับที่ 5 ลงวันที่ 24 ธันวาคม 2559 ข้อความในจดหมายแจ้งว่า ผู้เขียนคือ นางสาวรสสุคนธ์ เนียมกลาง อยู่บ้านเลขที่ 47 หมู่ 14 ต.บ้านดง อ.ชาติตระการ จ.พิษณุโลก ที่ได้เดินทางไปประเทศโอมาน ตั้งแต่เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม ที่ผ่านมา แต่ปรากฏว่ายาที่นางสาวรสสุคนธ์ หรือ “จ๋า” ซึ่งเป็นยารักษาโรคประจำตัวและจ่ายยาโดยโรงพยาบาลพุทธชินราชนั้น มีตัวยาบางตัว เป็นยาต้องห้ามของประเทศโอมาน จึงถูกเจ้าหน้าที่ของโอมานจับ และถูกคุมขังในวันนั้น แม้ว่าทางบ้านจะพยายามหาทางช่วยเหลือ ส่งเอกสารการรักษาจากโรงพยาบาลส่งให้ทางสถานฑูตไทยที่ประเทศโอมาน แต่ก็ยังไม่ได้รับความช่วยเหลือใดๆ

 

ระหว่างถูกควบคุมตัวตลอด 2 เดือน “จ๋า” เล่ามาในจดหมายว่า ตนเองไม่ได้กินยา เพื่อรักษาโรคประจำตัวเลย ทำให้อาการเจ็บป่วยเริ่มกำเริบ อีกทั้งยังไม่สามารถสื่อสารกับหมอ ที่โอมานได้เพราะพูดภาษาอังกฤษไม่เก่ง นอกจากนี้ เรื่องอาหารก็ได้รับประทานเพียงแค่วันละ 1 มื้อเท่านั้น ไม่มีน้ำดื่ม ทำให้ได้รับความลำบากเดือดร้อนมาก จึงต้องการขอความช่วยเหลือด่วน

 

 

วันเดียวกัน ที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ศาลากลางจังหวัดพิษณุโลก นางสุนทรี เนียมกลาง อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 47 หมู่ 14 ต.บ้านดง อ.ชาติตระการ จ.พิษณุโลก ได้เข้าขอความช่วยเหลือลูกสาว นางสาวรสสุคนธ์ เนียมกลาง อายุ 32 ปี ซึ่งเดินทางไปหาเพื่อนที่ประเทศโอมาน และถูกจับเนื่องจากพบยารักษาโรคประจำตัวจำนวนมาก และยาบางตัวมีส่วนผสมของสารเสพติด หลังจากพยายามช่วยเหลือลูกแต่ติดปัญหาขั้นตอนในเรื่องประวัติการรักษาและใบรับรองเกี่ยวกับยาเฉพาะบางตัว ทำให้รู้สึกเป็นห่วงเกรงว่าลูกจะได้รับอันตราย หลังทราบว่าไม่ได้กินยามานานกว่า 2 เดือนแล้ว ขอให้เจ้าหน้าที่ประสานการช่วยเหลือโดยด่วนด้วย

 

นายธานินทร์ สมบูรณ์สาร พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดพิษณุโลก พ.ต.ท.สัญญา หาญวณิชานนท์ สารวัตรตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดพิษณุโลก และนายแพทย์ สมชาย พรหมมณี รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลก ได้รับเรื่องร้องเรียนจาก นางสุนทรี เนียมกลาง อายุ 52 ปี มารดาของนางสาวรสสุคนธ์ พร้อมกับกล่าวว่า เมื่อวานตนเพิ่งทราบว่าลูกพยายามขอความช่วยเหลือโดยโพสต์ข้อความลงเฟชบุ๊ค ระบุขอความช่วยเหลือ ฉบับที่ 5 ลงวันที่ 24 ธันวาคม 2559 ข้อความในจดหมายแจ้งว่า ผู้เขียนคือ นางสาวรสสุคนธ์ เนียมกลาง อยู่บ้านเลขที่ 47 หมู่ 14 ต.บ้านดง อ.ชาติตระการ จ.พิษณุโลก ที่ได้เดินทางไปประเทศโอมาน เพื่อมาหาเพื่อน ขึ้นเครื่องตั้งแต่เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม ที่ผ่านมา กระเป๋าเดินทางมียารักษาโรค สนามบินสุวรรณภูมิตรวจสอบสามารถนำยาออกนอกประเทศได้ เพราะเป็นยารักษาโรคประจำตัวและจ่ายยาโดยโรงพยาบาลพุทธชินราชพิษณุโลก เมื่อลงเครื่องปรากฏว่ากระเป๋าเดินทางไม่ผ่านการตรวจสอบเพราะพบยาบางตัว เป็นยาต้องห้ามของประเทศโอมาน จึงถูกเจ้าหน้าที่ของโอมานจับกุม และถูกคุมขังตั้งแต่ลงเครื่องเป็นเวลากว่า 2 เดือนแล้ว

 

สำหรับยาที่สแกนไม่ผ่าน คือยากันชัก ยาแก้ปวดไมเกรน ยาแก้คลื่นไส้ ยาคลายเครียด ยานอนหลับ ยาปรับความดันเลือด ก่อนเดินทางไปตรวจรักษาแพทย์ โรคไมเกรน โรคซึมเศร้า ไฮเปอร์เวเนเตอเรชั่น และสั่งจ่ายยามาให้กิน 4 เดือน นำติดตัวไปพียงครึ่งเดียวที่เหลือไว้ที่บ้าน หลังจากทราบเรื่องก็ได้พยายามหาทางช่วยเหลือ ส่งเอกสารการรักษาจากโรงพยาบาลส่งให้ทางสถานฑูตไทยที่ประเทศโอมาน แต่ก็ยังไม่ได้รับความช่วยเหลือใดๆระหว่างถูกควบคุมตัวตลอด 2 เดือน ที่สำคัญไม่ได้กินยา เพื่อรักษาโรคประจำตัวเลย ทำให้อาการเจ็บป่วยเริ่มกำเริบ อีกทั้งยังไม่สามารถสื่อสารได้เพราะพูดภาษาอังกฤษไม่เก่ง ทำให้ได้รับความลำบากเดือดร้อนมาก จึงต้องการขอความช่วยเหลือด่วน โดยหนังสือที่ลูกโพส์ตและตัวยาที่ลูกนำไปไม่หมดมาให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบด้วย

 

โดยหลังจากเจ้าหน้าที่ตรวจสอบเบื้องต้น พบว่ายา 1 ชนิดเป็นยาต้องสงสัย เพราะเป็นยาเฉพาะที่แพทย์ต้องสั่งจ่ายเพราะมีส่วนผสมของยาเสพติด อาจเป็นสาเหตุของการถูกควบคุมตัวไว้ อย่างไรก็ตามทาง พมจ.พิษณุโลก จะได้ประสานไปยังแพทย์ที่ทำการรักษาเพื่อรับรองประวัติการรักษาอาการป่วย พร้อมรับการจ่ายยาแต่ละชนิด หลังจากมีการประสานไปยังสถานฑูต ไทยในประเทศโอมาน ให้เข้าไปตรวจสอบช่วยเหลือเพื่อขอให้มีการได้รับยาในการรักษาโรคโดยเร็วก่อนอาการป่วยกำเริบจนเป็นอันตราย จากนั้นจะเร่งส่งเอกสารเพื่อทำการช่วยเหลือให้เร็วที่สุด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน