เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 30 ธ.ค. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รองผบช.น. รรท.ผบก.น.1 พล.ต.ต.ปรีชา เจริญสหายานนท์ รองผบช.น. พล.ต.ต.ชัยพร พานิชอัตรา รรท.รองผบช.น. พล.ต.ต.กัมปนาท โสภโณดร รรท.ผบก.น.9 ร่วมประชุมตรวจการปฏิบัติการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมบช.น. ในด้านการระดมกวาดล้างอาชญากรรม มาตรการป้องกันปราบปรามอาชญากรรม และโครงการฝากบ้านไว้กับตำรวจ ช่วงเทศกาลปีใหม่ 2560 ระหว่างวันที่ 26-30 ธ.ค.

ต่อมา พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.สุรชัย ควรเดชะคุปต์ รรท.ผบช.น. พล.ต.ต.ภาณุรัตน์ หลักบุญ รรท.ผบช.น. ร่วมกันแถลงผลการระดมกวาดล้างอาชญากรรมและยาเสพติดทั่วกรุงเทพมหานคร ระหว่างวันที่ 22-29 ธ.ค.2559 สามารถดำเนินจับ1.คดีความผิดต่อชีวิต ร่างกาย และเพศ จับกุม 16 ราย ผู้ต้องหา 23 คน คดีค้างเก่า 7 ราย ผู้ต้องหา 7 คน

2.คดีประทุษร้ายต่อทรัพย์ จับกุม 20 ราย ผู้ต้องหา 23 คน คดีค้างเก่า 30 ราย ผู้ต้องหา 30 คน 3.ฐานความผิดพิเศษ (ค้ามนุษย์/ทรัพยากรธรรมชาติ ฯลฯ) จับกุม 37 ราย ผู้ต้องหา 39 คน คดีค้างเก่า 1 ราย ผู้ต้องหา 1 คน 4.คดีความผิดที่รัฐเป็นผู้เสียหาย จับกุม 664 ราย ผู้ต้องหา 747 คน คดีค้างเก่า 7 ราย ผู้ต้องหา 7 คน คดียาเสพติด 5.จับกุม 260 ราย ผู้ต้องหา 263 คน 6.คดีเกี่ยวกับการแข่งรถในทางสาธารณะ จับกุม 58 ราย ผู้ต้องหา 58 คน รวมจับกุมได้ทั้งหมด 1,174 คดี จับกุมผู้ต้องหา 1,198 คน อาวุธปืน 23 กระบอก

พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า การดำเนินการต่างๆ ทางบช.น.ได้ดำเนินการอย่างจริงจังเข้มข้น โดยไปเป็นนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) การดูแลป้องกันปราบปรามอาชญากรรมช่วงวันที่ 22-29 ธ.ค.ที่ผ่านมา โดยเน้นการจับกุมอาวุธปืน ยาเสพติด และหมายจับคดีค้างเก่า

อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากประชุมดังกล่าวได้สั่งการเพิ่มเติมกำชับ ทุกพื้นที่ทั่วทั้งนครบาลตั้งจุดตรวจจุดสกัดทุกจุด เพื่อป้องกันเหตุอาชญากรรมเกิดขึ้น พร้อมทั้งได้สั่งการให้เพิ่มความเข้มข้นโครงการฝากบ้านไว้กับตำรวจ รวมถึงโครงการอื่นๆ อาทิเช่น เพื่อนบ้านเตือนภัย โดยขอความร่วมมือจากประชาชนทุกภาคส่วน และคณะกรรมการตรวจสอบและติดตามการบริหารงานตำรวจ (กต.ตร.) เข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนินการดังกล่าว เพื่อดูแลป้องกันอาชญากรรมอย่างเต็มที่ต่อไป

ด้านพล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวว่า ทางบช.น.จะดูแลความปลอดภัยอย่างเต็มที่ไม่ว่าจะเป็นด้านอาชญากรรม ด้านการจราจร และโดยเฉพาะความมั่นคง ขอประชาชนช่วยกันสอดส่องดูแล ซึ่งได้มีโครงการ อาทิเช่น เพื่อนบ้านเตือนภัย มาช่วยเสริมดูแลป้องกันอาชญากรรมที่เกิดขึ้น ฝากให้พี่น้องประชาชนปิดไฟเปิดแก๊สหุ้งต้มระหว่างที่ไม่อยู่บ้าน เพื่อไม่ให้เกิดอุบัติเกิดขึ้นกับบ้านเรือนของประชาชน โดยเฉพาะความเป็นห่วงกรณีทรัพย์สินมีค่าที่อาจถูกโจรกรรมในช่วงเทศกาลปีใหม่ ต้องเก็บไว้ให้มิดชิดเปิดภัย

ส่วนกรณีของเด็กแว้นที่อาจจะมาขับขี่รถจักรยานยนต์ยังคงดูแลอย่างต่อเนื่อง นอกจากจะถูกยึดรถจักรยานยนต์แล้ว ผู้ปกครองจะถูกทำทัณฑ์บนหรือลงโทษด้วย หากผู้กระทำความผิดเป็นเยาวชน รวมทั้งจะหามาตรการจัดการกรณีผู้ขับขี่ที่นำรถไปดัดแปลงมาขับขี่บนถนนต่อไป ช่วงเช้าที่ผ่านมาเดินทางไปตรวจสภาพการจราจรที่กองบังคับการตำรวจจราจร (บก.จร.) พบว่า มีประชาชนมาเข้าร่วมใช้แอพพลิเคชั่นโพลิสไอเลิทยู (police I lert u) เพียง 5,000-6,000 คนเท่านั้น ยังอยากให้ประชาชนทุกคนมาร่วมกันใช้แอพพลิเคชั่นดังกล่าวเพิ่มขึ้นด้วย

อย่างไรก็ตาม ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาลลงพื้นที่เอ็กซเรย์ตรวจสอบสิ่งที่เป็นต้นเหตุของการทำให้เกิดอาชญากรรม ทั้งนี้ ผบช.น. รองผบช.น. ผบก. ผกก.ทั้ง 88 สน. และเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งหมดจะอยู่ปฏิบัติงานในพื้นที่ตลอด 24 ชั่วโมง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน