ลวงสาวขืนใจ ผบ.ตร.สั่งล่าหนุ่มหื่นลวงสาว 19 ไปข่มขืน ตบทรัพย์ บังคับพาไปกดเอทีเอ็ม ก่อนเหยื่อเข้าแจ้งความ จนออกหมายจับตามล่า เผยผู้ต้องหามีประวัติเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ชอบอ้างตัวเป็นตำรวจ สร้างรูปโปรไฟล์ลวงเหยื่อ

วงจรปิดขณะบังคับเหยื่อสาวไปกดเงิน

 

กรณีนายศาสฑฎา บัวทอง อายุ 28 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับข้อหาชิงทรัพย์โดยใช้อาวุธฯ ข่มขืนกระทำชำเราฯ และกักขังหน่วงเหนี่ยวหญิงสาว อายุ 19 ปี โดยขับรถไปรับผู้เสียหายพาไปผับย่านตลิ่งชัน ก่อนจับไปขังที่บ้านหลังหนึ่ง ภายในหมู่บ้านมหาดไทย 2 แขวงบางระมาด

แล้วพาผู้เสียหายไปขืนใจในห้องนอน ก่อนใช้กำลังบังคับตบ-ตีชิงกระเป๋าสะพาย มือถือ และทรัพย์สิน จากนั้นพาไปกดเงินที่ตู้เอทีเอ็มบริเวณห้างโลตัสเอ็กซ์เพรส สาขาอุดมทรัพย์ ได้เงินไป 500 บาท แล้วทิ้งผู้เสียหายไว้ก่อนขับหนีไป ตามที่เสนอข่าวไปนั้น อ่านข่าว ล่าหนุ่มหื่น! ลวงสาว 19 ขังในบ้าน ข่มขืน-ซ้อมตบทรัพย์ พาไปกดเงินปล่อยทิ้งข้างทาง

ลวงสาวขืนใจ / เมื่อวันที่ 15 ต.ค. พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีคนร้ายหลอกหญิงสาวอายุ 19 ปี ไปข่มขืนกระทำชำเรา แล้วพาไปกดเงินจากตู้เอทีเอ็มและเอาเงินไป เหตุเกิดท้องที่ สน.ตลิ่งชัน ว่า ได้รับรายงานจากสน.ตลิ่งชันว่า เมื่อวันที่ 5 ต.ค. ผู้เสียหายอายุ 19 ปี เข้าเเจ้งความร้องทุกข์ต่อ ร.ต.ท.หญิง ณัฏฐณิชา เวชศาสตร์ พนักงานสอบสวน สน.ตลิ่งชัน ว่า

ถูกนายยศาสฑฎา บัวทอง อายุ 28 ปี พาไปหน่วงเหนี่ยวกักขังข่มขืนกระทำชำเรา และได้บังคับให้ตนพาไปกดเงินจากตู้เอทีเอ็ม และเอาเงินไป เหตุเกิดเมื่อวันที่ 5-6 ต.ค. เวลา 23.00-16.30 น. ที่บริเวณหมู่บ้านมหาดไทย 2 แขวงบางระมาด เขตตลิ่งชัน กรุงเทพมหานคร โดยมีทรัพย์ที่ถูกประทุษร้ายไปประกอบด้วย กระเป๋าสะพายข้าง, แหวน, โทรศัพท์มือถือ และ เงินสด 500 บาท

ทั้งนี้ ฝ่ายสืบสวนสน.ตลิ่งชัน ได้ลงพื้นที่ติดตามผู้ต้องหาตามจุดต่างๆ ที่คาดว่าผู้ต้องหลบหนีกบดานอยู่ จากการสืบสวนทราบว่า ผู้ต้องหามีฐานะปานกลาง แม่เป็นครู พ่อเป็นอดีตตำรวจ ผู้ต้องหามีประวัติเกี่ยวข้องกับยาเสพติด และชอบแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยจะสร้างรูปโปรไฟล์ในเฟซบุ๊กให้ดูหน้าเชื่อถือ เพื่อไว้หลอกลวงผู้อื่น

โดยช่วงที่เหยื่อล่าสุดสามารถหลบหนีมาได้ ขณะที่ถูกบังคับไปกดเอทีเอ็ม ซึ่งในช่วงเวลาดังกล่าวมีบรรดาแม่ค้าสังเกตความผิดปกติตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็น จึงเฝ้ามองอยู่ตลอดเวลา จนกระทั่งเหยื่อตะโกนร้องขอความช่วยเหลือ จึงทำให้ผู้ต้องหาหลบหนีไป ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ทำงานอย่างเต็มที่ และน่าจะได้ข่าวดีภายใน 2-3 วันนี้

ดคีดังกล่าวพนักงานสอบสวนสอบสวนปากคำผู้เสียหาย และได้รับคำร้องทุกข์ไว้เเล้ว ได้รวบรวมพยานหลักฐาน จนกระทั่งศาลจังหวัดตลิ่งชันอนุมัติออกหมายจับผู้ต้องหาที่ จ.501/61 ลงวันที่ 12 ต.ค.61 ในข้อหา ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยใช้กำลังประทุษร้าย หรือโดยผู้อื่นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ ชิงทรัพย์ในเวลากลางคืน และเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กาย หน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่นให้ปราศจากเสรีภาพในร่างกาย ขณะนี้ผู้ต้องหาอยู่ระหว่างหลบหนี

รอง โฆษก ตร. กล่าวต่อว่า คดีนี้มีความคืบหน้าไปมาก พนักงานสอบสวนยื่นคำร้องต่อศาลจนสามารถออกหมายจับได้ ขณะนี้ชุดสืบสวนกำลังเร่งรัดติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาที่ก่อเหตุ เพื่อมาดำเนินคดีตามกฎหมาย

ที่ผ่านมา พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. เน้นย้ำให้การดำเนินการสืบสวนสอบสวนในทุกคดีให้ดำเนินการด้วยความรวดเร็ว ถูกต้องตามกฎหมาย และจะต้องจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุมาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมให้ได้โดยเร็ว เพื่อบรรเทาความเสียหาย และสร้างความเชื่อมั่นให้กับพี่น้องประชาชน

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน