พิพากษา เณรคำ พรากผู้เยาว์ อนาจาร คุก 16 ปี ชี้ใช้ความศรัทธา ทำศาสนามัวหมอง!

เมื่อช่วงเช้าที่ศาลอาญา วันที่ 17 ตุลาคม ถ.รัชดาภิเษก ศาลเบิกตัว นายวิรพล สุขผล อายุ 39 ปี หรืออดีตพระวิรพล ฉัตติโก หรืออดีตหลวงปู่เณรคำ อดีตประธานสงฆ์วัดป่าขันติธรรม จ.ศรีสะเกษ จากเรือนจำกลางคลองเปรม มาฟังคำพิพากษาในคดีกระทำอนาจาร หมายเลขดำ อ.2340/60 ที่พนักงานอัยการคดีอาญา 4 โจทก์ ฟ้องเป็นจำเลยในความผิดฐานพรากผู้เยาว์เพื่อการอนาจาร ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 277,317

กรณีระหว่างเดือนม.ค.2543 ถึงกลางปี 2544 จำเลยได้พรากเด็กหญิงวัย 13 ปี เศษไปจากบิดา มารดา หรือผู้ปกครองเพื่อการอนาจารและกระทำชำเรานาน 2 ปี จนมีบุตรด้วยกัน 1 คน เหตุเกิด ต.โพธิ์ ต.หนองแก้ว อ.เมือง และอ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ ต.แสนสุข ต.ห้วยยาง อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี เกี่ยวพันกัน จำเลยให้การปฏิเสธ

โดยศาลพิเคราะห์คำเบิกความคู่ความทั้งสองเเล้วเห็นว่า ผู้เสียหายเบิกความถึงพฤติการณ์สอดคล้องเป็นลำดับเรียงเหตุการณ์ สามารถเข้าชี้ที่เกิดเหตุต่อหน้าสื่อมวลชน หากไม่ใช่เรื่องจริงคงไม่สามารถปั้นสรรเเต่งเรื่องขึ้นมากล่าวหาจำเลยได้ทัน เหตุการณ์ดังกล่าวหากมีการเผยเเพร่ไปย่อมเป็นการเสื่อมเสียชื่อเสียง อีกทั้งยังมีพยานโจทก์เบิกความถึงการโอนเงินผ่านคนกลางที่จำเลยส่งเป็นรายเดือนไปให้ผู้เสียหาย

ซึ่งคนกลางดังกล่าวไม่มีเหตุใดต้องโอนเงินให้ผู้เสียหาย การที่จำเลยอ้างว่าให้เงินคนกลางเนื่องจากสนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่เเละอำนวยความสะดวก ฟังไม่ขึ้น อีกทั้งยังมีหลักฐานเป็นบุหรี่ซิก้าที่จำเลยดูดเมื่อนำไปตรวจหาสารทางวิทยาศาสตร์ เเละพบว่าผลตรวจทางวิทยาศาสตร์ระบุถึงสารพันธุกรรมที่เข้ากันระหว่างจำเลย ผู้เสียหายเเละบุตรผู้เสียหาย

ในชั้นพิจารณาจำเลยนั้นให้การปฏิเสธที่จะตรวจดีเอ็นเอ โดยไม่มีเหตุอันควร ซึ่งหากจำเลยไม่มีความผิดย่อมไม่มีเหตุที่จะปฏิเสธ พยานหลักฐานทั้งโจทก์ จำเลย รับฟังได้โดยปราศจากข้อสงสัยว่ากระทำชำเราเราผู้เสียหายซึ่งขณะนั้นอายุไม่ถึง 15 ปี อยู่ภายใต้การปกครองของผู้เสียหายที่ 1 ที่มีศักดิ์เป็นยายจริง

  • พิพากษาโทษจำคุก

การกระทำจึงมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 277 วรรคเเรก ,317วรรค3 เป็นความผิดหลายกรรมต่างกันให้ลงโทษจำเลยฐานผู้ใดกระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปี ซึ่งมิใช่ภริยาหรือสามีของตน โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม จำคุก 8 ปี เเละฐานพรากเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีจากบิดามารดาเพื่อการอนาจาร ให้ลงโทษจำคุก 8 ปี รวมลงโทษทั้งสิ้น 16 ปี

โดยศาลยังเห็นว่าพฤติการณ์ของจำเลยใช้ความเชื่อจากศรัทธามาใช้ประกอบการกระทำผิด ส่งผลให้ศาสนามัวหมอง เป็นเรื่องร้ายเเรง จึงให้นับโทษคดีนี้ต่อจากคดีในศาลอาญาที่จำเลยต้องคำพิพากษาในคดีฉ้อโกง,ฟอกเงิน ที่ศาลมีคำพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยไว้สูงสุด 20 ปีด้วย

ทั้งนี้ ผู้เสียหายซึ่งถูกอนาจารในคดีนี้ ยังเดินทางมาฟังคำพิพากษา โดยยืนยันว่านายวิรพลเคยกระทำความผิดจริงในขณะที่ยังคงสมณะเป็นสงฆ์ และขณะนี้บุตรชายมีอายุ 16 ปีแล้ว ก่อนหน้านี้นายวิรพล ก็เคยส่งเสียเลี้ยงดูและให้เงินเดือนละ 10,000 บาท แต่หลังจากถูกดำเนินคดี นายวิรพลก็ไม่เคยส่งเงินมาช่วยเหลืออีก

ทำให้ต้องยื่นฟ้องต่อศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดศรีสะเกษ เพื่อเรียกร้องค่าดูแลบุตรเป็นเงิน 40 ล้านบาท เมื่อเดือนกันยายน ปี 2556 ซึ่งศาลมีคำสั่งให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบชั่วคราวจนกว่าศาลอาญามีคำพิพากษาในคดีพรากผู้เยาว์นี้ก่อน

ทั้งนี้ นายวิรพลถูกส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดน จากศาลชั้นต้นแห่งรัฐบาลกลางรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา มีคำสั่งให้ส่งตัวจำเลยกลับมาดำเนินคดีที่ไทยเมื่อปี 2560 และล่าสุดศาลพิพากษาให้จำคุกฐานฉ้อโกงประชาชน รวม 87 ปี /พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เป็นเวลา 3 ปี และความผิดตามพ.ร.บ.ฟอกเงิน เป็นจำคุก 24 ปี รวมจำคุกจำเลยทั้งสิ้น 114 ปี แต่ตามกฎหมายเมื่อรวมโทษทุกกระทงแล้ว จำคุกสูงสุดตามกฎหมายได้ 20 ปี และให้ชดใช้เงินกับผู้เสียหายกับ 29 ราย ตามจำนวนที่ฉ้อโกงไป

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน