เมื่อเวลา 09.09 น. วันที่ 20 ก.ย. ที่กระทรวงมหาดไทย นายสายัณห์ อินทรภักดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง พร้อมบุตรสาว 2 คน เดินทางเข้าสักการะอนุสาวรีย์สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ จากนั้น ยื่นหนังสือถึง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทยและนายกฤษฎา บุญราช ปลัดกระทรวงมหาดไทย ผ่านทางกองกลาง สำนักปลัดกระทรวงมทหาดไทย เพื่อร้องขอความเป็นธรรมกรณีการแต่งตั้งโยกย้ายผู้ว่าราชการจังหวัดตามมติ ครม.เมื่อวันที่ 13 ก.ย. ที่ผ่านมา
นายสายัณห์ กล่าวว่า วันนี้เดินทางมาสักการะกรมกพระยาฯ เพื่อทูลความให้พระองค์รับทราบว่า จะมายื่นหนังสือเพื่อขอความเป็นธรรม โดยอยากให้ทบทวนการแต่งตั้งบุคคลที่อยู่ในตำแหน่งรองผู้ว่าราชการจังหวัดที่มีความอาวุโสน้อยเพียง 1-2 ปี ว่าได้รับได้การแต่งตั้งเร็วเกินไปหรือไม่ มีการใช้ระบบอุ้มชูอุปถัมภ์ และสนับสนุนให้ขึ้นเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดเร็วไปหรือไม่ ทั้งนี้ ตนมีอาวุโสถึง 8 ปี 4 เดือน ขณะที่รองผู้ว่าราชการจังหวัดบางคนมีอายุราชการเพียง 1-2 ปี กลับได้ขึ้นตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดจำนวนมาก ดังนั้น จึงต้องมาร้องขอความเป็นธรรม
ยืนยันว่า ไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง เพราะเหลืออายุราชการเพียง 1 ปีเท่านั้น แต่ทำเพื่อคนรุ่นต่อไป เพราะหากปล่อยให้ระบบเป็นแบบนี้ต่อไป จะเป็นการทำลายขวัญกำลังใจ รวมทั้งทำลายระบบการแต่งตั้ง ผู้ที่ได้ขึ้นเป็นผู้ว่าฯ ซึ่งเป็นพ่อเมืองก็ไม่สง่างาม
นายสายัณห์ กล่าวต่อว่า หากพิจารณาในส่วนของเกณฑ์การคัดเลือก ทั้งความอาวุโสและประวัติการรับราชการนั้น ตนไม่เคยถูกร้องเรียนหรือตั้งคณะกรรมการสอบทางวินัยแต่อย่างใด ซึ่งนายนิพนธ์ บุญญภัทโร อดีตเลขาฯ นายกฯ นายประชา เตรัตน์ สปท.ฐานะคณะทำงาน รมว.มหาดไทย และ ร.ต.ปกครอง จินดาพล อดีต ผวจ.สงขลา พร้อมให้การรับรองคุณสมบัติให้ รวมทั้งการแสดงวิสัยทัศน์ ก็น่าจะทำให้ตนผ่านการคัดเลือก เพราะทุกคนรับทราบกรอบการสอบวิสัยทัศน์อยู่แล้ว ซึ่งคะแนนในส่วนนี้ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของคณะกรรมการฯ ที่จะพิจารณาตัดสิน ทั้งนี้ อยากให้ทางกระทรวงมหาดไทยให้พิจารณาข้อร้องเรียนดังกล่าวให้เสร็จภายในวันที่ 25 ก.ย.นี้ โดยหากไม่ได้รับความเป็นธรรม ก็จะยื่นร้องต่อศาลปกครองและคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม (กพค.) ต่อไป
แต่หากได้รับความเป็นธรรมก็จะขอลาออกจากตำแหน่งทันที เพื่อให้เป็นบรรทัดฐานต่อไป โดยหลังจากนี้ตนจะเดินทางไปยื่นถวายฎีกาที่สำนักพระราชวัง ซึ่งในรายละเอียดของฎีกาจะมีข้อมูลเชิงลึก ส่วนหนึ่งจะระบุถึงชื่อและพฤติกรรมของคณะกรรมการพิจารณา ผู้ที่สมควรได้รับคัดเลือกเป็นผู้ว่าราชการจังหวัด
“ผมขอฝากไปถึงนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ว่าผมไม่ใช่คนก้าวร้าวและมักใหญ่ใฝ่สูง แต่ครั้งนี้เป็นปีสุดท้ายในชีวิตราชการแล้ว หากไม่ทำอะไร เอาแต่นั่งบ่นเฉยๆ ความเลวร้ายก็จะเกิดขึ้นในกระทรวงตลอดไป ดังนั้นอยากขอให้พิจารณาผู้ที่อาวุโสตั้งแต่ 3 ปี ควรได้รับการแต่งตั้ง แต่พวกที่อาวุโสแค่ 1-2 ปี ควรพิจารณทบทวน ไม่อยากให้ข้ามหัวรุ่นพี่ขึ้นไป” นายสายัณห์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้นเวลาประมาณ 09.30 น. นายสายัณห์พร้อมบุตรสาว เดินทางไปยื่นถวายฎีกาต่อที่สำนักพระราชวัง ก่อนที่จะเดินทางต่อไปยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่อนายกฯ ที่ทำเนียบรัฐบาลต่อในเวลา 10.30 น.
