รอสอบโชเฟอร์แท็กซี่ คู่กรณี บิ๊กป.ป.ช. ตร.ชี้ หากจะแจ้ง ข้อหาพยายามฆ่า ต้องมีผู้เสียหาย หากไม่มี สำนวนจะดูล่องลอย ฝากผ่านสื่อ ให้รีบเข้าให้การ
บิ๊กป.ป.ช. / จากกรณี นายพิเศษ นาคะพันธ์ อายุ 52 ปี ผู้ช่วยเลขาธิการ ป.ป.ช. ชักปืนข่มขู่คนขับรถแท็กซี่ ภายใน ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ ปรากฎเป็นคลิปดังกระฉ่อน เป็นที่ฮือฮาในโลกออนไลน์ หลังเกิดเหตุนายพิเศษ ได้เข้าพบ พนักงานสอบสวน สน.ทุ่งสองห้อง เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา พร้อมปฎิเสธที่จะให้การใดๆ โดยขอไปให้การในชั้นศาล ตามที่เป็นข่าวไปแล้ว อ่านข่าว : บิ๊กป.ป.ช.โร่พบตร. มอบปืนใช้ขู่แท็กซี่ แต่ยังแจ้งข้อหาพยายามฆ่าไม่ได้
ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 19 ต.ค. พ.ต.ท.สุบรรณ อธิเศรษฐ์ รองผกก.(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง กล่าวว่า หลังจากที่นายพิเศษ นำปืนมามอบให้พนักงานสอบสวน เมื่อค่ำวันที่ 18 ต.ค. ที่ผ่านมา โดยในวันนี้ทางพนักงานสอบสวน ได้ส่งปืนไปให้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบ
คาดว่าจะใช้ตรวจสอบ นาน 3 สัปดาห์ เนื่องจาก ต้องตรวจสอบ 2 ส่วน คือพิจารณาว่า อาวุธปืนนี้มีร่องรอย การขูดลบเลขทะเบียนหรือไม่ หากพบว่ามี ก็อาจแจ้งข้อหาปลอมแปลงทะเบียนปืนได้ และตรวจสอบว่า ปืนกระบอกนี้สามารถยิงได้หรือไม่ หากยิงไม่ได้ เกิดจากความบกพร่องในส่วนของตัวปืน หรือเครื่องกระสุนปืน ส่วนนี้หากพบว่าปืน อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน ก็จะเก็บเป็นหลักฐาน
พ.ต.ท.สุบรรณกล่าวต่อว่า ในส่วนของการ จะตั้งข้อหาพยายามฆ่า หรือไม่นั้น หากโชเฟอร์แท็กซี่ เดินทางมาให้ปากคำ ก็อาจเป็นหลักฐานสำคัญ ในการตั้งข้อหาพยายามฆ่าได้ ส่วนที่ทางนายพิเศษ ไม่ขอให้การในชั้นสอบสวน ทางเจ้าหน้าที่ จึงดำเนินการสืบว่าปืนที่มามอบให้ เป็นปืนกระบอกเดียวกับปืนที่ปรากฎในคลิปหรือไม่ พร้อมทั้งหาตัวโชเฟอร์แท็กซี่ มาให้ปากคำกับตำรวจ เพราะเจ้าหน้าที่ยังไม่ทราบว่าเป็นใคร
“ที่เห็นไปออกรายการข่าวช่องหนึ่ง ก็อยากให้สื่อมวลชนช่วยประสานทางผู้ขับขี่รถแท็กซี่มาให้ปากคำกับตำรวจด้วย เพราะข้อหาพยายามฆ่านั้น จำต้องมีผู้เสียหาย เพื่อระบุในสำนวนว่าพยายามฆ่าใคร หากไม่มีผู้เสียหาย สำนวนจะดูล่องลอยไป” พ.ต.ท.สุบรรณกล่าว
