ตำรวจ สน.พญาไท ไล่จับระทึก เด็กแว้น ซิ่งป่วนเมือง เจอต้อนเข้าซอยตันก่อนพังบ้านประชาชนเข้าไปแอบ เจ้าหน้าที่รู้ทันโดนรวบยกแก๊ง พบหนุ่มลูกอดีตตำรวจร่วมก๊วนอยู่ด้วย โดยสามารถจับกุมได้เป็นชาย 17 คน และหญิง 5 คน
เด็กแว้น / เมื่อเวลา 04.30 น. วันที่ 22 ต.ค. พ.ต.ท.บวรภพ สุนทรเรขา รอง ผกก.จร.สน.พญาไท พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายจราจร สน.พญาไท ร่วมกันปราบปรามจับกุมกลุ่ม เด็กแว้น ที่มีการแข่งรถในทางสาธารณะ และทำการปิดล้อมภายในซอยสวนเงิน แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กทม. โดยสามารถควบคุมตัวเยาวชนชายและหญิงได้ 22 คน และรถจักรยานยนต์ 15 คัน
ที่เกิดเหตุอยู่สุดซอยสวนเงิน 500 เมตร ซึ่งเป็นบ้านไม้ชั้นเดียว เลขที่ 293/20 มีรั้วรอบขอบชิด พบเยาวชนชาย 17 คน และหญิง 5 คน รวม 22 คน มีอายุตั้งแต่ 14-20 ปี พร้อมรถจักรยานยนต์ 15 คัน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบคุมตัวไว้ จากการตรวจสอบพบว่ากลุ่มวัยรุ่นมีใบขับขี่เพียงคนเดียว ส่วนรถจักรยานยนต์ทั้งหมดมีทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย ทั้งนี้ มีนายณัชพล หรือ พล พรหมคง อายุ 20 ปี นักศึกษาปีที่ 2 คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นลูกชายของ พ.ต.อ.พันธ์ศักดิ์ พรหมคง อดีตข้าราชการตำรวจ นรต.รุ่น 33
จากการสอบถาม น.ส.มัลลิกา พาวุฒิ อายุ 26 ปี ผู้อาศัยบ้านหลังดังกล่าว กล่าวว่า ตนพักอาศัยกับครอบครัว ก่อนเกิดเหตุกลางดึกเวลาประมาณ 04.00 น. ได้ยินเสียงรถจักรยานยนต์ดังลั่น ซึ่งตนคิดว่ามีอุบัติเหตุร้ายแรงอยู่บนถนน จากนั้นเสียงรถเริ่มดังสนั่นภายในซอยจนมาถึงที่หน้าบ้านของตน ต่อมาเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเปิดประตูออกมาดูเห็นเด็กวัยรุ่นและจักรยานยนต์อยู่เต็มพื้นที่หน้าบ้าน ซึ่งตกใจและกลัวมาก ไม่คาดคิดมาก่อนว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นภายในบ้านตน
ด้าน พ.ต.ท.บวรภพ กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรออกปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ พบกลุ่มจักรยานยนต์กว่า 30 คัน รวมตัวกันแข่งรถบริเวณแยกโรงกรองน้ำ ย่านถนน พระราม 6 ถนนราชวิถี จึงระดมกำลังปิดล้อมพร้อมขับไล่ให้กลุ่มจักรยานยนต์เลี้ยวเข้าไปในซอยดังกล่าว เนื่องจากเป็นซอยตัน
“จากนั้น กลุ่มเด็กแว้นดังกล่าวได้พังประตูหน้าบ้านของประชาชน และนำรถจักรยานยนต์เข้าไปจอดแอบแล้วเก็บตัวเงียบเพื่ออำพรางเจ้าหน้าที่ ก่อนถูกเจ้าหน้าที่เข้าจับกุม จากการตรวจสอบไม่พบอาวุธและยาเสพติด ส่วนกลุ่มเด็กแว้นมีการนัดรวมตัวผ่านเพจ นักซิ่งกลางเมือง หรือปิดเมืองมาซิ่ง ในเฟซบุ๊ก” พ.ต.ท.บวรภพ กล่าว
พ.ต.ท.บวรภพ กล่าวอีกว่า เบื้องต้นแจ้งข้อหาขับรถไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น ส่วนข้อหาอื่นๆ จะแจ้งเพิ่มเติมในภายหลังเป็นรายบุคคล จากนั้นนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี และจะประสานให้ผู้ปกครองพร้อมกับผู้กระทำผิดเข้าอบรมตามโครงการของ สปพ.191 เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เยาวชนเหล่านี้กลับไปทำซ้ำอีก ส่วนเรื่องทำลายทรัพย์สินหรือบุกรุกนั้นต้องรอให้เจ้าของบ้านเข้ามาแจ้งความดำเนินคดีต่อไป