วันที่ 5 ม.ค. พล.ต.ต.พีระพงศ์ วงษ์สมาน ผบก.ภ.จว.อุดรธานี พร้อมด้วย พ.ต.อ.ชวิศ ศรีจันทร์ รอง ผบก.ภ.จว.อุดรธานี พ.ต.ท.พิชัยรัชช์ ภูขาว รองผกก.สส.ภ.จว.อุดรธานี พ.ต.ท.สุรพล ทองเงิน สส.ภ.จว.อุดรธานี และตำรวจชุดสืบสวน ได้ทำการจับกุมนายชาตรี ศรีลาห้อย อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 63 ม.6 ต.คำด้วง อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี และ นายวานิช ยอดคำ อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 56 ม.4 ต.คำด้วง อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี ในข้อกล่าวหาร่วมกัน มียาเสพติดประเภท 1 หรือยาบ้า ไว้ในครอบครองและเพื่อจำหน่าย

พร้อมของกลางยาบ้า 1,400 เม็ด อาวุธปืนขนาด 7.65 มม. 1 กระบอก กระสุนปืน 15 นัด ปืนปากกา 1 กระบอก สร้อยคอทองคำน้ำหนัก 5 บาท 1 เส้น สร้อยข้อมือทองคำน้ำหนัก 2 บาท รถยนต์กระบะ มิซูบิชิ สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน รถยนต์เก๋ง นิสันมาร์ช สีฟ้า ทะเทียน กล 4262อุดรธานี และรถจักรยานยนต์ 2 คัน โดยจับกุมทั้งสองคนได้ที่เล้าไก่หลัง บ้านพักเลขที่ 56 ม.4 ต.คำด้วง

พล.ต.ต.พีระพงศ์ เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ได้รับร้องเรียนผ่านเฟซบุ๊กของตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานีว่า นายชาตรี มีพฤติกรรมเป็นพ่อค้าใหญ่รายใหญ่ ใน อ.บ้านผือ จึงได้สั่งการให้ พ.ต.ท.พิชัยรัชช์ นำกำลังชุดสืบสวน เฝ้าติดตามพฤติกรรม อยู่ประมาณ 3 วัน จนมั่นใจเป็นพ่อค้ายาบ้า จึงได้นำกำลังเข้าจับกุมขณะที่นายชาตรีและนายวานิชกำลังเสพยากันอยู่ที่เล้าไก่หลังบ้าน และพบของกลางดังกล่าว

จากการสอบสวนนายชาตรี ให้การรับสารภาพว่า ตนเคยติดคุกในคดีครอบครัวอาวุธปืน ติดคุกอยู่ 9 เดือน พ้นโทษออกมาเมื่อเดือนเมษายน 58 หลังจากนั้นก็มาทำสวนยาง เมียก็หนีไปทิ้งให้ตนเลี้ยงลูก 3 คน ต่อมาตนได้สู่ขอหญิงสาวให้กับลูกชายคนโตที่พึ่งจบระดับปวส. ซึ่งตกลงกันที่เป็นค่าสินสอด 2 แสนบาท และจะแต่งงานกันในเดือนเมษายนปีนี้ ทำให้ตนกลุ้มใจในเรื่องนี้

นายชาตรี กล่าวว่า จากนั้นตนไปเที่ยวร้านอาหาร ที่ อ.น้ำโสม เจอน.ส.บุญ อายุ 37 ปี หญิงชาวลาว แล้วแนะนำให้ตนรู้จักนายสัก เอเยนต์ยาบ้า ชาวลาว ตนเลยตัดสินใจหันมาค้ายาบ้า เพื่อต้องการหาเงินไปแต่งเมียให้กับลูกชาย โดยสั่งซื้อยาบ้ากับนายสัก ครั้งละ 1 มัด ประมาณ 2,000 เม็ด ราคา 1 แสน 3 หมื่นบาท โดยนายสักจะนำยาบ้ามาส่งให้ตามหลักกม. ในเขต อ.บ้านผือ แล้วตนก็นำไปให้นายวานิช ลูกน้องนำไปจำหน่ายต่อ ราคาถุงละ 2 หมื่น 5 พันบาท แต่ก็มาถูกจับกุมเอาไว้ได้ดังกล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน