เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 6 ม.ค. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ต.ทรงพล วัธนชัย รองโฆษกตร. เปิดเผยกรณีพบการทุจริตในการสอบข้อเขียน คัดเลือกบุคคลภายนอกเป็นนายสิบตำรวจ ในส่วนของกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ที่มีผู้สมัครเข้าสอบทั้งหมด 13,285 คน และสอบข้อเขียนเสร็จสิ้นไปเมื่อวันที่ 4 ธ.ค.ที่ผ่านมา โดยมีผู้ผ่านสอบข้อเขียน 1,800 คน

อ่านข่าว สอบนายสิบตร.วุ่น ส่อโมฆะ พบโกงแล้ว80คน แฉข้าราชการกทม.ตัวการ เรียกรับหัวละ5แสนบาท จ้างนศ. วิศวะ-หมอ-ทันตะ มือปืนรับจ้าง-ยิงข้อสอบ

ต่อมาเมื่อวันที่ 5 ม.ค. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่เรียกตัวนักศึกษาชั้นปีที่ 2 คณะแพทยศาสตร์จากมหาวิทยาลัยหลายแห่ง รวม 4 คน มาสอบปากคำ หลังสงสัยว่าร่วมทำการทุจริต หลังคณะกรรมการนำกระดาษข้อสอบและกระดาษคำตอบทั้งหมดมาตรวจสอบครั้งสุดท้าย ก่อนพบความผิดปกติในกระดาษคำตอบ เนื่องจากพบว่าผู้ที่ได้คะแนนน้อยสุดกลุ่ม 50 คนสุดท้าย ได้เพียง 13 คะแนนจากคะแนนเต็ม 150 คะแนน ทั้งที่ประวัติการศึกษาของคนกลุ่มดังกล่าวอยู่ในระดับดี แต่กลับทำคะแนนในข้อสอบได้น้อยเกินไป และเมื่อตรวจสอบกระดาษข้อสอบมีร่องรอยการทดเลข และเขียนคำตอบเฉลยไว้ถูกหมดทุกข้อ ต่างจากคะแนนที่ได้ และคำตอบก็มีขนาดใหญ่ผิดปกติ สามารถมองเห็นได้ในระยะไกล เจ้าหน้าที่จึงเชื่อว่ามีขบวนการเข้าไปร่วมสอบ เพื่อเฉลยข้อมูลแก่ผู้เข้าสอบรายอื่นๆ โดยพบการทุจริตทั้ง 2 สนาม และเชื่อว่ามีจำนวนมากพอสมควร

พล.ต.ต.ทรงพล กล่าวอีกว่า พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. ได้สั่งการให้ กองบังคับการศูนย์สืบสวนบช.น. เข้าไปร่วมกับคณะกรรมการดำเนินการสืบสวน โดยจะมีการเรียกประชุมคณะกรรมการจัดการสอบและเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนเพื่อขยายผลหาผู้กระทำความผิดว่า เป็นใครมาจากไหนและมีจำนวนทั้งหมดเท่าไหร่ โดยคาดว่าในช่วงบ่ายจะมีการชี้แจงรายละเอียดให้ทราบอีกครั้ง แต่จากหลักฐาน ข้อมูลที่มีขณะนี้ก็ชัดเจนว่ามีเจตนาการทุจริต

ส่วนจะมีการยกเลิกการสอบในครั้งนี้หรือไม่นั้น คงต้องรอผลการตรวจสอบและประชุมอีกครั้ง ที่ผ่านมาลักษณะของการทุจริตการสอบนั้นจะพัฒนาโดยใช้ระบบดิจิตอลเข้ามาใช้ ที่การสอบล่าสุดนั้นเจ้าหน้าที่มีมาตรการตรวจสอบคุมเข้มการนำอุปกรณ์ต่างๆ ที่จะใช้โกงข้อสอบอย่างเข้มงวด ทำให้กลุ่มผู้กระทำผิดต้องกลับมาใช้วิธีแบบดั้งเดิมดังกล่าว โดยผู้จ้างวานจะนัดผู้ทำหน้าที่เฉลยข้อสอบ และผู้จะลอกข้อสอบให้มาพบกัน เพื่อนัดแนะวิธีการกันให้เข้าใจก่อนเข้าสนามสอบ ก่อนจะให้ผู้ที่มีความรู้เข้าไปสอบปะปน และแอบเฉลยข้อสอบให้กับพวกของตนเองระหว่างการสอบ แต่สุดท้ายก็ไม่รอดพ้นการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ไปได้

พล.ต.อ.เดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา รรท.รองผบ.ตร. กล่าวว่า ในฐานะที่กำกับดูแลงานด้านศึกษาอบรม ได้สอบถามข้อเท็จจริงเบื้องต้นไปยัง พล.ต.ท.รอย อิงคไพโรจน์ ผบช.ศ. และนครบาลแล้ว เพื่อให้รายงานข้อมูลเบื้องต้น ทางกองบัญชาการศึกษา(บช.ศ.) ยืนยันว่ากระบวนการออกข้อสอบ แจกจ่าย ข้อสอบรัดกุม ไม่มีช่องให้ทุจริตแน่นอน โดยครั้งนี้เป็นการให้กองบัญชาการต้นสังกัดจัดสอบเอง กระบวนการในการออกข้อสอบ จัดสอบก็รัดกุม

ทั้งนี้ สั่งการให้นครบาลตั้งคณะกรรมการภายในหน่วยขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว และอาจต้องพิจารณาตั้งคณะกรรมการระดับตร.ขึ้นมาตรวจสอบ ยืนยันว่าการตรวจสอบอย่างเป็นธรรม จะไม่ยอมให้คนที่มีประวัติเปื้อนเปรอะ มาสวมเครื่องแบบตำรวจเด็ดขาด เราไม่ต้องการคนที่ทุจริตตั้งแต่แรก เข้ามาเป็นตำรวจ ส่วนการจะยกเลิกการสอบครั้งนี้หรือไม่ นั้นต้องพิจารณาอีกครั้ง อาจใช้วิธีคัดแยกคนทุจริตออก โดยไม่ให้กระทบต่อคนที่สุจริต

ด้าน พล.ต.ต.ปิยะพันธ์ ปิงเมือง รองโฆษกตร. กล่าวว่า กระบวนการออกข้อสอบและการตรวจสอบบุคคลเข้าสอบ มีขั้นตอนเข้มงวด โดยมีการจัดทำประวัติ พิมพ์ลายงานนิ้วมือผู้เข้าสอบ และตรวจสอบข้อสอบทั้งหมด ด้วยวิธีเดียวกันทั่วประเทศ เชื่อมั่นว่า ไม่มีเจ้าหน้าที่เข้าไปเกี่ยวข้อง และเตรียมขึ้นบัญชีดำ ผู้ที่ตั้งใจเข้ามาทุจริตในการสอบ โดยห้ามเข้าสอบตำรวจตลอดไป ย้ำว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะไม่นำบุคคลเหล่านี้เข้ามาเป็นตำรวจที่ดูแลประชาชนเด็ดขาด การตรวจสอบพบการทุจริตครั้งนี้ เป็นเพราะสำนักงานตำรวจแห่งชาติมีมาตรการตรวจสอบที่เข้มข้น ไม่ปล่อยผ่านให้มีการทุจริตเด็ดขาด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน