รวบแล้ว ผศ.ดร. เก๊ แฉประวัติ อ้างจบปริญญาเอก 4 ใบ หลอกเงินสาวร่วม 3 ล้าน!

เมื่อวันที่ 24 ต.ค. พ.ต.อ.จิรภพ ภูริเดช รรท.ผบก.ป. พ.ต.อ.จรูญเกียรติปานแก้ว รองผบก.ป., สั่งการให้ พ.ต.อ.ธงชัย อยู่เกษ ผกก.1บก.ป.นำกำลังตำรวจกก.1บก.ป. จับกุม นายสุรพศ วงษ์ชีพ อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 594/191 ถนนหทัยราษฎร์ แขวงบางชัน เขตคลองสามวา หลังก่อเหตุหลอกลวงหญิงสาวโดยอ้างตัวเป็นด๊อกเตอร์

อ่าน สาวโวย สงสัยหนุ่มหลอก เป็น ผศ.ดร. หลอกแต่งงาน เลือกเหยื่อฐานะดี!

สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากผู้เสียหาย ซึ่งเป็นหญิงสาวรายหนึ่งว่าถูกนายสุรพศ เข้ามาตีสนิทผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์ อ้างตัวเป็นอาจารย์ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สอนวิชาคอมพิวเตอร์ ซึ่งต่อมาผู้เสียหายได้หลงเชื่อจึงได้ตกลงปลงใจคบหาด้วย กระทั่งต่อมาผู้เสียหายทราบว่าไม่ได้เป็นอาจารย์จริงตามที่กล่าวอ้าง อีกทั้ง ได้มีพฤติกรรมหลอกเอาเงินของผู้เสียหายไปกว่า 8 แสนบาท จึงแจ้งความกับทางพนักงานสอบสวน

ต่อมาชุดสืบสวนได้ติดตามตัวมาแจ้งข้อกล่าวหาที่กองปราบปราม อย่างไรก็ตามจากการสอบปากคำนายสุรพศ ให้การรับสารภาพ ว่าไม่ได้เป็นอาจารย์จริง แต่ได้มีการสร้างโปรไฟล์เพื่อหลอกให้หญิงสาวเชื่อถือเพื่อคบหาด้วย ซึ่งก่อนหน้านี้ได้เคยหลอกหญิงสาวรายหนึ่งจนแต่งงานด้วยกัน แต่ภายหลังถูกจับได้จึงได้เลิกรากันไป

ก่อนที่จะไปก่อเหตุในลักษณะดังกล่าวมาประมาณ 3 ปี โดยอ้างว่าเป็นอาจารย์สอนไอที เนื่องจากตนมีความรู้เรื่องคอมพิวเตอร์ เพราะว่าทำงานบริษัทเอกชนด้านซอฟต์แวร์ ในส่วนของรูปตนที่สวมชุดครุยที่อยู่ในเฟซบุ๊กนั้นก็ไปหาซื้อตามร้านเสื้อผ้า อย่างไรก็ตาม จากการสืบสวนเบื้องต้น พบว่ามีผู้เสียหายที่เป็นหญิงสาวตกเป็นเหยื่อไม่ต่ำกว่า 5 ราย เสียหายกว่า 3 ล้านบาท

รายงานว่าพฤติกรรมของนายสุรพศ มักอ้างตัวเป็นอาจารย์สอนคอมพิวเตอร์ อีกทั้งในเฟซบุ๊กส่วนตัวมีการปลอมประวัติการศึกษา โดยอ้างว่าจบปริญญาเอก 4 ใบ มีตำแหน่งทางวิชาการเป็นรองศาสตราจารย์ด๊อกเตอร์ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ

นอกจากนี้ ยังพบว่าในเพจเฟซบุ๊ก ชุดเฉพาะกิจ – ต่อต้านทหารปลอม&ตำรวจปลอม ได้มีการเผยแพร่ภาพ รวมทั้งพฤติกรรมของผู้ต้องหารายนี้ด้วย โดยระบุว่ามีการหลอกลวงหญิงสาวมีฐานะร่ำรวย นามสกุลดัง จนถึงขั้นกำลังจะเข้าพิธีแต่งงานในเดือนพฤศจิกายนที่จะถึงนี้ แต่ปรากฏว่าทางครอบครัวฝ่ายหญิงเริ่มสงสัยฝ่ายชาย เพราะตั้งแต่คบหา จนถึงขั้นจะแต่งงาน ยังไม่เคยได้พูดคุยกับครอบครัวฝ่ายชายเลย

อีกทั้งทางฝ่ายหญิงได้ขอดูหลักฐานในการเป็นศาสตราจารย์ ทำให้ฝ่ายชายแสดงความไม่พอใจ จนเป็นเหตุให้เป็นข้ออ้างแยกทางกัน นอกจากนี้จากการตรวจสอบในเว็บไซต์ตรวจสอบทำเนียบผู้ดำรงตำแหน่งนักวิชาการแห่งชาติ ก็ไม่พบชื่อผู้ต้องหารายนี้ดำรงตำแหน่งแต่อย่างใด เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหา ฉ้อโกง ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน