โรงเรียนแจงเหตุหนูน้อยตกท่อดักไขมันดับ ชี้ไม่ใช่สนามเด็กเล่น ปกติไม่มีเด็กเล็ก!

จากกรณีเด็กหญิงวัย 1 ปี 6 เดือน ได้พลัดตกลงไปในบ่อดักไขมันภายในโรงเรียน อบจ.กระบี่ ถนนท่าเรือ ต.ไสไทย อ.เมืองกระบี่ จนเสียชีวิต หลังจากแม่ของเด็กวัย 36 ปี ได้นำน้องมาที่โรงเรียนเพื่อทำความสะอาดร้านอาหารที่จะเปิดขายในช่วงเปิดเทอมนี้ ซึ่งแม่มีอาชีพขายอาหารภายในโรงเรียนดังกล่าว แล้วปล่อยให้เด็กวิ่งเล่นภายในอาคารและสนามหญ้าจนเกิดพลัดตกลงไป ซึ่งหลังเกิดเหตุทางมูลนิธิกระบี่พิทักษ์ประชา ได้ออกค้นหาจนพบร่างในบ่อดักไขมันดังกล่าว

ความคืบหน้า นายสมศักดิ์ กิตติธรกุล นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดกระบี่ พร้อมคณะผู้บริหาร ที่ปรึกษาโรงเรียน อบจ.กระบี่ ได้แถลงข่าวถึงกรณีที่เกิดขึ้น โดยนายสมศักดิ์ กล่าวว่า กรณีดังกล่าวหลังเกิดเหตุตนก็ได้เข้าไปที่เกิดเหตุทันที ซึ่งพบว่า แม่เด็กได้ทำงานเป็นแม่ค้าขายของในโรงเรียน ได้นำลูกวัย 1 ปี 6 เดือนมาด้วย เพื่อทำความสะอาดร้านค้าที่จะเปิดเทอมในวันนี้ แล้วปล่อยให้ลูกวิ่งเล่น

จนมาพบว่าพลัดตกบ่อดักไขมันจนเสียชีวิต หลังเกิดเหตุก็ได้ให้การช่วยเหลือเป็นเงินส่วนตัวไปจำนวนหนึ่ง ประสานมูลนิธินำศพเด็กไปทำพิธีฝังที่ จ.สงขลา บ้านเกิดแล้ว ซึ่งทางพ่อแม่เด็กก็เข้าใจว่าเป็นอุบัติเหตุ ซึ่งทาง อบจ.เองก็เสียใจกับเหตุการณ์ดังกล่าวอย่างมาก

นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ที่เกิดเหตุนั้น เป็นบ่อดักไขมัน จะมีการดูดออกทุก 1 เดือน พบว่ามีสภาพไม่แข็งแรง เพราะเป็นฝาพลาสติก แต่จุดเกิดเหตุไม่ใช่สนามเด็กเล่น และโรงเรียนก็มีเฉพาะเด็กโต ที่ใช้ฝาดังกล่าวก็เพื่อสะดวกต่อครูผู้หญิงในการเปิด เพื่อดูดไขมัน ของเสียออกทุกเดือน ป้องกันกลิ่นกระทบนักเรียน

“ในวันนี้ก็ได้หารือกันแล้วว่า ให้ทำให้แข็งแรงขึ้น อาจจะเปลี่ยนเป็นเหล็ก หรือปูนซีเมนต์ แต่ทั้งนี้ทางโรงเรียน อบจ.กระบี่นั้นก็มีกฎที่ชัดเจนอยู่แล้ว สำหรับผู้ที่จะเข้ามาในโรงเรียนว่าห้ามนำเด็กเล็กเข้ามา เพราะอาจดูแลได้ไม่ทั่วถึง ส่วนเรื่องคดีคงให้เป็นหน้าที่ของตำรวจที่จะดำเนินการต่อไป”นายสมศักดิ์ กล่าว

แอดไลน์ข่าวสดเพิ่มเพื่อน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน