เมื่อเวลา12.20 น. วันที่ 6 ม.ค. ร.ต.อ.สวาท รุ่งสันเทียะ ร้อยสวบสวน สภ.เมืองที ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุ รถไฟชนกับรถยนต์ปิคอัพ บริเวณทางกั้นทางข้ามรถไฟ ห่างจากสถานีรถไฟเมืองที ประมาณ 200 เมตร และมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสติดภายในรถ ขอให้เจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบและช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บด้วย

หลังรับแจ้ง เจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมด้วยชุดกู้ภัย 1669 ของ อบต.เมืองที เจ้าหน้าที่กู้ภัยสลักได และเจ้าหน้าที่ชุด 1669 จาก รพ.สุรินทร์ ได้รุดเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ

ในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบรถไฟเร็วขบวน ที่ 146 อุบลราชธานี –กรุงเทพ ซึ่งออกจากจังหวัดอุบลราชธานี มุ่งหน้า สู่ กรุงเทพ มหานคร เมื่อเวลา 09.30 น. ที่ผ่านมา ขณะกำลังจะถึงสถานีรถไฟเมืองที อ.เมือง จ.สุรินทร์ ช่วงจุดตัดทางข้าม ทางรถไฟ ได้มีรถปิกอัพ อีซูชุ ดีแม็ก ทะเบียน 1 ฒฒ 7658 กรุงเทพ มีนายสุรพันธุ์ นวลแย้ม อายุ 34 ปี เป็นคนขับ ได้ขับรถข้ามทางรถไฟ ขณะที่รถไฟขบวนดังกล่าวกำลังจะวิ่งเข้าเทียบท่าชานชาลา สถานีรถไฟ ทำให้รถไฟเกิดพุงชนรถปิกอัพอย่างแรง และลากเอาซากรถปิกอัพไป ไปไกลถึง 200 เมตร ก่อนเข้าสถานี ทำให้ผู้โดยสารที่มาในรถปิกอัพ 4 คน

ประกอบด้วยนายสุรพันธ์ นวลแย้ม อายุ 34 ปี คนขับเป็นพ่อ และลูกสาว 2 คน หลานสาวอีก 1 คน ซึ่งเป็นเด็กนักเรียนโรงเรียนเมืองทีได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิตคาที่หนึ่งราย ทราบชื่อ ด.ญ.วันวิสา นวลแย้ม อายุ 5 ขวบ นักเรียนชั้นอนุบาล 2 โรงเรียนเมืองที เป็นลูกสาวของนายสุรพันธ์ ส่วนนายสุรพันธ์พร้อมลูกสาวและหลานสาวได้รับบาดเจ็บสาหัส ประกอบด้วย ด.ญ.ณัฐนันท์ นวลแย้ม อายุ 8 ขวบ (ลูกสาว) ด.ญ ศิริวรรณ สิงหเวหน (หลานสาว) อาสากู้ชีพและกู้ภัยได้ช่วยชีวิต และนำตัวส่งเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลสุรินทร์เร่งด่วน

จากการสอบถาม ทราบว่านายสุรพันธ์ ได้เดินทางมาจาก กทม ในช่วงเทศกาลปีใหม่ ก่อนเกิดเหตุได้มารับลูกสาว 2 คนและหลานสาวอีก 1 คน ที่โรงเรียนบ้านเมืองที่ ซึ่งอยู่ใกล้กับเส้นทางรถไฟ หลังจากรับเด็กๆแล้วก็จะเดินทางกลับ และมาประสบอุบัติเหตุเสียก่อน เบื้องต้นคาดว่านายสุรพันธ์ คงไม่ทันสังเกตเจ้าหน้าที่ที่ให้สัญญาณ และไม่ได้ยินเสียงหวูดรถไฟ จนเกิดอุบัติเหตุเศร้าสลดขึ้น ขณะที่ทางกั้นรถไฟกำลังอยู่ในช่วงระหว่างก่อสร้างยังไม่แล้วเสร็จ และใช้งานยังไม่ได้ ส่วนขบวนรถไฟไม่ได้รับความเสียหาย ผู้โดยสารทุกคนปลอดภัย แต่ขบวนรถต้องหยุดวิ่ง เพื่อเคลียร์รถปิคอัพออกนอกเส้นทางใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง จึงเดินรถต่อไปได้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน