พศ.ร่วมเจ้าคณะแขวงยานนาวา ค้นกุฏิเจ้าอาวาส วัดดอกไม้ ตรวจสอบทรัพย์สิน ภายหลังเจ้าตัวถูกร้องเรียน ยักยอกเงินวัด เข้าบัญชีตัวเอง นับล้านบาท ชาวบ้านเผย พอรับตำแหน่งก็เปลี่ยนเป็นคนละคน ทุกวันนี้คนเข้าวัดน้อยลง

วัดดอกไม้ / จากกรณี พระครูสมุห์ศักดิ์ โชติปญโญ เจ้าอาวาส วัดดอกไม้ ยานนาวา ซอยสาธุประดิษฐ์ 58 ถนนพระราม 3 แขวงบางโพงพาง เขตยานนาวา กทม. ถูกประชาชน ร้องเรียนไปยัง สำนักงานพระพุทธศาสนา (พศ.) และเจ้าคณะกรุงเทพฯ เรื่องยักยอกเงินวัดเข้าบัญชีส่วนตัว

โดยเจ้าคณะแขวงภาค 1 มีหนังสือคำสั่งให้ยินยอมแต่งตั้ง รักษาการแทนเจ้าอาวาส ส่วนเจ้าอาวาสเดิม ให้พักตำแหน่งชั่วคราว ระหว่างกระบวนการตรวจสอบ นอกจากนี้ยังมีกลุ่มคนนำโซ่คล้องปิดกุฎิเจ้าอาวาส และนำบัญชีวัดทั้งหมดไป เมื่อวันที่ 19 ต.ค. ที่ผ่านมา

ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 26 ต.ค. ที่วัดดอกไม้ เจ้าหน้าที่สำนักพระพุทธศาสนา พระครูปลัดวีรภัทร์ ปริมุตโต เจ้าคณะแขวงยานนาวา เขต 1 พร้อมด้วย พระครูสถิตบุณวัฒน์ รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดดอกไม้ พระลูกวัดและฆราวาส ร่วมมาประชุมชี้แจงเรื่องดังกล่าว พร้อมกับเปิดกุฎิเจ้าอาวาสวัด เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง หลังเกิดข้อพิพาทดังกล่าว

เจ้าคณะแขวงยานนาวา เขต 1แจงที่มา

พระครูปลัดวีรภัทร์ กล่าวว่า เริ่มต้นจากในช่วงต้นปี มีโยมท่านหนึ่ง ร้องเรียนไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่ามีการยักยอกเงินของวัด เข้าบัญชีส่วนตัวของเจ้าอาวาสวัดดอกไม้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงได้ส่งเรื่องไปยัง สำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ดังนั้นจึงมีหนังสือสั่งลงมายังเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร สั่งการลงมาเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง

ต่อมาทราบว่าพระครูสมุห์ศักดิ์ ได้หายออกไปจากวัด ไม่สามารถติดต่อได้ มาทราบวันรุ่งขึ้น ว่าท่านได้เดินทางออกจากวัดดอกไม้ ไปตั้งแต่วันที่ 3 พ.ค. และกลับมาที่วัดอีกครั้ง ในวันที่ 3 มิ.ย. โดยไม่ได้ชี้แจงต่อสำนักสงฆ์ว่าหายไปไหน

พฤติกรรมนี้ ถือว่าผิดจาริยพระสังฆาฏิการ ซึ่งเป็นความผิดอย่างร้ายแรง จึงมีคำสั่งให้ตั้งคณะกรรมการชุดหนึ่ง เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง และให้พระครูสมุห์ศักดิ์ ทำบัญชีรายรับ รายจ่าย อย่างละเอียด ทั้งฝ่ายจอดรถ ฝ่ายตลาดนัด ฝ่ายฌาปนกิจสถาน ก็ได้ทำส่งมา และให้ถ่ายบัญชีวัดดอกไม้ทุกเล่ม ซึ่งมีทั้งหมด 15 เล่ม เพื่อตรวจสอบว่า ตั้งแต่มารับตำแหน่งเจ้าอาวาส มีเงินหมุนเวียนในบัญชีหรือไม่








Advertisement

พบหลักฐานเงินค่าจอดรถ-ตลาดนัดไม่เข้าบัญชีวัด

พระครูปลัดวีรภัทร์ กล่าวต่อว่า จากการตรวจสอบ ปรากฎว่า ทั้งหมด 15 บัญชีนั้น ไม่มีเงินเข้าบัญชีวัดดอกไม้เลย จึงตั้งข้อสังเกตว่า เงินหายไปไหน มีการติดใจเงินจากฝ่ายจอดรถและฝ่ายตลาดนัด โดยตั้งแต่วันที่ 18 ก.ค. 2559 มียอดคงเหลือ รวม 782,221 บาท ส่วนฝ่ายจอดรถ มียอดเงินคงเหลือ 1,139,746 บาท

เมื่อได้ไถ่ถาม ไปยังพระครูสมุห์ศักดิ์ ทราบว่าได้นำเงินเก็บไว้ที่วัด แต่ไม่ทราบว่าอยู่ที่ใด และบอกว่ามีเงินในกุฏิประมาณ 5 แสนบาท ซึ่งตามยอดเงินจริงแล้ว จะต้องมีเงิน ประมาณเกือบ 2 ล้านบาท เมื่อถามว่าหายไปไหนนั้น ท่านก็ไม่สามารถตอบได้

เจ้าคณะแขวงยานนาวา กล่าวอีกว่า ต่อมาวันที่ 19 ก.ย. ที่ผ่านมา มีคำสั่งให้เจ้าคณะเขตยานาวา สอบสวน พระครูสมุห์ศักดิ์ ทั้ง 2 เรื่อง คือ 1.ละทิ้งหน้าที่โดยไม่มีเหตุอันควร 2.เงินในบัญชีของวัดดอกไม้ หายไปหรือไม่ และในช่วงที่พระครูสมุห์ศักดิ์ ไม่อยู่ ทราบว่ามีเงินโอนเข้าในบัญชีวัดดอกไม้ด้วย ในวันที่ 7 ต.ค.

ขณะนี้อยู่ในระหว่างการตรวจสอบ เพื่อให้คณะกรรมการสอบสวน ทำงานอย่างรอบคอบมากขึ้น จึงได้ให้ออกหน้าตำแหน่งชั่วคราวก่อน จนกว่าการสอบสวนจะแล้วเสร็จ จึงมีหนังสืออกมาเพื่อให้เซ็นรับทราบ โดยในหนังสือ ระบุว่า ระหว่างที่สอบสวบนั้น สามารถเสนอชื่อพระภิกษุ มาดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสชั่วคราวได้ แต่ พระครูสมุห์ศักดิ์ ไม่ได้ส่ง ทางเจ้าคณะเขต จึงได้แต่งตั้งขึ้นเอง ตามความเหมาะสม

ต่อมา ได้มีการปิดกุฏิเจ้าอาวาส เพื่อตรวจทำการสอบ จึงได้ให้ท่านแยกทรัพย์สินส่วนตัว และทรัพย์สินของวัดออก และท่านได้มอบบัญชีวัดดอกไม้ 15 เล่ม ด้วย จากนั้นท่านได้ย้ายออกมาอยู่กุฏิเดิม โดยระหว่างนี้ ผลการสอบสวน ยังไม่ชี้ชัดว่าพระครูสมุห์ศักดิ์ มีความผิดหรือไม่

หากพบผิดจริงส่งเรื่องถึงปปป.ดำเนินคดี

หากผลหารตรวจสอบออกมาแล้ว ก็จะส่งไปยังเจ้าคณะเขต จากนั้น ส่งไปยังเจ้าคณะกรุงเทพ และส่งต่อไปที่สำนักพุทธศาสนาแห่งชาติ เพื่อพิจารณา เมื่อพบว่ามีความผิด ก็จะมีการส่งเรื่องไปยัง สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ปปป. เพื่อตรวจสอบ และดำเนินคดี

ส่วนประเด็นที่ พระครูสมุห์ศักดิ์ เปิดเผยกับสื่อว่า หนังสือชี้แจงให้ พระครูสมุห์ศักดิ์ เซ็นออกจากตำแหน่งชั่วคราว ไม่มีลายเซ็นนั้นไม่เป็นความจริง หนังสือทุกฉบับมีลายเซ็นหมด และเหตุที่จะต้องล็อคกุฏินั้น ไม่ได้เป็นการขับไล่ แต่ปิดเพราะต้องตรวจสอบให้ชัดเจนก่อน และยืนยันว่า วัดดอกไม้ ไม่มีผู้มีอิทธิพลมืดแต่อย่างใด

ด้านพระครูสถิตบุณวัฒน์ รักษาการแทนเจ้าอาวาสฯ กล่าวว่า หากตรวจสอบแล้วพบว่าไม่ผิด ทางชาวบ้านเชื่อว่า สิ่งที่ทางคณะสงฆ์มอบให้นั้น คือสิ่งที่ดีและถูกต้องที่สุด เพราะประชาชนส่วนใหญ่ โตมากับวัด ล้วนอยากให้วัดเจริญรุ่งเรือง

ต่อมาพระครูปลัดวีรภัทร์ พร้อมคณะได้เข้าไปตรวจค้นภายในกุฏิเจ้าอาวาสวัด เพื่อตรวจสอบทรัพย์สิน ว่าทรัพย์สินของเจ้าอาวาสวัดองค์เก่าหายไปหรือไม่ โดยได้ใช้คีมตัดกุญแจเข้าไปเนื่องจาก พระครูสมุห์ศักดิ์ ไม่ยอมให้กุญแจเปิดกุฎิ

โดยระหว่างการค้นกุฏิเจ้าอาวาส ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พระครูสมุห์ศักดิ์ อยู่ในกุฏิเดิม แต่ไม่ยอมเข้าประชุม หรือออกมาชี้แจง และให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนแต่อย่างใด ขณะที่รายละเอียดผลการตรวจค้น เจ้าหน้าที่ยังไม่มีการเปิดเผย

ชาวบ้านชี้คนทำบุญวัดน้อยลง

ขณะที่ชาวบ้านรายหนึ่ง กล่าวว่า ตนอยู่ที่วัดมาตั้งแต่เกิด พบกับพระครูสมุห์ศักดิ์ เจ้าอาวาสวัดดอกไม้ แต่ก่อนท่านเป็นพระที่ไม่ชอบยุ่งวุ่นวายกับใคร กระทั่งเจ้าอาวาสรูปก่อนมรณภาพ พระครูสมุห์ศักดิ์ จึงได้ขึ้นเป็นเจ้าอาวาสแทน

ในตอนนั้น ชาวบ้านทุกคนเห็นด้วย เนื่องจากเห็นว่าพระครูสมุห์ศักดิ์ เป็นพระที่นี่มาตั้งแต่ปี พ.ศ.2527 แล้ว แต่หลังจากเข้ามาเป็นเจ้าอาวาสเพียงแค่ 7 วัน ก็พบว่าเปลี่ยนไปเป็นคนละคน

ทุกอย่างในวัดก็เปลี่ยนไป กิจกรรมต่างในวัดน้อยลง เช่น สวนมนต์วันพระ พิธีงานตักบาตร งานบุญในสำคัญต่างๆ หายไป โดย พระครูสมุห์ศักดิ์ ให้เหตุผลว่าเปลืองเงิน และเสียเวลาจำวัด

นอกจากนี้ ยังปลดคณะกรรมการวัดออก และแต่งตั้งให้คณะกรรมการ ซึ่งเป็นญาติขึ้นมาดูแลแทน และพาญาติมาอาศัยด้วย ประมาณ 10 คน ให้เด็กวัดไปนอนที่อื่น ไม่ให้นอนในกุฏิ เป็นเหตุให้ประชาชนที่จะเข้ามาทำบุญลดน้อยลงแล้ว เนื่องจากไม่เป็นที่น่าเลื่อมใสของประชาชนในละแวกรอบข้างวัด

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่เพิ่มเพื่อน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน