เมื่อวันที่ 7 ม.ค. พ.ต.ประเสริฐ สายทองแท้ ผบ.ค่ายฝึกรบพิเศษที่ 4 สิชล จ.นครศรีธรรมราช นำกำลังทหารจากค่ายฝึกรบพิเศษสิชล เข้าตรวจสอบเหตุน้ำป่าไหลหลากและดินโคลนถล่มเข้าบ้านเรือนพังเสียหาย ที่เชิงเขา ม.6 ต.เขาน้อย อ.สิชล และเมื่อไปถึงพบบ้านดังกล่าวเลขที่ 68/2 ม.6 ต.เขาน้อย อ.สิชล เป็นบ้านไม้ยกสูง มีดินโคลนถล่มเข้าไปกองอยู่ใต้ถุนบ้าน ฝังรถจยย. 2 คัน จักรยาน 1 คัน และข้าวของอื่นจมอยู่ใต้ดินหลายรายการ

ทราบชื่อเจ้าของบ้านคือนายสุทธิพัก ใจห้าว อายุ 39 ปี ซึ่งได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยขณะที่ดินถล่มเข้าบ้าน ส่วนภรรยาและลูกอีก 2 คน วัย 9 ขวบ และ 2 ขวบปลอดภัย โดยลูกสาววัย 9 ขวบของนายสุทธิพักฯ ผู้บาดเจ็บซึ่งอยู่ในที่เกิดเหตุได้แจ้งกับตำรวจว่า ขณะเกิดเหตุพ่อแม่ ตนเอง และน้องอยู่กันในบ้านรวม 4 คน ซึ่งช่วงกลางดึกมีฝนตกลงมาหนักและมีเสียงดังครืนๆ อยู่นาน ก่อนทั้งน้ำป่า และดินโคลนถล่มลงมาอย่างรวดเร็ว ช่วงนั้นพ่อพยายามเข้ามาปกป้องแม่และลูกๆ เพื่อไม่ให้ได้รับอันตราย ทำให้ได้รับเจ็บดังกล่าว อย่างไรก็ตามหลังเกิดเหตุมีชาวบ้านมาช่วยเหลือนำพ่อไปส่งที่ รพ.และพาครอบครัวตนไปอาศัยอยู่บ้านญาติพี่น้องที่มีความปลอดภัย ล่าสุดส่วนรถ จยย.จำนวน 2 คัน รถจักรยาน 1 คัน และสิ่งของเครื่องใช้ได้รับความเสียหายติดอยู่ใต้บ้าน และขอให้ผู้เกี่ยวข้องเร่งเข้ามาให้การช่วยเหลือด้วย เพราะพวกตนมีฐานะยากจน

ส่วนสภาพน้ำในเขตเทศบาลนครนครศรีธรรมราช บริเวณถนนศรีธรรมราช ด้านทิศตะวันตกของกลางจังหวัด รวมทั้งบริเวณสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด องค์การบริหารส่วนจังหวัดและส่วนราชการต่างๆ ริมถนนเทวบุรี ต.โพธิ์เสด็จ หมู่บ้านใน ต.มะม่วงสองต้น อ.เมือง และชุมชนต่างๆ ในเขตเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ยังจมอยู่ใต้น้ำที่สูงกว่า 2 เมตร จนถึงขณะนี้ยังไม่มีท่าทีว่าจะลดลง ขณะบรรยากาศทั่วไปท้องฟ้ามืดครึ้ม มีฝนโปรายปรายเท่านั้น

ด้านนายสกล จันทรักษ์ รองผู้ว่าฯนครศรีธรรมราช แจ้งว่า กระทรวงมหาดไทยได้ยกระดับอุทกภัยในภาคใต้เป็นสาธารณภัยขนาดใหญ่ระดับ 3 ซึ่งเกินความสามารถของแต่ละจังหวัด โดยกระทรวงได้ตั้งศูนย์บัญชาการส่วนหน้าที่ศูนย์ ปภ.เขต 11 จังหวัดสุราษฎร์ธานี และศูนย์ ปภ.เขต 12 จังหวัดสงขลา เพื่อให้การสนับสนุนและบูรณาการให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ประสบภัยดังกล่าวที่อยู่ในเขตความรับผิดชอบ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน