จับแล้ว พ่อหื่น ข่มขืนลูกแท้ๆ ตั้งแต่อายุ 15 นาน 2 ปี สารภาพทำจริง พร้อมขอโทษภรรยาและลูกสาวที่ทำไปโดยไม่ได้คิด ตร.แจ้ง 4 ข้อหาหนัก พบผู้ต้องหามีอาการเครียด ผกก.กำชับดูแลใกล้ชิด หวั่นคิดสั้น
จากกรณี นางนิด (นามสมมติ) อายุ 39 ปี ชาวจ.บุรีรัมย์ พา น.ส.เอ (นามสมมติ) ลูกสาว อายุ 17 ปี เข้าแจ้งความที่สภ.สตึก ว่า ถูกนายเจษฎา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 42 ปี ซึ่งเป็นพ่อแท้ๆ ข่มขืนกระทำชำเรา เมื่อวันที่ 5 ต.ค.2559 หรือเมื่อ 2 ปีก่อน ตั้งแต่ลูกสาวอายุ 15 ปี จนถึงปี 2561 เป็นเวลานาน 2 ปี ทั้งยังขู่หากนำเรื่องไปบอกใครจะฆ่าให้ตาย ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น อ่านข่าว : หดหู่! พ่อแท้ๆข่มขืนลูกคารีสอร์ต แถมขู่ฆ่า แฉขอซ้ำอีก ทำเด็กผวา-ซึมเศร้า
ล่าสุดเมื่อวันที่ 27 ต.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.สตึก ได้เข้าจับกุมนายเจษฎา ขณะกำลังขับรถกระบะกลับจากไปกราบขออโหสิกรรมกับพ่อที่ จ.หนองคาย และกำลังจะนำสิ่งของเครื่องใช้มาให้ภรรยาที่บ้านใน ต.เมืองแก อ.สตึก โดยระหว่างจับกุมนายเจษฎาไม่ได้แสดงอาการขัดขืน ตำรวจจึงควบคุมตัวไปสอบปากคำที่ สภ.สตึก
จากการสอบปากคำเบื้องต้น นายเจษฎา ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ได้ข่มขืนกระทำชำเราลูกสาวของตัวเองจริง โดยอ้างว่าทำไปเพราะอารมณ์ชั่ววูบไม่ได้ยั้งคิด
ขณะที่ภรรยาและลูกสาว ได้เดินทางมาให้ข้อมูลเพิ่มเติมกับพนักงานสอบสวน พร้อมทั้งมาเยี่ยมนายเจษฎาด้วย โดยนายเจษฎาได้ขอโทษภรรยาและลูกสาวกับสิ่งที่ทำลงไป ซึ่งภรรยาก็ยืนยันให้ดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนลูกสาวไม่ยอมพูดคุยกับพ่อ เพราะยังหวาดกลัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ทั้งนี้ิ พนักงานสอบสวนแจ้ง 4 ข้อหาหนัก คือ กระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปีโดยขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้ายโดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม (ขณะเกิดเหตุเด็กอายุ 14 ปี 364 วัน), กระทำชำเราผู้อื่น โดยผู้ถูกกระทำนั้นเป็นผู้สืบสันดานของตนเอง โดยใช้กำลังประทุษร้าย, กระทำอนาจารแก่บุคคลอายุต่ำกว่า 15 ปี โดยใช้กำลังประทุษร้าย และกระทำความรุนแรงในครอบครัว มาตรา 3,4 (พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความรุนแรงต่อครอบครัว)
ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
พ.ต.อ.สัมภาษณ์ ศรีจันทึก ผกก.สภ.สตึก กล่าวว่า หลังจากแม่ได้พาลูกสาวเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนว่าถูกพ่อข่มขืนกระทำชำเรา ก็ได้ให้เจ้าหน้าที่ออกติดตามตัวพ่อที่ถูกแจ้งความกล่าวหา จนทราบว่าเดินทางไป จ.หนองคาย บ้านเกิด และติดต่อกับภรรยาว่าจะนำรถกระบะและสิ่งของมาให้ที่บ้าน
พ.ต.อ.สัมภาษณ์กล่าวต่อว่า ตนจึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่ไปดักรอที่บ้าน เมื่อมาถึงก็เข้าจับกุมทันที พร้อมทั้งนำตัวไปชี้จุดเกิดเหตุ ซึ่งผู้ต้องหาให้การยอมรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา ทั้งนี้ พบว่าผู้ต้องหามีอาการเครียด จึงกำชับให้เจ้าหน้าที่ดูแลใกล้ชิด เพราะเกรงว่าอาจจะคิดสั้น
