เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 9 ม.ค. พ.ต.อ.ณัฏฐ์พัชร์ ผดุงจันทน์ ผกก.สน.ท่าพระ พร้อม พ.ต.ท.ชูศักดิ์ ศรีวงษ์ชัย รอง ผกก.สส.สน.ท่าพระ พ.ต.ท.ขวัญชัย แป้นมณฑา สวป.สน.ท่าพระ และพ.ต.ท.ธนโชติ อินพะรัม สว.สส.สน.ท่าพระ สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ทหารสังกัด พล.ร.9 เข้าตรวจค้นบ้านเช่าเลขที่ 734 ถนนเพชรเกษม ซอย 4 แขวงวัดท่าพระเขตบางกอกใหญ่ กทม.หลังสืบทราบว่ามีผู้ต้องหาคดีฆ่าผู้อื่น และคดีพยายามฆ่า หลบหนีหมายจับหลบมากบดานใน กทม.

จากการตรวจสอบ พบนายสุนทร หรือโอเล่ สีนารอด อายุ 37 ปี ชาวจ.นครราชสีมา อาชีพรับจ้างทาสีลงยาเหรียญพระเครื่อง ผู้ต้องหาตามหมายจับ สภ.เมืองพัทยา เลขที่ 120/2556 ลงวันที่ 8 ก.ค.56 ข้อหาฆ่าผู้อื่น กำลังนั่งทาสีเหรียญพระเครื่องอยู่ในบ้านเช่าดังกล่าว เมื่อเจ้าหน้าที่แสดงหมายจับให้ทราบ ผู้ต้องหาก็ยอมรับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับดังกล่าวจริง และยังไม่เคยถูกดำเนินคดี ชุดจับกุมจึงเชิญตัวไปสอบปากคำ เพื่อทำประวัติลงบันทึกจับกุมที่สน.ท่าพระ

พ.ต.อ.ณัฏฐ์พัชร์ เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน และฝ่ายป้องกันปราบปราม ลงพื้นที่ไปปฏิบัติงานมวลชนในซอยเพชรเกษม 4 จนได้เบาะแสว่านายสุนทรเป็นบุคคลต้องสงสัยเข้ามากบดานในบ้านเช่าดังกล่าวนานประมาณ 1 เดือน จากการสืบค้นประวัติพบว่า เจ้าตัวมีหมายจับคดีฆ่าผู้อื่นของสภ.เมืองพัทยา เมื่อปีพ.ศ.2556 ติดตัวอยู่ 1 หมาย

นอกจากนี้ ยังมีหมายจับคดีพยายามฆ่า ที่ศาลจังหวัดสีคิ้ว ในปีเดียวกันอีก 1 หมาย อีกทั้งนายสุนทรยังเคยก่อคดีฆ่าบิดาบังเกิดเกล้า ของตัวเองในพื้นที่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ถูกศาลตัดสินจำคุกมาแล้ว จึงรีบประสานเจ้าหน้าที่ทหารนำกำลังเข้าจับกุมตัวเนื่องจากพฤติกรรมโหดหี้ยมเกรงว่า นายสุนทรจะไปก่อเหตุเพิ่มเติมกับผู้อื่นอีก

จากการสอบสวน นายสุนทร ยอมรับว่า เมื่อตอนเป็นเยาวชน อายุ 17 ปี เห็นพ่อเมาสุราทำร้ายร่างกายแม่จนสลบ และพ่อหยิบมีดเพื่อหวังจะแทงแม่ซ้ำ ตนจึงหยิบปืนแก๊ปไทยประดิษฐ์ที่เอาไว้ล่าสัตว์ ขึ้นมาขู่ให้พ่อถอยให้ห่างจากแม่ แต่แทนที่พ่อจะหยุดกลับเดินปรี่มาหา และแย่งปืนจากตนทำให้กระสุนนัดใส่หน้าอกพ่อ 1 นัดล้มลง ตนเห็นดังนั้นก็รีบอุ้มร่างพ่อไปส่งรพ.ปากช่องนานา แต่แพทย์ยื้อชีวิตไว้ไม่ได้ จึงถูกตำรวจจับศาลตัดสินจำคุก 16 ปี 8 เดือน

ตนประพฤติตัวดีได้ลดโทษเหลือ 10 ปี ก็ออกมาบวชพระล้างบาปที่เคยทำกรรมหนักไว้กับพ่อ พอสึกตนก็ไปทำงานเป็นคนงานก่อสร้างรับจ้างทั่วไปในพื้นที่ จ.นครราชสีมา กระทั่งเมื่อต้นปี พ.ศ.2556 เกิดมีปากเสียงกับเพื่อนคนงาน และลงไม้ลงมือกัน ตนตัวเล็กกว่าสู้ไม่ได้ ก็คว้ามีดแทงคู่กรณีไป 1 ครั้ง ได้รับบาดเจ็บสาหัส ก่อนหลบหนีไปเป็นเด็กส่งของที่พัทยา จ.ชลบุรี จนมีแฟนสาวชื่อ น.ส.เมย์ (ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง) อายุไล่เลี่ยกัน และตัดสินใจมีลูกด้วยกัน

แต่ขณะที่น.ส.เมย์ ตั้งครรภ์อยู่นั้น ก็เกิดเรื่องขึ้นอีกช่วงที่ น.ส.เมย์ แฟนสาวกำลังท้องแก่ ดันไปมีปัญหากับสาวเจ้าของห้องเช่าชื่อนางธัณย์จิราอายุราวๆ 40-45 ปี เรื่องที่น.ส.เมย์ ย้ายออกจากห้องเช่าไปอยู่กับตน และย้อนกลับไปทวงเงินมัดจำกับคู่กรณี ประมาณ 6,000 บาท แต่คู่กรณีบ่ายเบี่ยงไม่ยอมจ่ายให้ จนเกิดมีปากเสียงและลงมือลงไม้กัน ตนเห็นน.ส.เมย์แฟนสาวกำลังท้องแก่และสู้แรงนางธัณย์จิราไม่ไหว จึงชักมีดแทงนางธัณย์จิรา เข้าที่คอ อก และราวนมซ้าย รวม 3 แผล จนฟุบแน่นิ่งไป จากนั้นก็หลบหนีคดีไปเรื่อยๆ จนไม่ได้เจอน.ส.เมย์อีกเลย กระทั่งมาโดนจับกุมตัวได้ ขณะมารับจ้างเป็นช่างทาสีลงยาเหรียญพระเครื่อง อยู่ที่บ้านเช่าในพื้นที่สน.ท่าพระ

เบื้องต้นชุดจับกุมได้แจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่น แก่นายสุนทร ผู้ต้องหารายนี้ ก่อนประสานพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี มารับตัวไปดำเนินคดี นอกจากนี้ ยังต้องประสานพนักงานสอบสวน สภ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา ให้ทราบเรื่อง เพื่อทำการอายัดตัวผู้ต้องหาไปดำเนินการในคดีพยายามฆ่า อีก 1 ข้อหาด้วย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน