เมื่อเวลา 11.40 น. วันที่ 10 ม.ค. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. กล่าวถึงกรณีพบทุจริตการสอบนายสิบตำรวจ ว่า พล.ต.อ.เดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา รรท.รองผบ.ตร. ซึ่งรับผิดชอบการสอบนายสิบ ได้รายงานให้ตนทราบแล้ว เบื้องต้นพบการทุจริตสอบในพื้นที่ของกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) และกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค(บช.ภ.)7 เป็นลักษณะการทุจริตคล้ายๆกัน แต่ไม่ทราบว่าเป็นกลุ่มเดียวกันหรือไม่ การออกหมายจับก็อยู่ในขั้นตอนของกฎหมาย
อ่านข่าว บช.ภาค7ก็มี โกงสอบตร. กทม.จ่อพักงาน! ‘เทศกิจ’ หน.แก๊ง
ส่วนจะให้ 2 กองบัญชาการนี้พิจารณายกเลิกการสอบหรือไม่นั้นต้อง คงต้องรอความเห็นจากทางกองบัญชาที่พบการทุจริตก่อน และจะต้องนำเข้ากระบวนการพิจารณาของสำนักงานตำรวจแห่งชาติด้วย เรื่องดังกล่าวตนได้มอบหมายให้ พล.ต.อ.เดชณรงค์ เป็นประธาน ให้กองบัญชาการศึกษา (บช.ศ.) และฝ่ายกฎหมายเข้ามาเป็นกรรมการร่วมตรวจสอบด้วย ข ณะนี้ยังไม่มีการยกเลิกการสอบใน 2 กองบัญชาการนี้
โดยส่วนตัวไม่คิดว่าการทุจริตสอบครั้งนี้จะทำให้เสียภาพลักษณ์ตำรวจ เพราะไม่นานความจริงก็จะปรากฏ อย่าไปด่วนสรุปว่าเจ้าหน้าที่เข้าไปเกี่ยวข้อง อาจจะมีหรืออาจจะไม่มีก็ได้ ตนทำงานมาไม่เคยละเว้นใคร ตนต้องการปฏิรูปองค์กรตำรวจอยู่แล้ว ถ้าหากตรวจสอบแล้ว พยานหลักฐานเชื่อมโยงถึงใครก็ต้องดำเนินการ ไม่ว่าจะเป็นตำรวจ เทศกิจ กฎหมายไม่ได้ละเว้นใคร ผู้สื่อข่าวกระทำความผิดก็ต้องถูกดำเนินการเหมือนกัน
ผบ.ตร. กล่าวอีกว่า เมื่อพบการกระทำความผิด ทุกหน่วยที่เกี่ยวจะต้องตรวจสอบก่อน ครั้งนี้ไม่ได้พบการทุจริตจากเจ้าหน้าที่ ที่ผ่านมาที่มีการยกเลิกเพราะพบว่ามีข้อสอบรั่ว เจ้าหน้าที่เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง ถ้าเป็นลักษณะแบบนั้นยกเลิกก็ไม่เป็นไร แต่ครั้งนี้เป็นการกระทำความผิดของผู้สอบ ซึ่งมีหลักฐานปรากฏชัดเจนอยู่แล้ว สมมุติว่าพบตัวผู้กระทำความผิด ทุจริต หรือโกง ถ้าพบการทุจริต 50 ตำแหน่ง ตำแหน่งสำรองก็มีอยู่แล้ว ยืนยันว่าไม่ได้ไปกระทบสิทธิ์ของผู้สอบรายอื่น เรื่องนี้ต้องแยกแยะและพิจารณารอบคอบทุกมิติ ทุกอย่างพิจารณาไปตามข้อเท็จจริง ตรงไปตรงมา คนสมัครที่นครบาลมีประมาณ 13,000 คน รอบแรกรับ 1,800 คน รอบที่สองรับ 1,000 คน ก็ต้องให้สิทธิ์คนอื่นเขาด้วย ไม่ใช่ไปตัดสิทธิ์คนเขาตั้งใจสอบอย่างโปร่งใส เขาเสียเงินเสียทองสมัคร
