เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 11 ม.ค. ที่สน.พหลโยธิน พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผบ.ตร พร้อมด้วยพล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. พล.ต.ต.สุรชัย ควรเดชะคุปต์ รรท.รองผบช.น. พ.ต.อ.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ รรท.ผบก.น.2 พ.ต.อ.คมศักดิ์ สุมังเกษตร รองผบก.น.2 พ.ต.อ.ธีระชัย ชำนาญหมอ ผกก.สส.บก.น.2 พ.ต.อ.ณรัช มูลศาสตรสาทร ผกก.สน.พหลโยธิน
ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมนายวราพงษ์ สอนน่วม อายุ 37 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 33/2560 ลงวันที่ 10 ม.ค.60 ในข้อหาลักทรัพย์ในเวลากลางคืนในสถานที่ราชการโดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์หรือโดยผ่านสิ่งเช่นว่านั้นเข้าไปด้วยประการใดๆ และบุกรุกในเวลากลางคืน พร้อมของกลาง สร้อยคอ 50 สตางค์ สร้อยคอมือ ปลากระป๋องจำนวน 4 กระป๋อง วิทยุสื่อสารยี่ห้อ KENWOOD 1 เครื่อง กระเป๋าสะพายข้าง 2 ใบ รถจยย.ยี่ห้อฮอนดา รุ่นคลิก สีเขียว-ดำ ทะเบียน ลยล 400 กรุงเทพมหานคร เสื้อผ้าและอุปกรณ์ที่ใช้ในการก่อเหตุ โดยจับกุมได้ที่หน้าเพิงพักไม่มีเลขที่ ใต้สะพานบางบัว แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กทม.
พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 2 ม.ค. เกิดเหตุลักทรัพย์ภายในศาลอาญา เจ้าหน้าที่ได้สืบสวนจนทราบว่าเป็นผู้ก่อเหตุคือ นายวราพงษ์ สอนน่วม จึงสืบสวนต่อจนพบนายวราพงษ์ สอนน่วม พักอยู่ที่เพิงพักไม่มีเลขที่ ใต้สะพานบางบัว แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กทม. จึงประสานพ.ต.ท.เสน่ห์ มณีฉาย สว.สส.สน.บางเขน พร้อมด้วย ร.ต.อ.พรชัย ว่องประเสริฐ์การ รอง สว.สส. และชุดสืบสวน เข้าจับกุมตัว ซึ่งนายวราพงษ์รับสารภาพว่า ภายในเพิงพักไม่มีเลขที่ ใต้สะพานบางบัว แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กทม. มีทรัพย์สินจากการก่อเหตุลักทรัพย์ที่ศาลอาญา ตำรวจจึงขอตรวจค้นพบของกลางดังกล่าวซุกซ่อนอยู่ภายในบ้าน เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวมาสอบสวนเพิ่มเติม
ด้านนายวราพงษ์ รับสารภาพว่า เป็นเป็นผู้ก่อเหตุจริง โดยขณะนั้นเมาสุราและเสพไอซ์เข้าไป ทำให้จำรายละเอียดตอนก่อเหตุไม่ได้ ตนประกอบอาชีพรับจ้างเข็นของที่ตลาด แต่ตอนนี้ไม่ได้ประกอบอาชีพอะไร ช่วงวันเกิดเหตุแอบเข้าไปในศาลอาญา ก่อนจะหยิบของทุกอย่างที่หยิบได้ และนำของไปขายเพื่อนำเงินที่ได้มาเสพยา และใช้จ่ายส่วนตัว
พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวว่า การตรวจสอบประวัตินายวราพงษ์พบถูกดำเนินคดีเสพยาเสพติด และยังยอมรับอีกด้วยว่าขณะก่อเหตุได้เสพสารเสพติดเข้าไป โดยนายวราพงษ์เป็นอดีตพ่อบ้านที่ทำงานในศาลอุทธรณ์ ตั้งแต่ปี 2547 จึงคุ้นเคยเส้นทางภายในศาลอาญาเป็นอย่างดี ต่อมาปี 54 ก่อเหตุลักทรัพย์ตู้บริจาคจากศาลอุทธรณ์ จึงถูกออกหมายจับก่อนที่นายวราพงษ์ จะหลบหนีไปตั้งแต่ปี 2554 จนมาก่อเหตุอีกและถูกจับกุมได้ดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังการแถลงข่าวเจ้าหน้าที่ได้นำตัวนายวราพงษ์ไปชี้จุดทำแผนประกอบคำรับสารภาพโดยจุดแรกเป็น บริเวณซอยด้านข้างศาลอาญาหรือซอยซ่องโจร ซึ่งนายวราพงษ์ขี่รถจักรยานยนต์มาจอดไว้ ก่อนที่จะปีนเข้าไปภายในศาล ต่อมายังเป็นจุดเดียวกันที่นายวราพงษ์ใช้ปีนหลบหนีออกมา ก่อนจะทำหมวกไหมพรมตกลงที่พื้น
จากนั้นคุมตัวนายวราพงษ์ไปชี้จุดภายในอาคารศาลอาญา ซึ่งเป็นห้องต่างๆ ที่นายวราพงษ์ได้เข้าไปก่อเหตุลักทรัพย์สิน โดยไม่ให้สื่อมวลชนเข้าไปถ่ายภาพ ก่อนนำตัวนายวราพงษ์มาฝากขังไว้ที่สน.พหลโยธิน และในวันที่ 13 ม.ค. นี้ จะนำตัวนายวราพงษ์ไปฝากขังที่ศาล เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
