เมื่อเวลา 09.15 น. วันที่ 12 ม.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ในฐานะผู้บัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ ให้ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้ ว่า ตอนนี้ต้องเร่งช่วยประชาชนในแต่ละส่วนที่ต้องเข้าไปดูแล ไฟฟ้า ประปา การระบายน้ำท่วมขัง ขณะเดียวกันก็ต้องเตรียมการรับมือฝนระลอกใหม่ที่จะมีมาอีกตามที่กรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์
ทั้งนี้ ในภาคใต้ยังโล่งใจไม่ได้ ยังต้องเฝ้าระวังอยู่ เพราะหย่อมความกดอากาศต่ำ มรสุมยังจะเข้ามาอีก เป็นการคาดการณ์ว่าจะตกอีก แต่ไม่หนักเท่าคราวที่แล้ว และแผ่ขึ้นมาที่ภาคกลางตอนล่างและภาคตะวันออก
“ผมได้สั่งการให้ปลัดกระทรวงมหาดไทยออกหนังสือไปถึงทุกจังหวัดให้เตรียมการรับมือ เพราะถึงอย่างไรก็ต้องเตรียมการ เพราะเมื่อฝนตกลงมาจะเตรียมเครื่องมือไม่ทัน แต่ละจังหวัดจะทราบพื้นที่ตัวเองดีว่าถ้าฝนลงมาแล้วจุดใดในพื้นที่จะมีปัญหา เขาก็ต้องไปแจ้งเตือนประชาชนตรงนั้นเก็บข้าวเก็บของขึ้นที่สูง ถ้าตรงไหนเป็นร่องน้ำใหญ่ก็ต้องเตรียมอพยพคนออก พื้นที่เขาต้องรู้ กำนันผู้ใหญ่บ้านก็ต้องแจงลูกบ้านตัวเองเตรียมการ ไม่เตรียมไม่ได้ เพราะถ้าไม่แจ้งเลยแล้วเกิดเหตุวันเกิดเหตุจะมาบอกว่าไม่แจ้งเลย คิดดูว่าคงโดนสังคมประณาม อย่าไปพูดว่าแพนิค (Panic) เลย
แต่ถ้าพูดก็ไม่รู้จะทำอย่างไร เรื่องการเยียวยานั้นก็เป็นไปตามกฎหมายซึ่งทำได้อยู่แล้ว ตอนนี้ที่สังคมพยายามถามคือ เรื่องที่เนื่องจากว่าเกณฑ์ความเสียหายมันมากจะทำอย่างไร ซึ่งนายกรัฐมนตรีก็พูดถึงเรื่องนี้ว่าจะต้องประเมินความเสียหายก่อน และหาวิธีการว่าจะช่วยอย่างไร ที่เราเห็นตอนนี้คือน้ำใจของพ่อแม่พี่น้องที่หลั่งไหลมา มีสูงมากก็ช่วยแบ่งเบาได้มาก แต่ก็ต้องรอผลการประเมินก่อนแล้วถึงจะหาวิธีดำเนินการได้” พล.อ.อนุพงษ์ กล่าว
รมว.มหาดไทย กล่าวว่า ส่วนกรณีเตรียมการรับมือในส่วนกทม.นั้นทางกระทรวงมหาดไทยได้ประสานผู้ว่ากทม.ให้ดูและเตรียมการ เรื่องแรกคือระบบระบายน้ำ ซึ่งกทม.ต้องมีวิธีการดำเนินการ เช่น เริ่มพร่องน้ำในคลองต่างๆ เตรียมรับมวลน้ำที่มาใหม่ เครื่องสูบ เครื่องปั๊มน้ำจะต้องไม่ให้มีเสียหาย รีบเตรียมการกำจัดสิ่งกีดขวาง เช่น ขยะ ต้องเตรียมไว้ เพราะ 2-3 วันนี้ก็จะเข้ามาอยู่แล้ว ตามที่กรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ เราต้องรีบเตรียมการเผื่อไว้ก่อน ถ้าโดนในระดับที่เกิน 60 มิลลิเมตร ก็จะมีปัญหาน้ำท่วมขังและปัญหาจราจร
