เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 21 ก.ย.59 นายภูมิ และนางอ้อม (สงวนนามสกุล) สองสามีภรรยา เข้าร้องเรียนผ่านสื่อมวลชนว่าตนมีบุตรสาวชื่อน้องลำไย (นามสมมุติ) วัย 11 ขวบ เรียนอยู่ชั้น ป.5 โรงเรียนแห่งหนึ่ง ต.ศาลาครุ อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี โดยเมื่อวันที่ 13 ก.ย.ที่ผ่านมาน้องลำไย ได้ไปโรงเรียนตามปกติทุกวันในเวลา 07.30 น. เมื่อเวลา 08.00 น. โรงเรียนเข้าแถวร้องเพลงชาติเสร็จก็เข้าห้องเรียนตามปกติ ขณะนั้นได้มีชายแปลกหน้าเป็นวัยรุ่นขับ จยย.มาจอดหน้าโรงเรียนแล้วแจ้งครูว่า จะขอรับเด็กหญิงลำไย โดยอ้างว่าผู้ปกคลองให้มารับและเดี๋ยวจะมาส่งคืนหลังจากนั้นเมื่อเวลาเกือบ 10.00 น. ชายวัยรุ่นนำเด็กหญิงลำไย มาส่งที่หน้าโรงเรียนโดยมีสีหน้าตื่นตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและครูก็ไม่ถามว่าไปไหนมาจึงได้โทรศัพท์ไปหาแม่บอกความจริงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ต่อมาตนพร้อมภรรยาได้ไปรับลูกที่โรงเรียนและสอบถามครูที่เกิดขึ้นพร้อมทั้งขอดูภาพจากกล้องวงจรปิดโดยมีครูชื่อ น.ส.รัชนก ไม่ทราบนามสกุล ซึ่งเป็นครูประจำชั้นได้มาสอบถามเด็กดูจึงรู้ว่าครูเวร ได้ปล่อยตัวไปกับชายวัยรุ่นและครูเวร จำได้ว่าชายคนก่อเหตุเคยเป็นอดีตนักเรียนที่โรงเรียนแห่งนี้และได้เรียนจบไปแล้วจนมีครอบครัวแล้ว
ต่อมาตนจึงเดินทางไป สภ.หนองเสือ โดยมี ร.ต.อ.อิทธิเดช เทศกุลวิเศษ เป็นร้อยเวรสอบสวน จึงเดินทางมาที่เกิดเหตุและได้สอบถามครูจึงรู้ตัวผู้ก่อเหตุจึงได้ไปจับกุมตัวได้ที่บ้านพักทราบชื่อนายสมชาย เสียงเอก อายุ 21 ปี พร้อมรถจักรยายยนต์ฮอนด้าเวฟ หมายเลขทะเบียน ขทย 97 สระบุรี เหล็กแหลมมีด้ามจับยาว 10 ฟุต 1 อัน เสื้อแจ็ตเก็ตคุมตัว 1 ตัว ซึ่งผู้ต้องหายอมรับสารภาพว่าเกิดอารมณ์จึงมารับเด็กนักเรียนที่ไม่รู้จักกันพาไปข่มขืนในซอยเปลี่ยวถนนเลียบคลองสิบสี่ห่างจากโรงเรียนกว่า 10 กม.หลังข่มขืนเสร็จได้ขู่เด็กหากนำเรื่องไปบอกครูหรือพ่อแม่จะฆ่าให้ตาย และเด็กกลัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจึงได้โทรศัพท์แจ้งพ่อแม่ให้มารับกลับบ้านไปและจะไม่ขอเรียนที่โรงเรียนแห่งนี้อีกต่อไป
จากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำตัวนายสมชาย เสียงเอก ไปทำแผนประกอบรับคำสารภาพยังที่เกิดเหตุ
ส่วนนายภูมิ และนางอ้อม แจ่มดวง สองสามีภรรยา ได้กล่าวว่า ตนข้องใจโรงเรียนได้ปล่อยให้เด็กนักเรียนไปกับคนอื่นทั้งที่ไม่ใช่พ่อแม่เด็กเลยและตนขอภาพวงจรปิดจากโรงเรียนทางครูก็ไม่ยอมให้อ้างว่าโรงเรียนไม่มีผอ. มีแต่ครูรักษาการไม่สามารถให้ได้ ส่วนทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ส่งตัวผู้ต้องหาฝากขังที่ศาลธัญบุรีเลย โดยทางพ่อแม่ยังไม่ได้ไปให้สอบปากคำและยังไม่รู้เลยว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งข้อหากับผู้ต้องหาอย่างไร ยังไม่ได้แจ้งให้ทางตนทราบเลย ตนกลัวว่าคดีนี้จะมีการวิ่งเต้นช่วยเหลือกันจึงมาร้องเรียนผู้สื่อข่าวและจะไปร้องเรียนที่มูลนิธิปวีณาให้ช่วยเหลือด้านคดีต่อไป
ด้าน สภ.หนองเสือ พ.ต.ต.เทอด หาญณรงค์ สารวัตรเวรสอบสวน สภ.หนองเสือ เปิดเผยว่า ร้อยเวรสอบสวนเจ้าของคดีได้รับเรื่องดำเนินการให้แล้ว ขณะอยู่ระหว่ารอผลพิสูจน์จากแพทย์ที่โรงพยาบาลหนองเสือ ซึ่งจะทราบผลภายในหนึ่งเดือน ส่วนผู้ต้องหาฝากขังอยู่ในเรือนจำธัญบุรีและได้คัดค้านการประตัวตัวด้วยพร้อมทั้งแจ้ง 3 ข้อหาในคดีนี้มีคดีข่มขืน คดีพากผู้เยาว์ไปจากผู้ปกครอง และข่มขู่จะทำร้ายด้วยอาวุธ เมื่อพยานหลักฐานครบก็จะส่งฟ้องต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน