ท่าแซะท่วมหนัก! ชาวบ้านโวย ช่วยเหลือกันล้าช้า จนท.อ้างไม่มีอุปกรณ์?

เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 10 พย.61 ที่บ้านหนองป้อง. ม 4. ต. นากระตาม. อ. ท่าแซะ. จ.ชุมพร หน่วยกู้ภัยได้รับแจ้งว่า มีผู้สูงอายุ เด็กทารก หลายคนต้องการความช่วยเหลือด้านอาหาร นม อย่างเร่งด่วนเนื่องจากอดอาหารมานานร่วมสิบ ชั่วโมง และ ได้ไปรวมตัวกันที่บ้านหลังหนึ่งซึ่งระดับน้ำยังไม่ท่วมไม่ถึงชั้น2 แต่ จนท.ยังขาดคนขับเรือ ทำให้การช่วยเหลือยยังเข้าไปในจุดดังกล่าวไม่ได้

ในขณะนี้มวลน้ำจำนวนมาก ได้ไหล เข้าท่วม หลายตำบลในเขตอำเภอเมืองชุมพรและอำเภอท่าแซะ ชาวบ้านบอกว่ามวลน้ำมาเร็วและแรงมาก ไม่เคยเจอเหตุแบบนี้มาก่อนนายโอภาส ทองเพชร อายุ 66 ปี ชาว ต.บางลึก อ.เมือง ชุมพร บอกว่า อยู่ที่มาตั้งแต่เกิด จนอายุปูนนี้แล้ว

เคยเจอเหตุน้ำท่วมมาแล้วหลายครั้ง แต่ไม่มากและเร็วแรงเหมือนครั้งนี้ เมื่อคืนตอนสี่ทุ่มน้ำได้ไหลมาเพียงเล็กน้อย จึงขนข้าวของขึ้นที่สูงตามที่เคยขนย้าย จนกระทั่งเมื่อประมาณตีสี่ มวลน้ำได้ไหลมาเร็วและแรงมาก เข้าท่วมบ้านจนไม่สามารถขนย้ายของได้ทัน เลยต้องหนีเอาชีวิตรอดก่อน ส่วนของก็ต้องปล่อยไป

มวลน้ำจากภูเขาสูงรอยต่อ อ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบ กำลังไหลเข้าท่วมเขตเมืองชุมพร อ.ท่าแซะ ทำให้หลายๆตำบล กำลังวิกฤต มีชาวบ้านอดข้าวอดน้ำแล้วหลายร้อยครัวเรือน ในขณะที่ความช่วยเหลือ จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เป็นไปด้วยความล่าช้า และไม่เป็นไม่ระบบ

เมื่อแจ้งไปศูนย์รับแจ้งเหตุ ทั้ง ฝ่ายปกครอง และ ตำรวจมักจะอ้างต่อชาวบ้านว่า ไม่มีกำลัง หรือไม่มีอุปกรณ์ กระทั่งไม่มีคนขับเรือท้องแบน แต่ยังโชคดีที่มี หน่วยกู้ภัยเอกชนทั้ง ใน ต่างอำเภอ และ จาก จ.สุราษฏร์ธานีเดินทางเข้าไปในพื้นที่ จ.ชุมพร เพื่อให้การช่วยเหลือ บ้างแล้ว

และเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 10 พ.ย. ที่ บริเวณสะพานวังยาว อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ “ข่าวสดออนไลน์” ได้ลงพื้นที่ สังเกตระดับน้ำ หลังจาก เมื่อวานที่ผ่านมา สถานการณ์น้ำท่วมบนทางหลวงหมายเลข 4 ที่บริเวณ กม.385+300 สะพานวังยาว น้ำมีปริมาณมากขึ้นถึงขั้นวิกฤต สูงถึง 9 เมตร

และพบรอยร้าวที่คอสะพาน ประกอบกับที่บริเวณสามแยกบางสะพาน กม.384-385 มีน้ำไหลน้ำท่วมถนน และบริเวณทางคู่ขนาน รถไม่สามารถผ่านได้ ทางแขวงทางหลวงประจวบคีรีขันธ์ จึงประกาศปิดการจราจรเป็นการชั่วคราว ไม่ให้รถทุกชนิดผ่านเส้นทางทั้งขาขึ้นและขาล่องลง 14 จังหวัดภาคใต้ โดยได้เร่งทำทางเบี่ยง ก่อนจะเริ่มเปิดให้ใช้เส้นทางนั้น

ล่าสุด ขณะนี้ระดับน้ำบริเวณสะพานวังยาว ลดลงอยู่ในระดับที่เฝ้าระวัง และบริเวณ กม.384-385 ระดับน้ำลดลง แต่การจราจรยังคงประกาศปิดชั่วคราว เนื่องจาก บริเวณสะพานวังยาว เกิดรอยร้าว จากน้ำที่เซาะบริเวณด้านล่างของสะพาน

ซึ่งโดยปกติแล้ว จะมีการวางหินขนาดใหญ่เรียงกันเป็นแถว เพื่อกั้นไม่ให้น้ำซัดกัดเซาะโดนบริเวณตัวสะพานโดยตรง แต่เมื่อวานที่ผ่านมา น้ำไหลเชี่ยวแรง ทำให้หินดังกล่าวลอยตามไปน้ำ น้ำจึงได้เซาะไปที่สะพานโดนตรง ทำให้สะพานเกิดรอยร้าวขึ้น ขณะนี้ อยู่ในระหว่างการเฝ้าระวัง เนื่องจาก ฝนยังตงตกหนักอย่างต่อเนื่อง

ด้าน นายเชิดพงศ์ จัทรวัฒนกิจ อายุ 36 ปี ชาวบ้านในพื้นที่ใกล้เคียง กล่าวว่า เมื่อวานที่ผ่านมา ระดับน้ำไหลเข้ามาในตัวบ้านอย่างรวดเร็ว ระดับน้ำสูงถึงประมาณ 50 เซ็นติเมตร แต่โชคดีที่มีการเตรียมรับมือไว้ล่วงหน้าแล้ว จึงได้มีการยกของขึ้นที่สูง

ตนรู้สึกกังวลใจมาก เนื่องจาก กลัวว่าระดับน้ำจะขึ้นสูงเหมือนปี พ.ศ.2560 ซึ่งน้ำไหลทะลักเข้าบ้านของตนถึง 2 ครั้ง ตอนนี้จึงได้เตรียมการรับมือไปเบื้องต้นแล้ว มีการไปสังเกตระดับน้ำบริเวณสะพานวังยาวตลอด หากระดับน้ำสูงขึ้น ก็จะได้เตรียมรับมือถูก

โดยอยากขอความร่วมมือจากผู้ที่ใช้รถสัญจรไปมา อยากให้ลดระดับความเร็ว เนื่องจาก บ้านของตนติดถนน เมื่อน้ำท่วม รถขับเข้ามาเร็ว ทำให้กระแสน้ำพัดกระแทกเข้ามาในบ้าน ทำให้ข้าวของเสียหาย และ ขณะนี้น้ำไม่ไหล จึงทำให้ทำความสะอาดบ้านได้ยาก

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน