คุมตัวหนุ่มหื่น ข่มขืนแหม่มสาว ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เจ้าตัวอ้างใช้แค่นิ้ว ตร.แจ้งข้อหาหนัก คุมตัวไปฝากขังศาล พร้อมค้านประกันตัว

กรณีนักท่องเที่ยวสาวชาวอังกฤษ เข้าแจ้งความถูกหนุ่มชาวไทยที่เจอกันในบาร์บริเวณหาดราไวย์-หาดในหาน จ.ภูเก็ต ก่อนดื่มกินด้วยกันแล้ว แต่จากนั้นเมื่อตื่นขึ้นมาพบว่าไม่ได้อยู่ที่ห้องพักตัวเอง แถมยังอยู่ในสภาพคล้ายโดนขืนใจ จึงมาขอความช่วยเหลือและแจ้งตำรวจ พร้อมขอให้พาตัวไปพบแพทย์ตรวจร่างกาย เพราะมีอาการปวดท้องและเกรงจะติดโรคติดต่อ เหตุเกิดช่วงค่ำวันที่ 8 พ.ย.ที่ผ่านมา ตามที่เสนอข่าวไปนั้น

ข่มขืนแหม่มสาว / เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 10 พ.ย. ที่ห้องประชุมชั้น 2 ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พ.ต.อ.วิทูรย์ กองสุดใจ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต (รอง ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต) พร้อมด้วย พ.ต.อ.ชัยวัฒน์ อุ้ยคำ รอง ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต), พ.ต.อ.ธงชัย วิไลพรหม ผกก.2บก.ทท.3, พ.ต.ท.สนั่น จันทร์รงค์ รองผกก.สส.สภ.ฉลอง ,พ.ต.ท.อาชีพ เจริญสันติสุข รอง ผกก.ตม.ภูเก็ต, พ.ต.ท.เอกชัย ศิริ สารวัตรตำรวจท่องเที่ยวภูเก็ต เจ้าหน้าที่ศูนย์ช่วยเหลือนักท่องเที่ยวภูเก็ต และเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม

ร่วมกันแถลงผลการจับกุมนายอำนาจ อัฒจักร์ อายุ 40 ปี ผู้ถูกกล่าวหาในความผิดฐาน “ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่น โดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย หรือโดยผู้อื่นนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดคืนได้” ซึ่งต้องระวังโทษจำคุกตั้งแต่ 4-20 ปี และปรับตั้งแต่ 80,000 บาทถึง 400,000 บาท หลังนักท่องเที่ยวสาวชาวอังกฤษ อายุ 24 ปี วิ่งออกมาขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านในบริเวณใกล้ที่เกิดเหตุเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 9 พ.ย. ที่ผ่านมา

พ.ต.อ.วิทูรย์ กองสุดใจ รอง ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต กล่าวว่า ด้วยเมื่อเวลา 09.10 น.วันที่ 9 พ.ย. ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ฉลองได้รับแจ้งจากผู้เสียหาย ซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวสัญชาติอังกฤษว่า เมื่อเวลาประมาณ 07.00 น.วันเดียวกัน ถูกชายไทยไม่ทราบชื่อ ข่มขืนกระทำชำเรา เหตุเกิดที่บ้านพักใกล้หาดในหาน ต.ราไวย์ อ.เมืองภูเก็ต

จากการสอบถามทราบว่า ผู้เสียหายเดินทางมาท่องเที่ยวคนเดียว ก่อนเกิดเหตุเมื่อคืนวันที่ 8 พ.ย.61 และเที่ยวดื่มกินตามบาร์เบียร์ต่างๆ ในพื้นที่กะตะ-กะรน

จนกระทั่งพบและนั่งดื่มกินกับนายไม้ ไม่ทราบชื่อและสกุลจริงสัญชาติไทย จึงให้ขับขี่รถจักรยานยนต์โดยตนเองนั่งซ้อนท้าย เพื่อจะให้ไปส่งยังโรงแรมที่พัก แต่นายไม้พามายังบ้านที่เกิดเหตุและตนนอนหลับไปด้วยความเมา และมารู้สึกตัวอีกทีพบว่ากำลังถูกนายไม้ล่วงละเมิดทางเพศ ด้วยความตกใจจึงปัดป้องและต่อสู้ จากนั้นวิ่งมาขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านที่อยู่ใกล้กับที่เกิดเหตุ และเข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ

หลังรับแจ้งทางเจ้าหน้าที่ฯ ก็ลงตรวจสอบที่เกิดเหตุ และทางพนักงานสอบสวนฯ ส่งตัวนักท่องเที่ยวผู้เสียหายให้แพทย์ทำการตรวจร่างกาย เก็บหลักฐานและดีเอ็นเอจากร่างกายของผู้เสียหาย

จากนั้นได้บูรณาการกำลังร่วมกันระหว่างตำรวจภูธรภาค 8, กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยวและสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พร้อมทั้งแจ้งเหตุไปยังสถานทูตอังกฤษประจำประเทศไทย และสืบสวนในพื้นที่กระทั่งทราบว่าผู้ก่อเหตุรายนี้คือนายอำนาจ

จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลจังหวัดภูเก็ตออกหมายจับ ในความผิดฐาน “ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่น โดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย หรือโดยผู้อื่นนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้” ต่อมาในช่วงเย็นวันเดียวกันทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็สามารถรวบตัวผู้ต้องหารายดังกล่าวได้

จากการสอบถามนายอำนาจ ผู้ต้องหาให้การว่า ก่อนเกิดเหตุพบกับผู้เสียหายที่บาร์แห่งหนึ่งในพื้นที่ กะตะ ต.กะรน อ.เมืองภูเก็ต และนั่งดื่มกินกัน จนกระทั่งพากันกลับไปที่ห้องเช่าของตนและอาศัยโอกาสที่ผู้เสียหายเมาไม่ได้สติ ล่วงละเมิดทางเพศ ก่อนที่ผู้เสียหายจะรู้สึกตัวและตกใจวิ่งออกไป

หลังสอบสวน แล้วเสร็จทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวนายอำนาจ ไปชี้สถานที่เกิดเหตุและให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบ และเก็บร่องรอยหลักฐาน และดีเอ็นเอในสถานที่เกิดเหตุ เพื่อเป็นพยานหลักฐานในการดำเนินคดีกับผู้ต้องหารายนี้ตามกฎหมายต่อไป

พ.ต.อ.วิทูรย์ กล่าวด้วยว่า ในส่วนของนายอำนาจให้ปากคำว่า ได้ล่วงละเมิดนักท่องเที่ยวคนดังกล่าวโดยใช้นิ้ว แต่ในส่วนของนักท่องเที่ยวผู้เสียหายยืนยันว่ามีการใช้อวัยวะเพศ ขณะที่ผลตรวจของแพทย์ไม่พบอสุจิ ซึ่งสอบถามทางแพทย์ว่า มีความเป็นไปได้ที่จะไม่พบอสุจิหาก ล้างทำความสะอาดก่อน

จากการสอบถามผู้เสียหายเพิ่มเติม นักท่องเที่ยวบอกว่า ได้ล้างทำความสะอาดไปก่อนแล้ว เนื่องจากกลัวว่าจะติดโรค ส่วนร่างกายของนักท่องเที่ยวโดยทั่วไปไม่พบการทำร้าย แต่จากพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวพบว่าไม่ยินยอม เพราะมีการร้องขอความช่วยเหลือเป็นเจตนาให้เห็นว่า เขาไม่ยินยอมอย่างชัดเจน

เบื้องต้นทางตำรวจคัดค้านการประกันตัว และฝากเตือนไปยังชายหนุ่มที่นั่งดื่มกินสาวชาวต่างชาติ อย่าคิดว่าการที่เขายอมนั่งดื่มกินด้วยแล้วจะหมายความว่าเขาจะไปมีอะไรด้วย เพราะฉะนั้นจะต้องช่วยกันรักษาภาพลักษณ์ของการท่องเที่ยวด้วย ขณะเดียวกันในส่วนของผู้ประกอบการ หากเห็นลักษณะไม่ชอบมาพากลก็ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ฯ เข้าตรวจสอบด้วย

ด้าน พ.ต.อ.ธงชัย วิไลพรหม ผกก.2บก.ทท.3 กล่าวว่า ในส่วนของนักท่องเที่ยวผู้เสียหาย ขณะนี้ยังมีความเครียดในระดับหนึ่ง แต่ขณะนี้อาการเริ่มดีขึ้น

ส่วนอาการที่บอกว่าปวดท้องนั้นอาจจะเกิดจากความเครียดจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และยังอยู่ในประเทศไทย เพื่อให้ปากคำเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในขั้นตอนของการสืบพยาน เบื้องต้นบอกว่า พอใจกับการทำงานของเจ้าหน้าที่ที่สามารถดำเนินการกับผู้กระทำผิดได้อย่างรวดเร็ว

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่เพิ่มเพื่อน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน