จากกรณีญาติมาแจ้งความว่าน.ส.สุภัคสรณ์ หรือหญิง พลไธสง สาวทอม วัย 28 ปี ถูกกลุ่มชายฉกรรจ์อุ้มหายตัวไปจากห้องพักย่านฝั่งธนฯ ตั้งแต่กลางเดือนธ.ค.ที่ผ่านมา ต่อมาตำรวจตามแกะรอยและออกหมายจับผู้ต้องหา 7 คน นำโดยพ.ต.อ.อำนวย พงษ์สวัสดิ์ ผกก.สภ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ก่อนเข้ามอบตัว และตามจับกุมน.ส.กรรณิกา หรือดาว กรุมรัมย์ นักร้องสาว รวมถึงนิวัฒน์ สวยทอง และนายภูมิทัศน์ พิบูรณ์สวัสดิ์ ทีมอุ้ม จากนั้นตามไปขุดพบศพน.ส.สุภัคสรณ์ได้ ที่รีสอร์ตร้างริมแม่น้ำแควกลางเมืองกาญจนบุรี สภาพถูกฆ่าฝังดินและโบกปูนทับอีกชั้น ตามที่เคยเสนอข่าวไปแล้วนั้น

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 13 ม.ค. ที่สภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ นายบุญชู พลไธสง บิดาของ น.ส.สุภัคสรณ์ พลไธสง สาวทอมที่ถูก พ.ต.อ.อำนวย พงษ์สวัสดิ์ สั่งอุ้มฆ่า ได้เข้าพบว่าที่ พ.ต.สมบัติ วงศ์กำแหง อุปนายกและโฆษกสภาทนายความ เพื่อขอความช่วยเหลือในชั้นสอบสวนและชั้นศาล โดยใช้เวลาสอบข้อเท็จจริงนาน 3 ชั่วโมง

โดยว่าที่ พ.ต.สมบัติ กล่าวว่า ได้หารือคณะทำงานแล้วมีประเด็นต้องพิจารณาช่วยเหลือคือ การให้ความช่วยเหลือทางกฎหมายของสภาทนายความ เนื่องจากกรณีที่เกิดขึ้นมีข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้องกับข้าราชการเจ้าหน้าที่ในระดับสูง และมีผู้ร่วมกระทำความผิดจำนวนหลายคน พฤติกรรมในการกระทำความผิดเป็นการกระทำที่อุกฉกรรจ์ กลุ่มคนร้ายลงมือก่อเหตุในพื้นที่ในเมืองหลวง กระทบความรู้สึกของประชาชน และไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย ทางฝ่ายผู้เสียหายมีอาชีพรับจ้าง สภาทนายความยินดีที่จะรับให้ความช่วยเหลือทางกฎหมายในทางแพ่งและอาญา

ว่าที่ พ.ต.สมบัติ กล่าวต่อว่า ส่วนการดำเนินการคือ 1.ให้ความช่วยเหลือแก่ผู้เสียหาย ตั้งแต่ในชั้นสอบสวนของพนักงานสอบสวน ชั้นพิจารณาของพนักงานอัยการ และในชั้นพิจารณาคดีของศาล โดยเมื่อพนักงานอัยการได้มีคำสั่งฟ้องผู้ต้องหาแล้ว จะได้ดำเนินการให้ผู้เสียหายเข้าร่วมเป็นโจทก์กับพนักงานอัยการ และขอให้จำเลยชดใช้ค่าสินไหมตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 44/1 (ค่าสินไหมได้แก่ค่าอุปการะเลี้ยงดู ค่าขาดไร้ ค่าเสียประโยชน์ ฯลฯ)

2.ในกรณีที่พนักงานอัยการมีคำสั่งไม่ฟ้องคดีอาญาผู้ต้องหารายใดรายหนึ่ง สภาทนายความจะให้ความช่วยเหลือ ดำเนินการให้ผู้เสียหายเป็นโจทก์ยื่นฟ้องคดีอาญาต่อศาลด้วยตนเอง โดยจะดำเนินการตั้งแต่ชั้นไต่สวนมูลฟ้องโจทก์ และ 3.สภาทนายความจะประสานความร่วมมือดำเนินการในการสืบสวน รวบรวมข้อเท็จจริง พร้อมพยานหลักฐาน กับพนักงานสอบสวนอย่างใกล้ชิด เนื่องจากคดีนี้มีผู้กระทำความผิดจำนวนหลายคนเกี่ยวข้องกับเจ้าหน้าที่รัฐและผู้มีอิทธิพล ประกอบกับผู้ได้รับความเสียหายเป็นประชาชนที่อยู่ในสถานะที่เสียเปรียบในทางสังคม

อุปนายกและโฆษกสภาทนายความ กล่าวอีกว่า สำหรับการประสานงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อช่วยเหลือเยียวยาผู้เสียหาย คือ 1.สภาทนายความจะประสานความร่วมมือกับกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม เพื่อให้ผู้เสียหายได้รับค่าชดเชยและค่าเสียหายตามที่กฎหมายกำหนดจนผู้เสียหายพอใจ และ 2.การดำเนินการให้ความช่วยเหลือแก่ผู้เสียหายในทางแพ่ง กรณีที่ผู้เสียชีวิตได้มีการทำประกันชีวิตไว้ ก็จะดำเนินการกับบริษัทที่รับประกันให้ปฏิบัติตามสัญญา

ส่วนการดำเนินการกับผู้กระทำความผิดในทางแพ่ง สภาทนายความจะให้ความช่วยเหลือผู้เสียหายในการยื่นฟ้องคดีแพ่งเรียกค่าเสียหายต่อผู้กระทำความผิดต่อศาลต่อไป ทั้งนี้ กรณีที่เกิดขึ้นไม่ใช่การกระทำความผิดในหน้าที่ราชการ ดังนั้น หน่วยงานราชการไม่น่าอยู่ในขอบข่ายต้องร่วมรับผิดด้วย ในวันนี้ก็จะได้สอบข้อเท็จจริงกับผู้เสียหายในเบื้องต้นไว้พิจารณาต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน