มอบตัวแล้ว! ส.ท.หึงโหดยิงเมีย อ้างปืนลั่น ชี้ถ้าจะฆ่าก็ฆ่าได้

จากกรณีเมื่อวันที่ 11 พ.ย. พ.ต.ท.วีรพล สิทธิพันธ์ พนักงานสอบสวน สภ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี ได้รับแจ้งจากนายธงชัย เชิงเขา กำนันตำบลหนองแก้ว อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี ว่า น.ส.พรพรรณ พุฒกลาง อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 16 หมู่ที 12 ต.โพธิงาม อ.ประจันตคาม ถูกสิบโทภานุวัฒน์ พันธุ์ชื่น อายุ 32 ปี สามี อยู่บ้านเลขที่ 72 หมู่ที่ 15 ต.โพธิงาม อ.ประจันตคาม ใช้อาวุธปืนขนาด .38 ยิงได้รับบาดเจ็บเหตุเกิดบริเวณร้านของชำ เลขที่ 61 หมู่ที่ 3 บ้านเกาะยายหนัก ต.หนองแก้ว องประจันตคาม โดยมีกล้องวงจรปิดภายในร้านสามารถจับภาพขณะเกิดเหตุไว้ได้

ล่าสุดเมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 14 พ.ย. ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปราจีนบุรี นางปนัดดา ใจภัคดี อายุ 55 ปี นำตัวสิบโทภานุวัฒน์ พันธุ์ชื่น ลูกชาย เข้ามอบตัวเพื่อสู้คดี ต่อ พล.ต.ต.อัครเดช กลมทุกสิ่ง ผบก.ภ.จว.ปราจีนบุรี หลังจากตกเป็นผู้ต้องหาทำร้ายร่างกายและใช้อาวุธปืนยิง น.ส.พรพรรณ พุฒกลาง อายุ 28 ปี ภรรยาได้รับบาดเจ็บ โดยมีเจ้าหน้าที่ทหาร กอ.รมน.ปราจีนบุรี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน และ พ.ต.ท.วีรพล สิทธิพันธ์ พนักงานสอบสวน สภ.ประจันตคาม มารอรับเพื่อความปลอดภัย

ด้านสิบโทภานุวัฒน์ พันธุ์ชื่น กล่าวว่า สาเหตุที่เกิดขึ้นมาจากความหึงหวง หลังจากที่ไปรับราชการเป็นนายสิบประจำการอยู่ที่ จ.สระบุรี นานๆ จะกลับบ้านมาหาลูกเมียสักครั้ง ระยะหลังทราบข่าวว่าภรรยาที่เคยอยู่กินกันมานานประมาณ 12 ปี กระทั่งมีลูกด้วยกัน 3 คน เริ่มจะปันใจออกห่างจากตนและมีกิ๊กใหม่ ด้วยความเป็นห่วง ตนได้ขอร้องให้ไปอยู่ด้วยกันที่บ้านพักในค่ายทหาร แต่ภรรยาไม่ไป กระทั่งมีปากเสียงและหนีออกจากบ้านไปอยู่ที่บ้านแม่ของเขา ด้วยความเป็นห่วงภรรยาและลูกๆ จึงต้องหนีราชการเพื่อมาเฝ้าและมาขอคืนดีกับภรรยา แต่ไร้ผล

สิบโทภานุวัฒน์ กล่าวต่อว่า ต่อมาตนหาซื้อปืนจากเพื่อนในราคา 2,500 บาท เพื่อไว้ป้องกันตัวจน กระทั่งวันเกิดเหตุ ตนขับรถยนต์เก๋ง ฮอนด้า ซีวิค สีน้ำตาล หมายเลขทะเบียน กฉ 4328 ปราจีนบุรี มาดักรอภรรยาบริเวณร้านค้าดังกล่าว เพื่อจะมาขอคืนดีกับภรรยาให้ไปอยู่ด้วย แต่ภรรยาไม่ยอมไป จึงชักปืนออกมาขู่ และฉุดกระชากลากเพื่อให้ขึ้นรถ ขณะนั้นไกปืนไปถูกกับหูกางเกงและเกิดลั่น 1 นัด กระสุนลงพื้นกระเด็นมาถูกแขนได้รับบาดเจ็บ ตนจึงนำตัวภรรยาวางลงกับพื้นและขับรถหนีไป ถ้าตนจะฆ่าภรรยาก็ฆ่าได้ เพราะยังเหลือกระสุนอีก 1 นัด

สิบโทภานุวัฒน์ กล่าวอีกว่า หลังเกิดเหตุได้นำรถยนต์มาฝากไว้บ้านเพื่อน และขี่รถจักรยานยนต์หลบหนี พอมาถึงสะพานข้ามคลองบ้านโคกอู่ทอง ม. 7 ต.โพธิ์งาม ได้จอดรถโยนปืนทิ้งลงคลอง ก่อนที่จะทิ้งรถจักรยานยนต์ไว้ปากทาง เดินเท้าหลบหนีไปอยู่ในป่าบ้านเขาน้อยเป็นเวลา 2 วัน กระทั่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจกดดันอย่างหนักและไม่มีอาหารกิน จึงต้องมาขอโทรศัพท์จากชาวบ้านโทรติดต่อแม่เพื่อขอมอบตัวสู้คดี

“สาเหตุที่ต้องหนีราชการทหาร ไม่ใช่ทำร้ายผู้บังคับบัญชาบาดเจ็บสาหัส และเสพยาบ้าอาไอซ์ ตามที่เป็นข่าว ที่ต้องหนีทหารเพราะความเป็นห่วงภรรยาและลูกๆ จึงต้องหนีทหารมาประมาณ 2 เดือนเศษ และต้องขอโทษแม่ยายที่ต้องทำแบบนี้ และยกโทษให้ผมด้วยและผมจะไม่ทำแบบนี้อีก” สิบโทภานุวัฒน์กล่าว

จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้นำตัวสิบโทภานุวัฒน์ไปยังจุดทิ้งปืน บริเวณสะพานข้ามคลองบ้านโคกอู่ทอง ม.7 ต.โพธิ์งาม โดยมีเจ้าหน้าที่ประดาน้ำของหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างบำเพ็ญธรรมสถานดำน้ำงมหา แต่ไม่พบปืนของกลาง ต่อมาไปพาตัวสิบโทภานุวัฒน์ ไปยังจุดเกิดเหตุเพื่อทำแผนประกอบคำรับสารภาพ แต่ร้านค้าที่เกิดเหตุไม่พร้อมจึงยกเลิกการทำแผน และนำตัวไปสอบสวนเพิ่มเติมที่ สภ.ประจันตคาม

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่เพิ่มเพื่อน


ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน