เก๋งประสานงารถบรรทุกข้าว 18 ล้อ หนุ่ม-แฟนสาวถูกอัดก็อปปี้ดับคาซาก ลากไปไกลกว่า 50 เมตร เผยที่เกิดเหตุเป็นทางก่อสร้าง เก๋งวิ่งสวนทางก่อนพุ่งชนรถพ่วงยับ
เมื่อวันที่ 18 พ.ย. ร.ต.อ.วันชัย กฤชธนากร พนักงานสอบสวน สภ.เมืองสิงห์บุรี รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถยนต์ ชนกับรถพ่วง มีผู้เสียชีวิต 2 ราย ที่บริเวณถนนสิงห์บุรี-ชัยนาท สายเก่า หน้าองค์การบริหารส่วนจังหวัดสิงห์บุรี อ.เมือง จ.สิงห์บุรี เหตุเกิดเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา จึงรุดไปที่เกิดเหตุ พร้อมแพทย์เวรโรงพยาบาลสิงห์บุรี อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง จ.สิงห์บุรี
อ่านข่าว เก๋งแซงไม่พ้น! ประสานงา 18 ล้อ พังยับ คนขับดับคาที่ สาวนั่งมาด้วยสาหัส
ที่เกิดเหตุพบรถยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า แจ๊ส สีแดง หมายเลขทะเบียน กง4066 สิงห์บุรี สภาพแต่งซิ่ง ชนประสานงากับรถพ่วง ฮีโน่ สีฟ้า บรรทุกข้าว 18 ล้อ หมายเลขทะเบียนตัวแม่ 81-6961 ชัยนาท ลูกพ่วงทะเบียน 81-6962 ชัยนาท
กระจกด้านหน้าติดสติ๊กเกอร์ ท่าข้าว ส.สุขสันต์พืชผล (ตู่) สภาพรถด้านหน้ารถยนต์พังยับเยิน โดยตัวรถอัดติดไปถึงที่นั่งด้านหน้า
ภายในรถพบผู้เสียชีวิต 2 ราย ทราบชื่อภายหลัง คือนายวรชัย เพ็งถาวร อายุ 32 ปี คนขับ ส่วนที่นั่งข้างคนขับพบผู้เสียชีวิตเป็นผู้หญิง ทราบชื่อน.ส.ศศิวิมล พันธุ์เกตุ อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 60/1 หมู่ที่ 10 ต.งิ้วราย อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี
โดยทั้ง 2 เป็นแฟนกัน สภาพศพถูกอัดก็อปปี้ติดกับตัวรถ อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ต้องใช้เครื่องตัดถ่างจึงสามารถนำร่างออกมาใช้เวลาประมาณ 20 นาที
สอบสวน นายธวัชชัย ผิวแดง อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 92 หมู่ที่ 3 ต.ย่านยาว อ.สามชุก จ.สุพรรณบุรี ผู้ขับรถพ่วงคันเกิดเหตุ นั่งรอเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ข้างถนน อ้างว่า ตนขับรถบรรทุกข้าวมาจาก จ.ชัยนาท เพื่อที่จะไปส่งที่ จ.พระนครศรีอยุธยา
เมื่อขับรถมาถึงที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นจุดที่กำลังก่อสร้างขยายถนนในช่องทางซ้ายวางกรวยกั้น เพื่อบอกให้เลี่ยงช่องจราจรดังกล่าว ตนจึงเลี่ยงหลบเข้ามาในช่องเดินรถทางช่องขวา
เป็นจังหวะเดียวกันที่นายวรชัยผู้ตายขับรถมาในช่องเดินรถปกติของตนเอง จึงเป็นเหตุให้พุ่งชนประสานงากันอย่างจัง ลากรถเก๋งไปไกลกว่า 50 เมตร เป็นเหตุให้นายวรชัยและน.ส.ศศิวิมลที่นั่งคู่มาด้านหน้า เสียชีวิตทันที
เจ้าหน้าที่ตำรวจจะนำตัว นายธวัชชัย คนขับรถพ่วงไปสอบสวนหาสาเหตุเพิ่มเติมอีกครั้ง ส่วนผู้เสียชีวิตทางครอบครัวได้นำศพไปบำเพ็ญกุศลต่อไป
ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
