มีเงื่อนงำ! เผย แชท หมอ-คนไข้ “ดูแลกันชั่วชีวิต” ถ้าจับได้ เลีย…ดูดนม โดนแน่!
แชท ตรวจภายในฉาว / วันที่ 20 พ.ย. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม กล่าว่า วันนี้ตนพร้อมทีมแพทย์ และ ปคม.จะเดินทางไป จ.นครสวรรค์ เพื่อไปดูหลักฐาน ประมาณ 2-3 ชิ้น
หลังมีเหยื่อรายหนึ่งวัย 29 ปี อ้างว่าถูกหมอคนดังกล่าวเคยล่วงละเมิดทางเพศ โดยการเลียอวัยวเพศ และการดูดนม โดยตรวจสอบว่ามีบันทึกการยอมความกันหรือไม่ ถ้ามีสามารถนำมาประกอบรวบรวมพยานหลักฐานบางอย่างได้
นอกจากนี้ทั้งข้อความแชททางไลน์ การโอนเงิน จำนวน 3 แสนบาท ตนจะไปดำเนินการตรวจสอบ อย่างไรก็ตาม กรณีดังกล่าวต้องให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย ถ้าหากหมอทำผิด ตนจะเป็นคนรับหน้าที่ในการดำเนินคดี เนื่องจากกรณีดังกล่าวมองว่า หากเป็นการใช้เทคนิคทางการแพทย์ มาฉวยโอกาสล่วงละเมิดทางแพทย์เหยื่อ ตนเองคงไม่ปล่อยให้หมอลอยนวลอย่างแน่นอน แต่ถ้าหมอบริสุทธิ์คนที่ทำต้องรับผิดชอบ
นายอัจฉริยะ กล่าวอีกว่า ตนยังตอบไม่ได้ เพราะเท่าที่ทราบมา มีส่วนของเจ้าหน้าที่ที่ไปมีส่วนเกี่ยวข้องในการแบ่งเงินเพื่อยอมความด้วย สมมติมีการจ่ายเงิน จำนวน 8 หมื่นบาท เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่วนแบ่งไป 4 หมื่น เราจะไปดูว่าจริงหรือไม่ โดยเหยื่อยืนยันว่าได้เงินมาไม่ครบ ถ้าทำจริงถือว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจทำไม่ถูกต้อง ถือเป็นการยื่นข้อเสนอให้เป็นยอมความไป
ส่วนก่อนหน้านี้ทางชมรมฯได้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับหมอ ว่าเคยไปพัวพันกับทางผู้เสียหายที่อาจจะเป็นความขัดแย้ง หรืออาจจะเกิดการแบล็คเมล์นั้น นายอัจฉริยะ กล่าวว่า ลักษณะข้อความที่เราได้รับทางแชทไลน์ หรือข้อความต่างๆ เป็นเหมือนกับว่าหมอกับคนไข้สนิทสนมถึงขั้นเป็นทางชู้สาวกันมากกว่า
ลักษณะหมอโพสต์ข้อความบอกว่า “จะดูแลจนชั่วชีวิต” เป็นข้อความที่ระหว่างหมอกับคนไข้คุยกันถือเป็นเรื่องที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ รวมถึงมีการซื้อของจากต่างประเทศมาฝาก ดูแล้วห่วงใยเกินระหว่างหมอกับคนไข้ รวมถึงมีการโอนเงิน จำนวน 3 แสนบาท ทางเราจะตรวจสอบว่าทำไมต้องโอนให้คนไข้ถ้าตัวเองไม่ได้ทำผิด
ส่วนถ้าเป็นเรื่องของเทคนิคทางการแพทย์ ตนจะไปดูช่วงเย็นวันนี้ โดยวันนี้ทีมแพทย์ของชมรมจะเดินทางไปดูบาดแผลของเหยื่อที่มีการกล่าวอ้าง ผู้เสียหายขณะนี้มีประมาณ 3 ราย เรื่องที่หมอใช้นิ้วกับอวัยวเพศเพื่อตรวจภายใน ถือเป็นเรื่องเทคนิคทางการแพทย์ รวมถึงกรณีที่มีการอ้างว่าหมอได้ทำการจับเต้านมด้วย จากที่มีปัญหาตนไม่เคยเห็นเกิดขึ้นกับหมอสูตินารีเวชผู้หญิง แต่ที่มีปัญหาเกิดขึ้นเฉพาะหมอสูตินารีเวชชาย
การที่เราจะจับหมอสักคนต้องชัดเจน ถ้าเขาอ้างเรื่องเทคนิคการแพทย์ เราก็ทำอะไรไม่ได้ แต่หากมีการเลียหรือดูดนม มันไม่ใช่เทคนิคทางการแพทย์ แต่เป็นการล่วงละเมิดทางเพศและผิดศีลธรรม อย่างนี้ก็ต้องดำเนินคดี ถึงเหตุการณ์จะเกิดขึ้นปี 2558 -2559 ตนก็สามารถดำเนินคดีได้ เพราะกรณีดังกล่าวเพิ่งรู้ว่าไม่ใช่การรักษาทางการแพทย์
เมื่อถามว่า ข้อความแชทที่แสดงถึงความสนิทสนมระหว่างหมอกับคนไข้วัย 29 ปี ตรงนี้ได้มาจากทางไหน นายอัจฉริยะ กล่าวว่า ตนได้จากผู้เสียหายตรงนี้ไม่ใช่สาระสำคัญ ตนเพียงนำมาประกอบ การที่เราจะดูใครผิดใครถูก ต้องดูองค์ประกอบเรื่องการตรวจร่างกาย และอะไรหลายๆ อย่าง โดยเฉพาะเงิน จำนวน 3 แสนบาท เจตนาโอนเพื่อต้องการให้ยอมความในคดีอาญา
แต่ในเรื่องศีลธรรม จริยธรรม ถ้าหมอเคยทำกับบุคคลอื่นหมอแบบนี้ก็ไม่ควรจะอยู่ เพื่อไม่ให้เป็นภัยสังคม นโยบายผมคือไม่ได้ช่วยหมอ ผมจะช่วยเหลือคนตกเป็นเหยื่อ ซึ่งมันต่างกัน หมอมีเงินเยอะที่จะจ้างทนายความชั้น 1 เหยื่อเป็นผู้หญิงแทบจะไม่มีทางต่อสู้กับทางการแพทย์ จุดมุ่งหมายของผมคือช่วยเหลือถ้าถูกละเมิดจริง
