พ่อแม่ หนุ่มอุเทน ขอดูหน้ามือยิง ลูกชาย อยากถามทำไมใจร้าย ห่วงได้ประกัน!

จากกรณีนายกมลวิช สุวรรณทัต อายุ 24 ปี นศ.ปี 4 คณะโลจิสติกส์ สถาบันเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย ถูกมือปืนดักกระหน่ำยิงด้วยอาวุธปืนขนาด .38 เข้าตามร่างกาย 4 นัด เสียชีวิตขณะขับขี่รถ จยย.บิ๊กไบค์ ไปช่วยแม่ขายราดหน้า

เหตุเกิดบริเวณหน้าหมู่บ้านวังทองเฮ้าส์ ซอยนวมินทร์57 ถนนนวมินทร์ เเขวงนวมินทร์ เขตบึงกุ่ม กรุงเทพฯ เมื่อเวลา 22.00 น.วันที่ 12 ต.ค.ที่ผ่านมาท้องที่สน.ลาดพร้าว ต่อมาเจ้าหน้าที่สืบสวนจนสามารถพุ่งปมสังหารไปที่เรื่องความขัดแย้งระหว่างสถาบัน ล่าสุดวันที่ 19 พ.ย. ตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลอาญาออกหมายจับผู้ต้องหา อายุระหว่าง 20-25 ปี รวมจำนวน 5 คนนั้น

ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 21 พ.ย. ที่ สน.ลาดพร้าว เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ควบคุมตัว นายกฤษฎา นราพงษ์ ผู้วางแผนสั่งการ อายุ 21 ปี , นายสหรัฐ ดงพระจันทร์ อายุ 20 ปี ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์พามือปืนซ้อนท้าย และ นายปฏิภาณ เจริญชัยกุล อายุ 21 ปี ทำหน้าที่ชี้เป้า ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา เลขที่ 2550-2554/2561 ลงวันที่ 19 พ.ย. 61 ข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน นำตัวไปฝากขังที่ศาลอาญารัชดา ผลัดแรก 12 วันโดยท้ายคำร้อง ได้คัดค้านการประกันตัว เนื่องจาก คดีมีอัตราโทษสูง เกรงว่าจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน

ขณะเดียวกัน ด้านนายนฤดม สุวรรณทัต อายุ 55 ปี และนางเขมนิจ สุวรรณทัต อายุ 54ปี พ่อและแม่ของนายกมลวิช สุวรรณทัต อายุ 24 ปี นศ.ปี 4 คณะโลจิสติกส์ ผู้เสียชีวิต เดินทางมาดูหน้าผู้ต้องหา ที่ลงมือฆ่าลูกชายของตนเองต่อหน้าต่อหน้า โดยไม่ได้มีการพูดคุยกับผู้ต้องหาแต่อย่างใด

นายนฤดม กล่าวว่า หลังทราบข่าวว่าเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวคนร้ายได้ ตนก็ดีใจมาก แต่ดีใจไม่สุดเพราะยังจับกุมคนร้ายไม่ได้หมดทุกคน วันนี้ตนจึงเดินทางมาที่ สน.เพื่อมาดูตัวคนร้ายและจะขับรถตามไปที่ศาลอาญารัชดาภิเษกด้วย เพื่อดูว่ากลุ่มผู้ต้องหาจะได้รับการประกันตัวหรือไม่ เพราะตนก็เป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยของครอบครัว หากกลุ่มผู้ต้องหาได้ประกันตัวไป ตนเกรงว่าผู้ต้องหาจะกลับมาทำร้ายครอบครัวของตน เพราะครอบครัวก็ต้องทำมาหากิน จึงอยากดูว่าจะได้รับความยุติธรรมหรือไม่

นายนฤดม กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาไม่เคยเห็นหน้ากลุ่มคนร้ายเลย ไม่รู้ว่ามานั่งทานอาหารที่ร้านไหม เพราะก็ไม่ได้สังเกต ส่วนกรณีความขัดแย้งในคดีนี้ทุกอย่างก็รู้จากข่าวทั้งนั้น ซึ่งตนมาดูหน้ากลุ่มผู้ต้องหาเฉย ๆ ไม่ได้อยากพูดอะไร แต่มาดูเพราะเห็นว่าทำไมถึงใจร้ายมาก มาทำร้ายลูกตนทำไม ส่วนเรื่องความขัดแย้งระหว่างสถาบันนั้น ตนไม่อยากพูดเยอะ เพราะสถาบันการศึกษาแต่ละแห่งนั้นดีอยู่แล้ว แต่เรื่องทั้งหมดขึ้นกับแต่ละบุคคลมากกว่า พูดไปหากบุคคลไม่สำนึกก็ไม่มีประโยชน์อะไรเลย

ด้านนางเขมนิจ กล่าวต่อว่า ตนอยากฝากรุ่นพี่สถาบันต่าง ๆ ว่าให้ช่วยกล่อมเกลารุ่นน้องให้มีคุณธรรมที่ดี ให้มีจิตสำนึกที่ดี ไม่อยากให้ไปทำร้ายใครอีก อยากให้ยุติความขัดแย้งระหว่างสถาบันไปเลย เพราะเมื่อจบก็จะได้งานทำดี ๆ กัน เป็นที่พึ่งพาให้กับครอบครัวได้

นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีเพื่อนของกลุ่มผู้ต้องหาเดินทางมาสอบถามข้อมูลกับตำรวจ และไปยืนรออยู่บริเวณหน้า สน.ไม่ได้เดินขึ้นไปเยี่ยมกลุ่มผู้ต้องหาแต่อย่างใด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน