เมื่อวันที่ 18 ม.ค. ที่กระทรวงยุติธรรม (ยธ.) พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีนางจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร อดีตครูโรงเรียนบ้านม่วงไข่ประชาราษฎร์สงเคราะห์ ต.ด่านม่วงคำ อ.โคกศรีสุพรรณ จ.สกลนคร แพะในคดีถูกกล่าวหาขับรถชนคนเสียชีวิต ว่าในวันที่ 8, 9 และ 10 ก.พ.นี้ ซึ่งเป็นวันที่ศาลได้นัดสืบพยานในคดีของนางจอมทรัพย์นั้น ในส่วนของกระทรวงยุติธรรมที่ดูแลเรื่องนี้นั้น จะได้นำพยานหลักฐานใหม่ 3 ปาก ที่ได้จากการลงพื้นที่ตรวจสอบ ซึ่งสอดคล้องกับนางจอมทรัพย์เข้าไปนำสืบพยาน

พร้อมทั้งนำวัตถุพยานใหม่ที่ไม่เคยนำเสนอต่อศาลก่อนหน้านี้ไปด้วย ที่ผ่านมา ในการกระบวนการตรวจสอบเรื่องดังกล่าวนั้น เราได้ตรวจสอบความน่าเชื่อถือของพยานหลักฐานใหม่เหล่านี้แล้ว จึงมีความเชื่อมั่นว่าพยานหลักฐานใหม่ทั้งหมดจะทำให้ศาลสามารถกลับคำพิพากษาได้ แต่ในขณะนี้เราไม่สามารถเปิดเผยพยานหลักฐานได้ เนื่องจากอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของศาล แต่เชื่อว่าจะสามารถเปลี่ยนคำพิพากษาศาลได้

“พยานหลักฐานใหม่นี้ เป็นทั้งวัตถุพยานและพยานบุคคล ซึ่งวัตถุพยานที่เราได้มานั้น ไม่เคยนำเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของศาลในตอนแรกเลย และตอนนี้พยานมีความพร้อมที่จะเข้าเบิกความมากกว่า 100 เปอร์เซ็นต์ ทั้งนี้ กระทรวงยุติธรรมมีหน้าที่หยิบยื่นความยุติธรรมให้กับผู้ที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม ส่วนสาเหตุที่เราตัดสินใจ่วยครูจอมทรัพย์นั้น เมื่อมีการร้องเรียนเข้ามายังกระทรวง และลงพื้นที่ไปตรวจสอบข้อเท็จจริง จนพบพยานหลักฐานใหม่ที่เชื่อว่าครูจอมทรัพย์เป็นแพะจริง” รองปลัด ยธ. กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า ในวันที่ศาลนัดสืบพยานนั้น มีความมั่นใจมากแค่ไหน พ.ต.อ.ดุษฎี กล่าวว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ตนและคณะทำงานในเรื่องคดีของนางจอมทรัพย์ ได้มีการหรือร่วมกันแล้ว พร้อมทั้งในที่ประชุมยังได้มีการเฟสไทม์พูดคุยกับนางจอมทรัพย์ และพยานปากสำคัญอีกด้วย ซึ่งทั้งหมดมีความมั่นใจ และเชื่อว่าจะสามารถทำให้ศาลรับพิจารณาในการรื้อฟื้นคดีใหม่ได้ ส่วนรายละเอียดของพยานหลักฐานนั้น ขณะนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ ส่วนกรณีที่ทางตำรวจออกมาระบุถึงการพบขบวนการจ้างผู้กระทำผิดมารับโทษแทนในคดีนี้นั้น ในส่วนของของ ยธ. ไม่ขอแสดงความคิดเห็น ซึ่งกระทรวงมีหน้าที่ช่วยเหลือผู้เสียหายและไม่ได้รับความเป็นธรรม ไม่ใช่เรื่องที่เราจะเข้ายุ่งกับความขัดแย้ง

พ.ต.อ.ดุษฎี กล่าวด้วยว่า หลังจากนี้ต้องรอดูว่าศาลจะมีการพิจารณาอย่างไร หากนางจอมทรัพย์ตกเป็นแพะจริง ทางกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม ก็จะต้องเข้าไปดำเนินการเยียวยาต่อไป ส่วนกระบวนการหลังจากนั้น ก็จะต้องไปดูว่าผู้ที่จะต้องรับผิดชอบในเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นใครบ้าง อย่างไรก็ตาม ต้องขอให้รอฟังการพิจารณาของศาลก่อน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน