ตำรวจวอน เหยื่อยาเสียสาว ให้เข้าแจ้งความ ส่วนใหญ่วางขายหน้าผับหน้าบาร์

เหยื่อยาเสียสาว / วันที่ 23 พ.ย. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. เปิดเผยถึงกรณีที่สื่อนำเสนอข่าว หญิงสาวรายหนึ่งโพสต์เตือนภัย หลังจากเพื่อนสาว ที่ตกอยู่ในอันตรายเพราะโดนหยอดยาจนหมดสภาพ โดยมีอาการร้อนไปหมดทั้งตัว และต้องถอดเสื้อผ้า อาเจียน แทบไม่ได้สติ

ต่อมาสื่อได้นำเสนอข่าวเพิ่มเติม ที่เกิดขึ้น โดยระบุว่า เพื่อนของผู้โพสต์นั้น ทำงานเป็นพีอาร์ในสถานบริการแห่งหนึ่ง แต่โดนลูกค้าหยอดยาเสียสาว ซึ่งก่อนหน้านั้น น้องของเธอคนหนึ่งก็ถูกก่อเหตุในลักษณะเดียวกัน ประกอบกับทางผู้เสียหายหรือผู้ที่ถูกกระทำก็ไม่กล้าไปแจ้งความกับตำรวจ เนื่องจากกลัวว่าร้านที่ทำงานจะได้รับผลกระทบไปด้วยนั้น

รายงาน จาก กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค ว่า ยาเสียสาว ที่มีจำหน่ายตามท้องตลอด แบ่งเป็นสองกลุ่ม คือ กลุ่มกระตุ้นอารมณ์ทางเพศและกลุ่มยานอนหลับ ซึ่งมักอยู่ในรูปของเหลวใสหรือเป็นผง ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น มีฤทธิ์คล้ายยานอนหลับ

โดยจากข้อมูลจากแผนประทุษกรรมของผู้ที่กระทำความผิดในลักษณะแบบนี้ จะอาศัยจังหวะที่เหยื่อเผลอหยอดยาฯ หรือของเหลวลงในเครื่องดื่มให้เหยื่อดื่ม เนื่องจากยาหรือของเหลวที่นำไปหยอดดังกล่าวนั้น ไม่มีสี ไม่มีรส ไม่มีกลิ่น

เมื่อเหยื่อหลงทานหรือดื่มเข้าไป อาจทำให้ กระตุ้นอารมณ์ทางเพศหรือมีอาการมึนเมาหรือสลบและสบโอกาสให้คนร้ายก่อเหตุในลักษณะต่างๆ โดยเฉพาะต่อ ผู้หญิงที่อาจถูกล่วงละเมิดทางเพศ หรือ ถูกข่มขืนกระทำชำเรา ชิงทรัพย์ หรือ ลักทรัพย์ เป็นต้น

พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวอีกว่า สำหรับผู้เสียหายที่ถูกกระทำหรือก่อเหตุในลักษณะดังกล่าว สามารถร้องทุกข์มอบคดีต่อพนักงานสอบสวนในท้องที่ๆเกิดเหตุได้โดยตลอด ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้น พร้อมให้ความเป็นธรรมและสืบสวนติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเด็ดขาดอยู่แล้ว

ที่ผ่านมาในด้านป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดในลักษณะดังกล่าว พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้กำชับ กองบัญชาการทุกภาคส่วนและ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค ออกตรวจสอบ ตรวจค้น ยึด กดดัน จับกุม ร้านค้าหรือผู้ที่ลักลอบจำหน่ายขายยาปลุกเซ็กซ์ หรือ ยาเสียสาว ซึ่งผิดกฎหมาย ที่มักพบตั้งริมทางในย่านสถานที่ท่องเที่ยว สถานบันเทิงยามค่ำคืนและแพร่หลายตามสื่อโซลเชียลมิเดีย มาโดยตลอด

พร้อมทั้งยังกำชับ ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสร้างช่องทางการรับรู้ การป้องกัน และระวังภัย แก่เด็ก เยาวชนรวมไปถึงประชาชนที่อาจถูกฉวยโอกาสก่อเหตุในลักษณะดังกล่าวเกิดขึ้นอีกด้วย สำหรับข้อหาความผิดของ ผู้จูงใจ ชักนำ ยุยงส่งเสริม ใช้อุบายหลอกลวงหรือขู่เข็ญให้ผู้อื่นเสพ โทษจำคุก 2-10 ปี ปรับ 40,000-200,000 บาท

หากกระทำต่อหญิงหรือต่อบุคคลซึ่งยังไม่บรรลุนิติภาวะ โทษจำคุก 3 ปี ถึงตลอดชีวิต ปรับ 60,000 – 500,000 บาท , ผู้ครอบครองหรือใช้ประโยชน์ โทษจำคุก 1 – 5 ปี ปรับ 20,000 – 100,000 บาท และ ผู้ผลิต นำเข้า ส่งออก จำหน่าย โทษจำคุก 5-20 ปี ปรับ 100,000 – 400,000 บาท

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน