นัท โอนไว มั่นใจ! นี่แหละ ‘ขวัญ’ ตัวจริง เผยให้เปย์เข้าบัญชีแม่ รู้ที่อยู่แล้ว
วันที่ 23 พ.ย. ความคืบหน้า กรณีนายสรฉัตร หรือ นัท โอนไว อายุ 31 ปี ถูกสาวในแชทไลน์ ซึ่งรู้จักกันผ่านแอพหาคู่ทางโซเชียล หลอกยืมเงิน สูญเงินกว่า 98,000 บาท โดยเมื่อช่วงบ่ายวันนี้ นายสรฉัตร ได้เดินทางมาเข้าพบกับ ร.ต.อ. อภิชาติ โกเนตร์สุวรรณ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองจันทบุรี ในการนำข้อมูลสำคัญซึ่งเป็นข้อมูลประวัติของผู้ต้องสงสัย ที่คาดว่าจะเป็นบุคคลเดียวกันกับ น้องขวัญ สาวในแชทไลน์
นายสรฉัตร เปิดเผยว่า จากกรณี ที่ในโลกโซเชี่ยลได้มีการแชร์ภาพพร้อมข้อมูลของสาวใหญ่รายหนึ่ง ที่คาดว่า จะเป็นตัวจริงของ “ น้องของขวัญ 165” หรือ “น้องของขวัญ ขายครีม” ตามชื่อในโปรไฟล์ ที่ใช้แชทคุยกับตน ตนยืนยันว่าข้อมูลที่แชร์กัน เป็นความจริง สาวใหญ่ในรูปถ่าย เป็นคนเดียวกันกับ น้องของขวัญ ในโลกออนไลน์
นายสรฉัตร บอกอีกว่า ทั้งนี้ที่เชื่อว่าเป็นบุคคลเดียวกันเนื่องจาก เมื่อวันที่ 9 พ.ย. ที่ผ่านมา หลังจากที่ได้มีการแชทและทวงถามเรื่องเงิน น้องของขวัญ ได้โทรศัพท์โชว์เบอร์มา เพื่อขอยืมเงินอีกครั้ง แต่เมื่อโทรกลับไปกลับไม่มีคนรับสาย ก่อนที่ตนเองจะถูกบล็อคการติดต่อทั้งหมด
ต่อมาจึงได้นำหมายเลขโทรศัพท์ดังกล่าว ไปให้ทางศูนย์โทรศัพท์ผู้ให้บริการ ดำเนินการตรวจสอบ และพบว่าเป็นซิมแบบเติมเงิน และมีรายชื่อผู้ลงทะเบียนเป็นเจ้าของซิมการ์ด คือ นางพเยาว์ (สงวนนามสกุล) อายุ 58 ปี ภูมิลำเนา อยู่เขตจอมทอง กรุงเทพฯ และบังเอิญไปตรงกับ ชื่อเจ้าของบัญชี ที่ตนเองโอนเงินไปให้
ที่น่าสนใจ จากการตรวจสอบข้อมูลในครั้งนี้ ทำให้พบว่า นางพเยาว์ กลับมีตัวตน ใช้ชื่อและนามสกุลเดียวกัน ถึง 2 คน รายแรกที่ตนเองโอนเงินไปให้ มีอายุ 82 ปี ซึ่งได้ออกมาให้ข่าวก่อนหน้านี้ว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ส่วนนางพเยาว์ อายุ 58 ปี จากการที่ได้มีการตรวจสอบ คือเจ้าของจากบัญชีปลายทางการที่ตนเองโอนเงินไปอีก 12 ครั้ง
อย่างไรก็ตาม เมื่อตรวจสอบแล้ว มีข้อมูลที่ยืนยันได่ว่านางพเยาว์ เป็นแม่ของ น้องขวัญ ตัวจริงที่ปรากฏในโลกโซเชียล ที่มีอายุ 32 ปีแล้ว จากการสืบค้นทะเบียนประวัติ แฟ้มคดีสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พบว่า น้องขวัญ คนนี้มีหมายจับ ในคดีฉ้อโกงทรัพย์ เมื่อปี 2560 ท้องที่ สน.พระราชวัง
ด้าน ร.ต.อ.อภิชาติ หลังจากที่ได้รับข้อมูลหลักฐาน จากผู้เสียหาย ที่นำมามอบให้ จากการตรวจสอบ เบื้องต้น ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่า บุคคลในภาพเป็นคนเดียวกันกับสาวในแชทไลน์จริงหรือไม่ ยังถือว่าเป็นบุคคลต้องสงสัย ทั้งนี้จะได้ข้อมูลหลักฐานที่ได้รับจากผู้เสียหาย ประสานไปยัง สถานีตำรวจท้องที่ ที่ผู้ต้องสงสัย อาศัยอยู่ ในการเรียกตัวมาสอบปากคำ
พร้อมกันนี้ยังจะเร่งประสานธนาคารเจ้าของบัญชี ในการตรวจสอบเส้นทางการเดินสายกดเงินตามธนาคาร เพื่อหาข้อมูล หลักฐานทั้งภาพ ตลอดจนวันเวลาที่กดเงิน ในการนำประกอบสำนวนการทำคดีให้เกิดความรัดกุมต่อไป
