กรณีตรวจพบทุจริตการสอบคัดเลือกบุคคลภายนอกบรรจุเป็นนักเรียนนายสิบ พ.ศ.2559 ที่สนามสอบมหาวิทยาลัยรามคำแหง หัวหมาก เมื่อวันที่ 4 ธ.ค. ที่ผ่านมา ต่อมาพล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รองผบช.น.ตั้งคณะพนักงานสอบสวนหาตัวผู้ร่วมกระทำความผิด ภายหลัง พ.ต.อ.อุเทน นุ้ยพิน ผกก.ศูนย์ฝึกอบรม (ศฝร.) บช.น. เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนสน.พหลโยธินเพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิด 3 ข้อหา ประกอบด้วย อั้งยี่ แจ้งความเท็จ และความผิดตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14 (2) แล้วจึงขอเสนอศาลอาญารัชดาภิเษกเพื่อขออนุมัติหมายเรียกผู้ร่วมกระทำที่เป็นผู้รับจ้างทำข้อสอบซึ่งเป็นกลุ่มนักศึกษามหาวิทยาลัยชื่อดัง คณะต่างๆ 51 คนและผู้ร่วมขบวนการรวม 52 โดยเมื่อวานนี้มีนักศึกษาจำนวน 29 ราย เดินทางเข้าให้ปากคำไปแล้วที่สน.พหลโยธินตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 18 ม.ค. ที่สน.พหลโยธิน พล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รอง ผบช.น. เดินทางมาเพื่อประชุมกำหนดแนวทางในการสอบสวนคดีดังกล่าว ดดยพล.ต.ต.อดุลย์ กล่าวว่า ในการสืบสวนสอบสวนจะต้องให้ความยุติธรรมทุกคนและทุกฝ่าย เพื่อที่จะให้การทำสำนวนในครั้งนี้ไม่ให้มีปัญหา เพราะฉะนั้นการทำหน้าที่ของพนักงานสอบสวนเราต้องรอบคอบ ละเอียดและรัดกุม ซึ่งเมื่อวานก็มีการประชุมกันถึงเย็น พยายามที่จะให้พนักงานสอบสวนได้เห็นแนวทางในการกระทำความผิด เพราะว่าการสอบสวนในบางทีเรายังไม่รู้แนวทางไม่รู้วิธีการเราก็จะไปคนล่ะทิศทาง
ซึ่งวันนี้กรอบต่างๆมีความชัดเจน ตนก็ได้ทำการบ้านเพิ่มเติมในการที่จะดูว่าพยายามต่างๆ ที่เราสอบไปนั้น รวมทั้งผู้ต้องหาเขาให้การเป็นประโยชน์กับคดีหรือไม่คนที่ให้การเป็นประโยชน์ก็จะได้รับประโยชน์นั้นแต่คนที่ไม่ให้การเป็นประโยชน์เขาก็จะเสียประโยชน์ของเขาเอง ในส่วนของผู้ต้องหา 52 รายตอนนี้เข้ามาแล้ว 37 ราย ทั้งหมดแล้ว
รวมถึงตัวการ ก็ยังเหลืออีก 15 ราย ซึ่ง 15 รายนั้นก็อยู่ระหว่างการติดสอบบ้าง อยู่ต่างประเทศบ้าง อยู่ 5 รายก็มีหนังสือส่งมาแล้ว และยังเหลืออีก 10 ราย พนักงานสอบสวนก็จะติดตาม ซึ่งเราก็มีเส้นตาย หากหมดเส้นตาย เราก็จะจับกุมเพราะมีหมายจับ เมื่อได้ตัวหมายแล้วไม่ต้องถามหาการประกันตัวเลยถือว่าท่านมีพฤติการณ์หลบหนี เราก็อยากจะคัดค้านการประกันตัว และออกหมายขังส่งศาลทันที เพราะฉะนั้นตรงนี้ขอประชาสัมพันธ์ว่า ในการดำเนินงานต่างๆ ก็ขอให้มาให้ข้อมูลที่ครบถ้วน แก่พนักงานสอบสวนเพื่อที่จะได้ดำเนินให้ เป็นความยุติธรรมต่อไป
ในส่วนการสอบสวนนายจิระพจน์ พลายด้วง อายุ 45 ปี เจ้าหน้าที่สำนักเทศกิจเขตปทุมวัน ตัวการใหญ่ในคดีการทุจริตสอบนายสิบตำรวจ เมื่อวานนี้ในช่วงแรกให้การปฏิเสธ แต่ในช่วงหลักก็ให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีมากขึ้น จึงได้ให้ประกันตัวด้วยหลักทรัพย์เงินสด 150,000 บาท
พล.ต.ต.อดุลย์ กล่าวต่อว่า กรณีการขออำนาจศาลเพื่อออกหมายจับผู้ลอกข้อสอบอีก 100 คนนั้น ทางเจ้าหน้าที่ได้ไปขออำนาจศาลแล้ว แต่ทางศาลให้ไปหาหลักฐานเพิ่มเติม เจ้าหน้าที่จึงต้องรวบรวมพยานหลักฐานให้ครบถ้วนก่อนจะขอหมายจับต่อศาลอีกครั้ง ซึ่งตนก็เตรียมพนักงานสอบสวนจากบก.ต่างๆ ทั่วกรุงเทพฯ เพื่อเตรียมสอบผู้ต้องหาอีก 100 คนแล้ว อาจต้องใช้สถานที่ห้องประชุมที่บช.น.หรือที่สโมสรตำรวจ
ทั้งนี้ ตนขอเวลาอีก 1 อาทิตย์ในการคัดกรองผู้สอบติดที่มีความเกี่ยวข้องกับการทุจริต จากนั้นจะส่งรายชื่อผู้สอบผ่านไปให้กองทะเบียนอาชญากร ตรวจสอบประวัติและจะประกาศผลสอบในวันที่ 30 ม.ค. และจะส่งผู้สอบติดไปฝึกที่ศูนย์ฝึกต่างๆ
ส่วนกรณีของนายรัฐพล ภิญโญ อายุ 21 ปี พนักงานโรงแรมแห่งหนึ่ง ที่อ่าวนาง จ.กระบี่ ที่ถูกออกหมายจับในคดีที่ถูกกล่าวหาว่า เป็นมือปืนรับจ้างในการทำข้อสอบนายสิบตำรวจ ทั้งที่ตนเองจบประถมศึกษาชั้นปีที่ 6 และทำงานในโรงแรมแห่งหนึ่งใน จ.กระบี่และไม่เคยเข้าสอบนายสิบตำรวจ พล.ต.ต.อดุลย์ ชี้แจ้งว่า กรณีดังกล่าว เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบพบว่าบุคคลดังกล่าวไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง เพียงแต่มีชื่อและนามสกุลเดียวกับผู้ที่กระทำความผิด จึงได้คัดสำเนาบัตรประชาชนและได้ขอหมายศาลใหม่ และจับตัวผู้ที่กระทำความผิดมาเข้าสู่ขบวนการทางกฎหมายแล้วต่อไป ขณะนี้การทุจริตการสอบพบเพียงที่บช.น.เท่านั้น หากพบว่ามีการทุจริตในที่อื่นก็จะแจ้งกองบัญชาการที่รับผิดชอบการสอบต่อไป
ต่อมาเวลา 10.30 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. กล่าวถึงความคืบหน้าในการดำเนินคดีทุจริตสอบนายสิบตำรวจ ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่า ล่าสุดมติของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ที่มีพล.อ.เดชณรงค์ สุทธิสารบัญชา รองบัญชาการตำรวจแห่งชาติ มีมติไม่เห็นชอบการยกเลิกการสอบนายสิบตำรวจทุกภาค แต่ให้เพิกถอนเฉพาะผู้ที่ตำรวจมีหลักฐานชัดเจนในการสอบ
ซึ่งขณะนี้มีกองบัญชการตำรวจนครบาล กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 และกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ที่สามารถตรวจสอบได้ รวมไปถึงจะยังคงมีการประกาศผู้ผ่านการสอบคัดเลือกทุกกองบัญชาการภายในวันที่ 27 ม.ค.นี้ แต่ในส่วนของกองบัญชาการตำรวจนครบาล จะประกาศภายในวันที่ 30 ม.ค. ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะพยายามอัพเดทข้อมูลในเฟซบุ๊ก เพื่อให้ประชาชนสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารได้
พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวอีกว่า สำหรับแนวทางการเยียวยานั้นสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีแนวทางในการเยียวยาผู้เข้าสอบอยู่แล้ว ขอผู้เข้าสอบอย่ารับฟังกระแสสังคม รวมไปถึงขณะนี้มีการขยายผลดำเนินคดีกับผู้อยู่เบื้องหลังทั้งหมด ทั้งผู้รับจ้างมอบ ผู้ได้รับผลประโยชน์ จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฏหมาย
วันเดียวกัน ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. เปิดเผยกรณีโกงสอบนายสิบว่า สั่งการพนักงานสอบสวนสน.พหลโยธิน รวบรวมหลักฐาน ยังอยู่ระหว่างดำเนินการ ต้องใช้เวลาพิสูจน์ทราบ ส่วนจะมีการออกหมายจับเพิ่มผู้ที่เกี่ยวข้องอีก 200 รายหรือไม่นั้น เบื้องต้นอยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐาน เพราะกระบวนการเหล่านี้ต้องให้เวลาพนักงานสอบสวนทำงาน โดยที่จะไม่รอเพียงการซักทอดของผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายเรียกก่อนหน้านี้ 52 รายเท่านั้น แต่ในชั้นสอบสวนจะต้องทำให้มีพยานหลักฐานแน่นหนาพอ เพื่อทำให้ในชั้นพิจารณาของศาลสิ้นข้อสงสัยจนสามารถขออนุมัติหมายจับได้ จึงจำเป็นจะต้องรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม เพื่อใช้มัดตัวผู้กระทำผิดทั้งหมด เนื่องจากผู้ต้องหาส่วนใหญ่จะไม่ให้การในชั้นพนักงานสอบสวน แต่จะไปให้การในชั้นศาล
เมื่อถามว่า จากการสอบสวนพฤติกรรมความผิดของผู้ต้องหาสอดคล้องในข้อหาใดบ้าง พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวว่า ต้องเอาข้อเท็จจริงมาพิจารณา เมื่อข้อเท็จจริงเข้าผิดองค์ประกอบฐานใดบ้าง ก่อนที่จะตั้งข้อหาตามนั้น ส่วนสำนวนจะเสร็จภายในเดือนนี้หรือไม่ พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวว่า ตนอยากให้เสร็จภายในวันนี้พรุ่งนี้ด้วยด้วยซ้ำไป แต่ไม่อยากเร่งรัดจนเกินไปต้องให้ชัดเจน แต่ต้องอยู่บนข้อมูลข้อเท็จจริงเชิงประจักษ์ หากมีข้อมูลที่เบาะแสเป็นโยชน์ในการดำเนินคดีกลุ่มดังกล่าว หรือกลุ่มอื่นที่เกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการทั้งหมด
“นักศึกษาส่วนใหญ่เป็นระดับหัวกระทิของมหาวิทยาลัยดัง ซึ่งครอบครัวไม่ได้เดือนร้อนเรื่องเงินทอง ตนมองว่าครอบครัวไม่ได้ดูแลใกล้ชิด น้องๆส่วนใหญ่ก็โตแล้ว ในส่วนนี้ครอบครัวกับทางเจ้าหน้านี้ต้องมาจับมือร่วมให้ความสำคัญร่วมกันมากกว่านี้ เพราะกลุ่มที่ทุจริตไปชักชวนโน้มน้าวทำให้เด็กเหล่านี้หลงผิดหลงทางไป ต่อไปนี้ผู้ใหญ่ลงมาให้ความสำคัญ จะไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก เห็นด้วยกับทางผบ.ตร.และคณะกรรมที่ประชุมตร.มีมติให้นิ้วไหนร้าย ก็ตัดนิ้วนั้นทิ้ง” พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าว
มีรายงานข่าวว่า พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. เซ็นหนังสือออกประกาศกองบัญชาการตำรวจนครบาล เรื่องให้ผู้สอบผ่านข้อเขียนเข้ารับการสอบสัมภาษณ์ (เพิ่มเติม) ในการดำเนินการรับสมัครและคัดเลือกบุคคลภายนอกผู้มีวุฒิประกาศนียบัตรมัธยมศึกษาตอนปลาย หรือประกาศนียบัตรวิชาชีพ หรือเทียบเท่า เพื่อบรรจุเป็นนักเรียนนายสิบตำรวจ พ.ศ.2559 (ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2560) คณะอนุกรรมการสอบสัมภาษณ์ ได้รับงานผลการสอบสัมภาษณ์เบื้องต้นจากเจ้าหน้าที่ผู้ดำเนินการสอบสัมภาษณ์ เมื่อพิจารณาแล้วมีประเด็นข้อเท็จจริงบางประการ คณะกรรมการสอบสัมภาษณ์เห็นควรจะต้องดำเนินการสอบสัมภาษณ์ด้วยตัวเอง จึงให้ผู้ที่มีรายชื่อเข้ารับการสอบสัมภาษณ์ต่อคณะอนุกรรมการฯ ในวันที่ 23 ม.ค.60 เวลา 10.00 น. ที่ห้องประชุมใหญ่ บช.น. หากผู้ที่มีรายชื่อไม่มาสอบสัมภาษณ์ตามกำหนดจะถือว่าสละสิทธิ์ และไม่สามารถเรียกร้องสิทธิใดๆ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ที่ถูกเรียกมาสอบสัมภาษณ์เพิ่มเติมมีจำนวน 123 คน โดยรายชื่อได้ประกาศลงใน เว็บไซต์ www.policeadmission.org และ http:/www.ตำรวจนครบาล.com www.ตำรวจนครบาล.com
สำหรับผู้ไม่ผ่านการตรวจร่างกาย สามารถยื่นอุทธรณ์ผลการตรวจของแพทย์โรงพยาบาลตำรวจได้ วันที่ 17-23 ม.ค. โดยยื่นเอกสารและหลักฐานคำร้องได้ที่ศูนย์ฝึกอบรม บช.น. ทั้งนี้ วันที่ 30 ม.ค. ประกาศรายชื่อผู้ได้รับการคัดเลือกและผู้ได้รับการคัดเลือกสำรอง เรียงลำดับคะแนน โดยประกาศต่างๆ ของบช.น.จะประกาศให้ทราบทางอินเตอร์เน็ตเช่นกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า นอกจากคณะกรรมการฯสอบสัมภาษณ์แล้ว ก็จะสืบสวนข้อมูลการทุจริตโกงสอบไปพร้อมๆกันด้วย
มีรายงานข่าวแจ้งว่า จากการสืบสวนของคณะกรรมการตรวจสอบพบว่า มีกลุ่มผู้ร่วมขบวนการจำนวน 4 กลุ่ม ที่ทุจริตการสอบโดยรับเด็กที่รับจ้างทำข้อเฉลยสอบไปส่งสนามสอบอีกประมาณมากกว่า 10 คน ทั้งนี้ทาง พล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รองผบช.น. ดูแลงานกฎหมายหมายและคดี เร่งรัดสรุปให้เสร็จภายใน 1-2 วัน สำหรับการออกหมายจับผู้ร่วมขบวนการทุจริตสอบนั้นอยู่ระหว่างการสอบสวนเพิ่มเต็มเพื่อออกหมายจับ
