จากกรณีชาวอุยกูร์ 10 คนหลบหนีจากอาคารควบคุมผู้หลบหนีเข้าเมือง ตม.หนองคาย โดยใช้วิธีแหกตะแกรงเหล็กแล้วเจาะฝ้าเพดานและหลังคา จากนั้นใช้ผ้าห่มมัดเป็นเชือกแล้วโรยตัวลงมา โดยก่อเหตุในช่วงฝนตกและไฟฟ้าดับ ก่อนเจ้าหน้าที่ตามจับกุมได้ 9 คน แต่ยังหลบหนีอีก 1 คนทราบชื่อนายราชิต ฮาชิม เบื้องต้นทั้งหมดเพิ่งย้ายมาควบคุมตัวที่ตม.หนองคายเมื่อเดือนมิ.ย. เพื่อหวังลดความกดดันและเครียด ขณะที่ผบช.สตม.สั่งตั้งคณะกรรมการสอบและย้ายเจ้าหน้าที่ดูแล เหตุเกิดเมื่อวันที่ 20 ก.ย. ตามที่เคยเสนอข่าวไปแล้วนั้น
เมื่อวันที่ 21 ก.ย. นายสุชาติ นพวรรณ ผู้ว่าฯหนองคาย พ.ต.อ.พัลลภ สุริยกุล ณ อยุธยา ผกก.ตม.หนองคาย นายโสภณ ห่วงญาติ นายอำเภอเมืองหนองคาย และเจ้าหน้าที่ตม.หนองคาย วางแผนปฏิบัติการติดตามตัวนายราชิต โดยเจ้าหน้าที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิด บริเวณฟาร์มเห็ดแห่งหนึ่งใกล้สถานีรถไฟนาทา ต.หนองกอมเกาะ อ.เมืองหนองคาย ใกล้กับจุดที่จับกุม 9 คนกลับมาได้ พบเมื่อเวลา 13.20 น.ของวันที่ 20 ก.ย.ที่ผ่านมา นายราชิตสวมเสื้อยืดแขนสั้นสีม่วง กางเกงขาสั้นสีน้ำเงิน รองเท้าหุ้มส้นสีดำ สวมหมวกแก๊ปสีขาว สะพายเป้สีดำ เดินอยู่กลางถนน เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่านายราชิตเดินแยกออกจากเพื่อน เพื่อไปดูลาดเลา ซึ่งหลังจากนั้นไม่นานเวลา 13.40 น. เจ้าหน้าที่ก็เข้าจับกุมชาวอุยกูร์ที่รออยู่บริเวณป่าช้าด้านหลังวัดบ้านหนองขาม นายราชิตอาจทราบว่าเพื่อนถูกจับก็เลยหนีเตลิดไปคนเดียว โดยพบเสื้อผ้าของนายราชิตที่ใส่ในวันหลบหนีถอดทิ้งไว้ด้วย จากการตรวจค้นกระเป๋าเป้ที่อุยกูร์ทั้ง 9 คนสะพายเพื่อหลบหนี พบมีการตุนเสบียงอาหาร ทั้งกาแฟผง ผลอินทผลัมแห้ง ขนมปังกรอบ ซึ่งล้วนเป็นอาหารที่ตรวจคนเข้าเมืองหนองคายนำแจกจ่ายให้ทุกคนได้กินในแต่ละวัน เชื่อว่าชาวอุยกูร์จะซ่อนไว้กินระหว่างทางหลบหนี
เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่านายราชิตจะใช้เส้นทางตามรางรถไฟหลบหนี โดยมีชาวบ้านในพื้นที่จุดตัดทางรถไฟระหว่างหนองคาย–อุดรธานี ช่วงทางแยกเข้าอ.บ้านผือ จ.อุดรธานี พบเห็นบุคคลคล้ายนายราชิต เดินสะพายกระเป๋าผ่านไปมุ่งหน้าเข้าตัวเมืองอุดรธานี พ.ต.อ.พัลลภ จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบ โดยได้นำรูปถ่ายนายราชิต พร้อมภาพจากกล้องวงจรปิดให้ประชาชนดูตลอดระยะทางที่ติดตาม แต่ก็ยังไม่พบตัว และตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดตามจุดที่คาดว่าจะเป็นเส้นทางหลบหนีของนายราชิต พร้อมทั้งใช้โดรนบินจับภาพมุมสูงค้นหาร่วมด้วย
