‘ศรีวราห์’ มั่นใจ! เอาผิด เจ้าสัวเปรมชัย ได้ หลังสืบพยานเป็นปากแรก

เจ้าสัวเปรมชัย คดี เสือดำ / วันที่ 27 พ.ย. ที่ศาลจังหวัดทองผาภูมิ อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ศาลได้นัดสืบพยานในคดีอาญาหมายเลขดำที่ 219/2561 โดยมีพนักงานอัยการจังหวัดทองผาภูมิ เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายเปรมชัย กรรณสูต ประธานกรรมการ บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล็อปเมนต์ พร้อมพวกรวม 4 คน ซึ่งตกเป็นจำเลย

ในคดีที่นายวิเชียร ชิณวงษ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันตก นำกำลังเข้าจับกุม นายเปรมชัย และพวก ขณะเข้าไปลักลอบล่าสัตว์ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ฝั่งตะวันตก จ.กาญจนบุรี พร้อมของกลาง คือ ซากเสือดำ ไก่ฟ้าหลังเทา เก้ง รวมทั้งอาวุธปืนพร้อมเครื่องกระสุนปืนจำนวนมาก เหตุเกิดเมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งวันนี้เป็นการนัดสืบพยานเป็นนัดแรก

โดยเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ที่ห้องพิจารณาคดีที่ 2 บนชั้น 2 ของศาลฯ ได้มีการสืบพยานโจทก์คดี นายเปรมชัย มีผู้พิพากษาเป็นองค์คณะที่พิจารณาพิพากษาคดีทั้งหมด 3 คน

ต่อมากรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ยื่นคำร้องให้จำเลยทั้งสี่ ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเป็นจำนวนเงิน 12,750,000 บาท ซึ่งจำเลยทั้ง 4 ให้การปฏิเสธ และศาลกำหนดให้จำเลยทั้ง 4 ยื่นคำให้การแก้คดีเป็นหนังสือภายในวันที่ 11 ธ.ค. 2561

จำเลยที่ 1 ยื่นคำร้องขอพิจารณาคดีลับหลังจำเลยที่ 1 ซึ่งศาลเห็นว่าคดีนี้มีอัตราโทษจำคุกอย่างสูงไม่เกิน 10 ปี และจำเลยที่ 1 มีทนายความแล้ว ศาลอนุญาตให้พิจารณาคดีลับหลังจำเลยที่ 1 ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 172 ทวิ (1)

หลังจากนั้น อัยการโจทก์ นำพยาน คือ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. เข้าเบิกความเป็นปากแรก และอัยการโจทก์นำ นายวิเชียร ชิณวงษ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันตก เข้าเบิกความเป็นปากที่ 2 ซึ่งถือเป็นพยานสำคัญในคดี

ต่อมาเวลา 11.30 น. พล.ต.อ.ศรีวราห์ ในฐานะพยานโจทก์ ได้เดินลงมาจากห้องพิจารณาคดี ก่อนเปิดเผยว่า ในขั้นตอนการสืบพยานในชั้นศาล ไม่สามารถนำรายละเอียดมาเปิดเผยได้ เพราะจะเป็นการละเมิดอำนาจศาลได้ ซึ่งตนมาในฐานะพยานโจทก์ ซึ่งมีอำนาจหน้าที่ตามที่ ตร.กำหนด ตามคำสั่ง คสช. ตามข้อบังคับกระทรวงมหาดไทย ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาที่ได้ตราไว้

“มั่นใจว่าอัยการจะทำหน้าที่ได้อย่างสมบูรณ์ สามารถเอาผิดกับผู้กระทำผิดตามที่ยื่นฟ้องไปได้ โดยฝากให้ประชาชนได้เฝ้าติดตามคดีนี้ด้วย”

หลังจากตนเบิกความแล้วเสร็จ ศาลได้กำชับทิ้งท้ายด้วยว่า ให้คุมพยานในส่วนของตำรวจมาศาลให้ครบถ้วน ซึ่งก็เป็นหน้าที่ของทางตำรวจที่จะต้องนำพยานขึ้นมาสืบอยู่แล้ว

จากนั้นเวลา 12.00 น. ทีมพนักงานอัยการ และ นายวิเชียร พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม รวมทั้ง นายยุทธชัย ปัทมสนธิ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 และคณะ ได้เดินลงจากห้องพิจารณาคดี เพื่อออกไปพักเที่ยง และจะกลับเข้ามาเบิกความ นายวิเชียร ต่อในช่วงบ่ายอีกครั้ง ขณะที่ นายเปรมชัย และพวก พร้อมทีมทนายความ ขณะนี้ยังคงอยู่ภายในศาล สำหรับความคืบหน้าจะรายงานให้ทราบต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน