กองปราบฯ บุกรวบ “ไอ้หรั่ง” อดีตมือขวา เสธ.แดง หลังก่อเหตุฆ่ารัดคอสาวคาราโอเกะ แฉประวัติพบมีคดีติดตัวเพียบทั้ง “ก่อการร้าย-ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน-ยิงตำรวจ” เผยมีพฤติกรรมก้าวร้าว-หัวรุนแรง สารภาพทะเลาะกันเรื่องหึงหวง ก่อนลงมือฆ่าโหด

เมื่อวันที่ 30 พ.ย. ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป. สั่งการให้ พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น ผกก.3 บก.ป. พร้อมด้วย พ.ต.ท.วิวัฒน์ จิตโสภากุล รอง ผกก.3 บก.ป. และ พ.ต.ท.สุริยศักดิ์ จิราวัสน์ สว.กก.3 บก.ป. นำกำลังเข้าจับกุมตัว นายสุรชัย หรือ หรั่ง หรือ รัก เทวรัตน์ อายุ 34 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนครราชสีมา ที่ 315/2561 ลงวันที่ 25 พ.ย.2561 ในข้อหา “ฆ่าผู้อื่น” โดยสามารถจับกุมได้ที่กระท่อมสวนยางพารา บ.ทางสายลวด ม.9 ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์จ.ศรีสะเกษ

สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 17.00 น. ของวันที่ 22 พ.ย. ที่ผ่านมา นายสุรชัย ได้ก่อเหตุฆ่า น.ส.แววดาว ภูวงค์ อายุ 23 ปี แฟนสาว ซึ่งเป็นพนักงานร้านเมืองแก้วคาราโอเกะ โดยใช้สายแก๊สรัดคอจนขาดอากาศหายใจเสียชีวิต ก่อนจะเขียนข้อความขอโทษวางไว้หน้าอกผู้ตาย แล้วหลบหนีไป ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นที่ห้องพักแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.โคกสูง อ.เมือง จ.นครราชสีมา พื้นที่ สภ.จอหอ

จากแนวทางการสืบสวนทราบว่า ทั้งคู่มักมีปากเสียงทะเลาะกันอยู่บ่อยครั้งในเรื่องความหึงหวง นอกจากนี้ จากการตรวจสอบประวัติของผู้ต้องหาดังกล่าวพบว่า เคยต้องโทษคดีอาญามาจำนวนหลายคดี ซึ่งเป็นคดีอุกฉกรรจ์และมีพฤติการณ์ก้าวร้าว หัวรุนแรง หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบทราบว่า นายสุรชัยได้หนีไปซ่อนตัวอยู่ในกระท่อมสวนยางของญาติ จึงวางแผนเข้าจับกุมตัวได้ดังกล่าว

สอบสวนเบื้องต้น นายสุรชัย ให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้ลงมือฆ่าน.ส.แววดาว เพราะมีเรื่องทะเลาะวิวาทกัน ด้วยความโกรธ จึงลงมือฆ่าผู้ตาย จากนั้น จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.จอหอ จ.นครราชสีมา ดำเนินคดีต่อไป

สำหรับประวัติของ นายสุรชัย เคยเป็นลูกน้องคนสนิทและเป็นอดีตมือขวาของ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง ในช่วงเข้าร่วมชุมนุมกับคนเสื้อแดง เมื่อครั้งเกิดเหตุการณ์ความวุ่นวายทางการเมืองปี 2553 ที่ผ่านมาเคยก่อคดีก่อการร้าย และฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และคดีอาญาอีกหลายคดี ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการก่อเหตุอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ ก่อนจะหลบหนีไปตามพื้นที่ต่างๆ และจากการได้รับเบาะแสพบว่าเป็นบุคคลที่มีพฤติการณ์ เร่ร่อน พักอาศัยไม่เป็นหลักแหล่ง อาศัยช่องทางโซเชียลในการตีสนิทกับหญิงสาว และมีพฤติกรรมติดต่อและคบกับหญิงสาวหลายคน ระหว่างคบหากัน ก็มีพฤติกรรมก้าวร้าว ทำร้ายร่างกาย ขู่เข็ญ

ทั้งนี้ สำหรับการก่อคดีของ นายสุรัชย จากการตรวจสอบพบว่า โดยเมื่อปี 2552 อยู่ระหว่างหลบหนีหมายจับศาลจังหวัดนางรองที่ จ.63/2552 ลงวันที่ 20 มี.ค.2552 ซึ่งต้องหากระทำผิดฐาน “ทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจ และบุกรุกเคหสถานในเวลากลางคืนโดยมีอาวุธ” ถัดมาในปี 2553 นายสุรชัยเป็นบุคคลที่ใช้เครื่องยิงลูกระเบิด ขนาด เอ็ม 79 ยิงใส่เจ้าพนักงานตำรวจ สภ.ลุมพินี บริเวณแยกศาลาแดง ตำรวจเสียชีวิต 2 นาย

จนถูกออกหมายจับโดยกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 1834/2558 และหมายจับที่ 1837/2558 ลงวันที่ 18 ส.ค.2558 ในคดีนี้ นายสุรชัยให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุจริง พร้อมกับอ้างตนว่าเป็นคนสนิทของ พล.ต.ขัตติยะ จนทำให้นายสุรชัยถูกตั้งข้อหา “ก่อการร้าย และฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน” ตามหมายจับศาลอาญาที่ จ.1053/2553

ต่อมาเมื่อปี 2560 หลบหนีคดี “พยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน” ตามหมายจับศาลจังหวัดพัทยาที่ (บ) 269/2560 (ไม่ไปฟังคำพิพากษา) ทั้งนี้ กรณีหมายจับดีเอสไอนั้น 1.หมายจับคดี ร่วมกันฆ่า อยู่ระหว่าง การปล่อยตัวชั่วคราว 2.หมายก่อการร้าย หลบหนีศาลไม่มาศาล ซึ่งทั้ง 2 คดียังไม่ได้ตัดสินอยู่ระหว่างพิจารณาในชั้นศาล และหลบหนีเรื่อยมาจนมาก่อเหตุในวันที่ 24 พ.ย. 2561

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน