พี่คล้าว 2018 พร้อมทนาย ร้องผบช.น.ขอเปลี่ยนตัวพนักงานสอบสวน สน.คันนายาวยกชุด พร้อมทั้งขอให้ตั้งคณะกรรมการสอบวินัย และให้ถอนข้อหาจำนวน 4 ข้อหาด้วย

จากกรณีที่ นายสงกานต์ ทนายความ แจ้งความข้อหาฉ้อโกง แก่นายสุรัตน์ แผ้วเกตุ หรือ พี่คล้าว 2018 วัย 34 ปี ชาวบ้าน ต.สุขเดือนห้า อ.เนินขาม จ.ชัยนาท ที่สน.คันนายาว หลังระดมทุนผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว นำไปซื้อควายชื่อทองคำ จากนายบุญเลิศ การภักดี นายก อบต.สุขเดือนห้า เป็นเงิน 1 แสนบาท ล่าสุดมีผู้ใหญ่ใจดีนำเงิน 1 แสนบาท ซื้อเจ้าทองคำให้แก่นายสุรัตน์ ทำให้นายบุญเลิศ แถลงต่อตำรวจว่าไม่ติดใจเอาความแล้ว ซึ่งเงินของกลาง ยังอยู่กับตำรวจ สน.คันนายาว ขณะที่ทนายสงกานต์ยังเดินหน้าหาหลักฐานต่อ ก่อนที่พี่คล้าว 2018 จะพาเจ้าทองคำกลับไปชัยนาท ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

พี่คล้าว 2018 / ความคืบหน้า เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 6 ธ.ค. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) นายรัชพล ศิริสาคร ประธานชมรมสนับสนุนการต่อสู้เพื่อความยุติธรรม เพจสายตรงกฎหมาย พร้อมด้วย นายสุรัตน์ แผ้วเกตุ พี่คล้าว 2018

เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนขอความเป็นธรรมต่อ พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผบช.น. กรณีสน.คันนายาว ตั้งข้อหาเกินจริง และขอให้ถอนข้อหาเรี่ยไร กับข้อหาความผิดตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และร้องขอให้เปลี่ยนพนักงานสอบสวน พร้อมทั้งขอให้ตั้งคณะกรรมการสอบวินัยพนักงานสอบสวน สน.คันนายาว โดยมี พ.ต.อ.วิศิษฐ์ หมื่นสุวรรณ์ ผกก.ฝอ.7 บก.อก.บช.น. รับเรื่องร้องเรียนดังกล่าว

นายรัชพล เปิดเผยว่า มาเพื่อร้องขอความเป็นธรรมให้ถอนข้อหาจำนวน 4 ข้อหา ได้แก่ ความผิดตาม พ.ร.บ.เรี่ยไร พ.ศ.2487 เนื่องจากกรณีดังกล่าวไม่ผิดกฎหมายเรี่ยไร เพราะไม่มีการเรี่ยไรเงินในถนนหลวงหรือที่สาธารณะ ไม่มีการพิมพ์ขึ้นเป็นหลายสำเนา จึงไม่มีความผิดตามพ.ร.บ.จดแจ้งการพิมพ์ พ.ศ.2550 รวมถึงใช้วิทยุกระจายเสียง เนื่องจากเป็นการกระทำผ่านเฟซบุ๊กที่ไม่เข้าเงื่อนไขดังกล่าว ความผิดตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ก็ไม่มีความผิด เนื่องจากนายสุรัตน์ไม่ได้เป็นคนนำข้อมูลเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์

ส่วนความผิดฐานฉ้อโกง ก็ไม่เป็นความผิด เพราะขาดเจตนาที่จะกระทำการดังกล่าว และความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน เพราะไม่ได้มีความผิดเกี่ยวกับการฟอกเงินแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม จะพูดคุยกับทนายคนดังที่กล่าวหา ก่อนที่จะพานายสุรัตน์เข้าแจ้งความกลับ ในความผิดข้อหาแจ้งความอาญาผู้อื่นโดยเป็นเท็จ

“นอกจากนี้ กรณีพนักงานสอบสวนสน.คันนายาว รับแจ้งความร้องเรียนในวันที่ 26 พ.ย. ที่ผ่านมา ภายใน 3 วันก็สรุปความผิดแล้ว ถามว่ามีมูลพอหรือไม่ที่จะสรุปความผิดของนายสุรัตน์ ถือว่าเป็นการรวบรัดด้วยความรวดเร็วเกินไป โดยที่ยังไม่ได้ซักถามนายสุรัตน์ ปฏิบัติหน้าที่รวดเร็วเกินไปและไม่เป็นธรรมแก่นายสุรัตน์

ขอให้เปลี่ยนพนักงานสอบสวนสน.คันนายาวทั้งชุด และตั้งคณะกรรมการสอบสวนพนักงานสอบสวนสน.คันยายาว ที่ทำคดีดังกล่าว เนื่องจากกรณีที่ชัดเจนที่สุดคือการตั้งพ.ร.บ.เรี่ยไร ไม่ผิดข้อหาดังกล่าวแน่นอน แต่ไม่ทราบว่าพนักงานสอบสวนตั้งข้อหาดังกล่าวได้อย่างไร เชื่อว่าจะได้รับความเป็นธรรมในการร้องเรียนครั้งนี้อย่างแน่นอน” ทนายรัชพล กล่าว

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่เพิ่มเพื่อน

ด้านนายสุรัตน์ กล่าวว่า ขณะนี้ยังมีความกังวลอยู่บ้างในเรื่องการแจ้งความ อยากกลับมาใช้ชีวิตแบบเดิมเรียบง่ายอยู่กับครอบครัว ก็อยากจบกรณีดังกล่าว ส่วนกรณีทนายชื่อดังมีหลักฐานเป็นคลิปเสียงนั้น ตนไม่ทราบว่าเป็นอย่างไร เจตนาตนก็พูดในส่วนที่ตั้งใจที่จะซื้อเจ้าทองคำ และการสร้างรอยยิ้มเท่านั้น อย่างที่เห็นในเฟซบุ๊ก

“ยืนยันว่าไม่ได้พูดอะไร เพราะว่าการมาตั้งคำถามกับผมมาก ก็ทำให้เกิดความงงขึ้นมาเหมือนกัน พอพูดไปก็มาตั้งคำถามเพิ่มเติมทำให้ต้องหยุดคิด ตอบไปแล้วตั้งคำถามใหม่ซ้ำๆ ทำให้กิดความงง พอตอบไปอย่างหนึ่งก็ถามมาใหม่ตลอดเวลา อย่างไรก็ตาม ผมจะเดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนสน.คันนายาวในวันที่ 14 ธ.ค. เวลา 13.00 น. ต่อไป” นายสุรัตน์ กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน