บิ๊กตู่ ตัดริบบิ้นรถไฟฟ้าสีเขียว บีทีเอส โอด ค่าโดยสาร 65 บาทต่ำเกินจริง!

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 07.00 น. วันที่ 6 ธ.ค. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางไปเป็นประธานในพิธีเปิดทดลองให้บริการเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ ที่บริเวณโรงจอดและศูนย์ซ่อมบำรุงรถไฟฟ้าสมุทรปราการ จากนั้นเวลา 07.30 น. นายกรัฐมนตรีนำคณะผู้บริหาร ผู้แทนหน่วยงาน และสื่อมวลชนโดยสารรถไฟฟ้าจากศูนย์ซ่อมบำรุงไปยังสถานีเคหะฯ

สำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ เป็น โครงการรถไฟฟ้าแบบยกระดับตลอดสาย ระยะทาง 13 กิโลเมตร จำนวน 9 สถานี ศูนย์ซ่อมบำรุง 1 แห่ง และลานจอดรถ 1 แห่ง โดยได้เปิดให้ประชาชนทดลองใช้ฟรี 4 เดือน เริ่มตั้งแต่วันที่ 6 ธันวาคม 2561 ถึงวันที่ 15 เมษายน 2562

นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รมช.คมนาคม กล่าวว่า การเปิดเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง – สมุทรปราการ จะช่วยลดภาระความแออัดด้านการจราจรระหว่างกรุงเทพมหานครและสมุทรปราการ โดยในช่วงทดลองวิ่งจนถึงวันที่ 15 เม.ย.2562 นอกจากจะเปิดให้ประชาชนใช้บริการฟรีแล้ว จะมีการเปิดให้จอดรถฟรีด้วยบริเวณสถานีเคหะสมุทรปราการ เนื้อที่ 8 ไร่ สามารถจอดรถได้ 1,200 คัน

ส่วนประเด็นของการกำหนดอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียวไว้ที่ 65 บาทตลอดสายนั้น เบื้องต้นพบว่าไม่ได้อยู่ในข้อตกลงของ รฟม.ก่อนการโอนย้ายให้ กทม. แต่เป็นข้อกำหนดของ กทม. ซึ่งต้องยอมรับว่าเป็นราคาที่ถูกกว่าสีน้ำเงินของ รฟม. ที่กำหนดไว้ 70 บาทตลอดสาย เนื่องจาก สายสีน้ำเงินมีโครงสร้างใต้ดินซึ่งมีต้นทุนก่อสร้างสูงกว่าจึงทำให้ค่าโดยสารแพงกว่า

ส่วนการเดินทางเชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายสีเขียว และสายสีน้ำเงินของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ปัจจุบันประชาชนจะต้องรับภาระจ่ายค่าแรกเข้าถึง 2 ครั้ง เนื่องจากเป็นระบบการเดินรถที่แยกออกจากกัน ขณะนี้กระทรวงอยู่ระหว่างเร่งแก้ไข โดยจะต้องรอ พ.ร.บ.กรมราง มีผลบังคับใช้ ปัจจุบันได้เข้าสู่การพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติแล้ว หลังจากนั้นจะมีการแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาทำหน้าที่กำกับดูแลอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้าภาพรวมโดยตรง พร้อมเชิญหน่วยงานที่รับผิดชอบบริหารการเดินรถไฟฟ้าทุกเส้นทางมาหารือเพื่อจัดทำระบบค่าโดยสารร่วม

นายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ BTS กล่าวว่า ที่ผ่านมาตนยังไม่ได้หารือร่วมกับ กทม.อย่างเป็นทางการ ถึงเรื่องการเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียว (ส่วนต่อขยาย) ช่วงแบริ่ง – สมุทรปราการ (เคหะสมุทรปราการ) และช่วงหมอชิต – สะพานใหม่ – คูคต ที่ทาง กทม.มีเงื่อนไขให้บีทีเอสกำหนดค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียวตลอดเส้นทางสูงสุดไม่เกิน 65 บาทต่อเที่ยว

“เรื่องค่าโดยสารต้องมานั่งคุยเรื่องนี้กันอย่างจริงจัง เพราะเอกชน ซึ่งเป็นผู้ลงทุนก็ไม่ทราบว่าจะลดค่าโดยสารขนาดนั้นได้ไหม แต่ก็ไม่ได้ตอบว่าเป็นไปไม่ได้ ต้องนั่งลงคุยกันจริงๆ จังๆ ไม่ใช่ว่าไปคุยกับใคร สุดท้ายมันต้องผมเป็นคนตัดสินใจอยู่ดี ดังนั้นตอนนี้ผมยังไม่คิดว่าตกลงถึงไฟนอลแล้ว”

อย่างไรก็ดี จากการคำนวณต้นทุนราคาของรถไฟฟ้าสายสีเขียวทั้งเส้นทางอยู่ที่ 140 กว่าบาทต่อเที่ยว และถ้าลดค่าโดยสารสูงสุดลงเหลือ 65 บาทต่อเที่ยว ก็จะทำให้สัมปทานหลักของบีทีเอส ช่วงหมอชิต – อ่อนนุช และสนามกีฬาแห่งชาติ – สะพานตากสิน ซึ่งเป็นช่วงเส้นทางที่ทำรายได้สูงสุด ต้องลดราคาตามไปด้วย ขณะที่การเดินรถไฟฟ้าส่วนต่อขยาย เป็นเพียงการเดินรถเสริม (ฟีดเดอร์)

นายคีรีกล่าวว่า บีทีเอสสามารถลดค่าโดยสารสูงสุดให้ต่ำกว่า 100 บาทต่อเที่ยวได้ แต่จะต้องหารือกันอย่างจริงจัง ว่าปัจจัยที่ทำให้เป็นไปได้นั้นคืออะไร และบีทีเอสจะได้อะไร เช่น การต่อสัญญาสัมปทาน การแก้ไขสัญญาเดินรถในรูปแบบใด หรือจะมีการอุดหนุนราคาช่วยเหลืออย่างไร ส่วนแนวทางที่ กทม.จะรวมสัมปทานเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวทั้งเส้น ให้เป็นสัญญาเอกชนร่วมลงทุน (พีพีพี) นั้น ก็ควรจะชัดเจนว่าจะทำอย่างไร ในส่วนของสัญญาเก่า และสัญญาใหม่

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน