ผบ.ตร.สั่งเร่งจับคนร้าย ประกบ ยิงโชเฟอร์รถตู้ ดับ ขณะขับรถกลับบ้าน ตร.มุ่งปมขัดแย้งส่วนตัว เร่งเช็กวงจรปิดหาเส้นทางหลบหนีของคนร้าย
ยิงโชเฟอร์รถตู้ / เมื่อวันที่ 7 ธ.ค. พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. เปิดเผยถึงกรณีคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงชายเสียชีวิตภายในรถยนต์ ภายในในเขตพื้นที่ สภ.คลองห้า ภ.จว.ปทุมธานี ว่า ได้รับรายงานจาก สภ.คลองห้า ว่าวันที่ 6 ธ.ค. ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 20.00 น. ได้รับแจ้งเหตุให้คนร้ายใช้อาวุธปืนยิงมีผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 ราย ว่า
มีเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนไม่ทราบยี่ห้อ และขนาด ยิงผู้เสียชีวิต ภายในรถยนต์บริเวณถนนบางขัน-หนองเสือ หมู่ที่ 7 ต.คลองหก อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี พนักงานสอบสวน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนและผู้ที่เกี่ยวข้อง จึงเดินทางไปตรวจที่เกิดเหตุ
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบรถยนต์ตู้ ยี่ห้อโตโยต้า สีเทา คันหมายเลขทะเบียน 31-5921 กรุงเทพมหานคร สภาพรถตะแคงอยู่ข้างชนกับเสาไฟฟ้าริมทาง ภายในรถพบผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 ราย ทราบชื่อภายหลังคือนายสิทธิชัย ชอบธรรม อายุ 50 ปี สภาพศพนอนหงายบริเวณเบาะนั่งด้านคนขับ พร้อมร่วมกับแพทย์ชันสูตรพลิกศพบาดแผลผู้ตายในสถานที่เกิดเหตุ
เบื้องต้นพบว่าเสียชีวิตจากการถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาด ยิงเข้าที่บริเวณหัวไหล่ขวาของตาย
จากการสอบถามพยานผู้ที่ร่วมเดินทางมาด้วยนั้น ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุตนและผู้ตายซึ่งเป็นคนขับ ใช้รถยนต์ตู้ ยี่ห้อโตโยต้า สีเทา คันหมายเลขทะเบียน 31-5921 กรุงเทพมหานคร เป็นยานพาหนะโดยออกจากสถานีขนส่งหมอชิตมาเพื่อจะกลับบ้านที่จังหวัดปทุมธานี
หลังจากนั้นเวลาประมาณหลังจากนั้นเวลาประมาณ 19.30 น. เมื่อตนและผู้ตายเดินทางมาถึงที่เกิดเหตุ ซึ่งระหว่างเดินทางนั้น ตนเผลอหลับไปจากนั้นสะดุ้งตื่นขึ้นเพราะได้ยินเสียงดังคล้ายอาวุธปืนดังขึ้น และรถตู้เสียหลักลงข้างทาง ตนจึงลงมาจากรถและพบว่าผู้ตายเสียชีวิตแล้ว จึงได้รีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ทราบโดยทันที
จากนั้นพนักงานสอบสวนจึงทำบันทึกการตรวจสถานที่เกิดเหตุ ถ่ายภาพที่เกิดเหตุ ทำแผนที่เกิดเหตุพอสังเขป ลงพื้นที่หาเบาะแสหรือข้อมูลของผู้ที่ก่อเหตุ ตรวจสอบกล้องวงจรปิดในบริเวณที่เกิดเหตุ และเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายจะใช้หลบหนี
รอง โฆษก ตร. กล่าวต่อว่า คดีนี้อยู่ระหว่างสืบสวนสอบสวน โดยมูลเหตุจูงใจในการก่อเหตุในครั้งนี้สันนิษฐานว่าเกิดจากเหตุความขัดแย้งส่วนตัว โดยพนักงานสอบสวน สอบปากคำพยานไปแล้วหลายปาก ทั้งนี้ยังคงต้องให้เวลาเจ้าหน้าที่ตำรวจในการสืบสวนจับกุมผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดี
ทั้งนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. สั่งการให้เร่งจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็ว เพราะถือคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ สร้างความตื่นตระหนกให้แก่พี่น้องประชาชน พร้อมกันนี้ได้กำชับผู้บังคับบัญชาทุกพื้นที่ ให้กำหนดมาตรการป้องกันเหตุ เพื่อป้องกันมิให้เกิดเหตุร้ายขึ้นอีก โดยหากเกิดเหตุต้องติดตามจับกุมผู้กระทำความผิดได้โดยเร็ว
ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
พนักงานสอบสวนต้องดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐาน ด้วยความรอบครอบ รวดเร็ว เป็นธรรม อาศัยพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ และพยานหลักฐานที่เชื่อมโยงกับผู้ที่ก่อเหตุเป็นสำคัญ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับพี่น้องประชาชน
