ผู้บริหารรพ.ศัลยกรรมดังโวยถูกโยง คลินิกนมเน่า ยันไม่เกี่ยวข้อง เตรียมเอาผิดคนทำเสียหาย แจงผู้ต้องหา มาขอเช่าสถานที่คลินิกเก่าที่ปทุมวัน เพื่อประกอบกิจการเสริมความงาม แต่กลับเอาชื่อแอบอ้าง จนถูกลากไปเกี่ยวข้อง สร้างความเสียหาย สับสนให้สังคม

คลินิกนมเน่า / เมื่อวันที่ 13 ธ.ค. ที่ บก.ปคบ. นพ.ระวีวัฒน์ มาศฉมาดล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารโรงพยาบาลมาสเตอร์พีซ เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.ชาญชล พรหมชนะ รอง สว.(สอบสวน) กก.2 บก.ปคบ. เพื่อชี้แจง กรณีมีกลุ่มบุคคล แอบอ้างชื่อ “โรงพยาบาลมาสเตอร์พีซ” ทำให้ได้รับความเสียหาย โดยใช้เวลาสอบปากคำ นานกว่าชั่วโมง ก่อนจะให้สัมภาษณ์ว่า

จากกรณี ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจ แห่งชาติ (ศปอส.ตร.) ได้โพสต์ข่าว การจับกุมเครือข่ายหลอกลวงทำศัลยกรรมเสริมความงาม แอลบีคลีนิก จ.ปทุมธานี และ เอ็มซีคลีนิก ย่านพหลโยธิน และมาสเตอร์พีซคลินิก ย่านสยามสแควร์ แขวงและเขตปทุมวัน กรุงเทพฯ

หลังมีผู้เสียหายจำนวนมากเข้ารับบริการ แล้วเกิดปัญหาเต้านมเน่า โดยจับกุม น.ส.ดิธินี ใจกุศล อายุ 33 ปี ทำหน้าที่เป็นนายหน้าหาลูกค้า และน.ส.หฤทัย รัตนวิไลสกุล อายุ 32 ปี แพทย์ทำศัลยกรรม ตามที่เป็นข่าวไปแล้ว

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่เพิ่มเพื่อน

โดยผู้ต้องหาทั้งสอง ได้แอบอ้างและใช้ชื่อ “โรงพยาบาลมาสเตอร์พีซ” ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหาย ในภาพลักษณ์ด้านองค์กร และสร้างความเข้าใจผิด ให้แก่ ผู้บริโภค ผู้ใช้บริการ และ สังคม ดังนั้น เพื่อให้เกิดความเข้าใจ ที่ถูกต้องตรงกัน “โรงพยาบาลมาสเตอร์พีซ” จึงขอประกาศชี้แจงข้อเท็จจริง ดังนี้

ในเวลาก่อนหน้านี้ “โรงพยาบาลมาสเตอร์พีซ” ได้เปิดให้บริการ สถานเสริมความงาม ภายใต้ชื่อ “มาสเตอร์ พีซ คลินิก” บริเวณสยามสแควร์ เขตปทุมวัน กทม. โดยเป็นการเช่าสถานที่ เพื่อประกอบกิจการ และให้บริการด้านความงาม จนถึงเดือนพฤษภาคม 2561

“มาสเตอร์พีซ คลินิก” จึงได้พัฒนาตัวเอง เป็น “โรงพยาบาลมาสเตอร์พีซ” และคำนึงถึงความสะดวก ของผู้ใช้บริการ และรองรับการพัฒนาตัวเอง สาหรับกิจกรรมในอนาคต จึงได้ย้ายสถานที่ให้บริการ มายัง ถนนสุโขทัย เขตดุสิต กทม.

ในช่วงเวลาคาบเกี่ยวกันนั้น ผู้ต้องหาที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปคบ.จับกุมตัวได้เมื่อวานนี้ ทำการเช่าสถานที่ต่อ ณ ที่ตั้งเดิมของ “มาสเตอร์พีซ คลินิก” บริเวณสยามสแควร์ เพื่อเปิดเป็นสถานเสริมความงาม โดยขณะเดียวกัน ก็ได้แอบอ้างและใช้ชื่อของ “โรงพยาบาลมาสเตอร์พีซ” ในการ ผ่าตัดศัลยกรรม

ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าว สร้างความคลุมเครือ ให้แก่ผู้ใช้บริการ จนเป็นผลให้เกิดความเสียหาย และสร้างความเสื่อมเสียชื่อเสียงให้แก่ “โรงพยาบาลมาสเตอร์พีซ” เป็นอย่างยิ่ง ทางโรงพยาบาล จึงขอเรียนว่า ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง กับผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมแต่อย่างใด

ทั้งนี้ “โรงพยาบาล มาสเตอร์พีซ” จะดำเนินคดีกับผู้ต้องหา อย่างถึงที่สุด เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่หน่วยงาน และผู้ใช้บริการต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน