เกมแล้ว!! รวบ ‘เสี่ยเอ’ อดีตเจ้าของร้านอัญมณีเมืองจันท์ ฉกเพชร 10 ล้าน คาด่านตม.

ปล้นเพชร – จากกรณีคนร้ายเป็นชาย 2 คน วิ่งราวเพชร 10 กะรัต มูลค่า 10 ล้านบาท ของนายวีกี้ ไวบัส อายุ 44 ปี นายหน้าค้าเพชรชาวอินเดีย ที่อาคารพาณิชย์เลขที่ 426/2-3 ซอยสองพระ ถนนสี่พระยา แขวงมหาพฤฒาราม เขตบางรัก กทม. โดยออกอุบายนำเพชรไปส่องกับแดดหน้าร้าน ก่อนจะวิ่งไปขึ้นจักรยานยนต์ที่มีเพื่อนจอดรออยู่ขับหลบหนีไป เหตุเกิดเมื่อวันที่ 11 ธ.ค.ที่ผ่านมา

หลังเกิดเหตุ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง(ตม.)จันทบุรี สามารถจับกุมตัวนายภิพัศพงษ์พัศฐ์ สุขสวัสดิ์พิพัฒน์ อายุ 59 ปี ผู้ต้องหาหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ เลขที่จ.778/2561 ลงวันที่ 13 ธ.ค. 2561 ข้อหาร่วมกันวิ่งราวทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิด หรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม ได้ที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองไทย-กัมพูชา จ.จันทบุรี เมื่อวาน (14 ธ.ค.) ที่ผ่านมา

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่เพิ่มเพื่อน

หลังทราบว่าคนร้ายเตรียมเดินทางออกนอกประเทศผ่านทางด่านตม.จันทบุรี จึงประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและวางกำลังสังเกตการณ์ กระทั่งพบนายภิพัศพงษ์พัศฐ์ กำลังต่อคิวแสดงหลักฐานเพื่อจะเดินทางหลบหนีออกนอกประเทศไทย ผ่านทางด่านตรวจคนเข้าเมืองไทย-กัมพูชา เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าจับกุม เบื้องต้นยังไม่พบเพชร 10 กะรัตที่วิ่งราวมาแต่อย่างใด มีเพียงเพชรเม็ดอื่นๆ ที่ยังไม่สามารถตรวจสอบรายละเอียดได้ ทางเจ้าหน้าที่ตม.จันทบุรี จึงควบคุมตัวไว้

ล่าสุดเมื่อเวลา 10.00 น วันที่ 15 ธ.ค ที่สน.บางรัก พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผบก.สส.บช.น. พล.ต.ต.พัฒนา เพศยนาวิน ผบก.น.6 พ.ต.อ.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.ดวงโชติ สุวรรณจรัส ผกก.สน.บางรัก พ.ต.ท.พงศ์นรินทร์ เหล่าเขตกิจ รอง ผกก.สส.สน.บางรัก และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.บางรัก

ร่วมกันแถลงผลจับกุมตัวนายภิพัศพงษ์พัศฐ์ สุขสวัสดิ์พิพัฒน์ อายุ 59 ปี ผู้ต้องหาหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ เลขที่จ.778/2561 ลงวันที่ 13 ธ.ค. 2561 ข้อหาร่วมกันวิ่งราวทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิด หรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม

โดยนายภิพัศพงษ์พัศฐ์ หรือ เสี่ยเอ มีสีหน้าเรียบเฉยระหว่างถูกคุมตัวตัวมาที่ห้องประชุม เพื่อรอแถลงข่าว สำหรับการก่อเหตุครั้งนี้ รายข่าวแจ้งว่า ผู้ต้องหาเลือกก่อเหตุเพราะมีความรู้ด้านอัญมณีและค้าขายเพชรมานาน เนื่องจากเมื่อก่อนเป็นเจ้าของกิจการค้าขายอัญมณีที่ จ.จันทบุรี จนมีฐานะร่ำรวย จนคนในวงการค้าเพชรเรียกว่า ‘เสี่ยเอ’ แต่ตอนหลังติดการพนันอย่างหนัก และประสบปัญหาทางธุรกิจจึงปิดกิจการ โดยมีเงินติดตัว 40,000 บาท จึงเลือกวางแผนก่อเหตุฉกเพชรดังกล่าว

โดยนำเงิน 10,000 บาทมาเช่าร้านที่ใช้ก่อเหตุ อีก 20,000 บาท ใช้ติดตั้งระบบประตูล็อกอัตโนมัติ โดยเป็นคนวางแผนเองทั้งหมดและว่าจ้างคนเข็นผักที่ จ.จันทบุรี ซึ่งเป็นชาวกัมพูชา มาทำหน้าที่ขับรถจักรยานยนต์พาหลบหนี หลังก่อเหตุหลบหนีไปแถววัดดวงแข และแยกย้ายกัน โดยผู้ต้องหานำเพชรไปขายให้ชาวต่างชาติคนหนึ่งที่ชายแดน ในราคา 500,000 บาท และนำเงินมาจ่ายเป็นค่าจ้างคนพาหลบหนี 100,000 บาท ที่เหลืออีก 400,000 บาท เตรียมนำไปเล่นพนันในบ่อนต่างประเทศ

เจ้าหน่้าที่เผยด้วยว่า ทันทีที่ถูกตำรวจจับกุม นายภิพัศพงษ์พัศฐ์ ผู้ต้องหาได้พูดว่า ‘จบเกมแล้ว เกมก็คือเกม’ ซึ่งผู้ต้องหาเป็นคนฉลาด วางแผนก่อเหตุมาเป็นอย่างดี และมีซิมโทรศัพท์มือถือจำนวนมากไว้ใช้ติดต่อกับทีมงาน และรู้ว่าตำรวจจะไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดเส้นทางหลบหนี จึงพยายามเปลี่ยนรถ ตั้งแต่รถจักรยานยนต์ที่ใช้หลบหนี มาขึ้นแท็กซี่ และไปขับรถวอลโว่ของตัวเองที่จอดทิ้งไว้ในพื้นที่จ.ปทุมธานี ก่อนมุ่งหน้าไป จ.จันทบุรี กระทั่งถูกจับกุมในที่สุด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน