เมื่อวันที่ 26 ม.ค. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช. กล่าวตอนหนึ่งระหว่างพบประชาชนในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี ว่า สิ่งสำคัญที่อยากจะพูดตอนนี้คือ วันนี้เราอยู่ในช่วงแห่งความเศร้าโศกของคนทั้งแผ่นดิน ทุกคนคงทราบดี ขอบพระคุณคนจังหวัดสุราษฎร์ และคนจังหวัดภาคใต้ทุกคนที่เดินทางไปเคารพพระบรมศพที่กรุงเทพ เห็นใจถึงความยากลำบากในการเดินทาง แต่ทุกคนก็เดินทางไปและไม่เคยน้อยลง ขอบคุณทุกหน่วยงานที่ดูแลเรื่องพระบรมศพ เรากำลังดำเนินเรื่องงานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระบรมศพ ซึ่งจะอยู่ในระยะเวลาหนึ่งปี จากวันที่ 13 ตุลาคมปีที่แล้ว และต่อไปอีกหนึ่งปีจึงมีพิธีพระราชทานถวายพระเพลิงพระบรมศพ จากนั้นจึงมีพิธีบรมราชาภิเษกกษัตริย์พระองค์ใหม่ รัชกาลที่ 10

“รัฐบาลจะอยู่ทำงานไปจนกว่าจะมีการเลือกตั้ง มีประชาธิปไตย ผมถามหน่อยว่า เลือกตั้งตอนนี้เอาไหม ไม่กล้าตอบ ตอนนี้ถึงต้องการเลือกก็เลือกไม่ได้ เพราะยังไม่ให้เลือก ถึงเวลาแล้วค่อยเลือก แล้วเลือกให้ดีนะ เลือกให้ดีกว่านี้ ถ้าบอกว่าผมทำไม่ดีก็เลือกให้ดีกว่าผม ทำให้ได้แบบผม พูดให้ได้แบบผมแล้วต้องทำแบบที่พูดด้วย แต่จะให้ทำ 100 เปอร์เซ็นต์ไม่มีใครทำได้ แต่ต้องทำให้ได้มากที่สุด 80-90 เปอร์เซ็นต์ ที่เหลือก็ทำต่อไป” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พูดถึงการวางแผน รัฐบาลได้เขียนแผนหลายเรื่องทั้งยุทธศาสตร์ชาติ ยุทธศาสตร์ทหาร ยุทธศาสตร์กรม ยุทธศาสตร์กระทรวง รวมถึงแผนการปฏิบัติที่ต้องสอดคล้องกันทั้งกระทรวง กรม ผู้ว่าราชการจังหวัดก็ต้องทำในกิจการทั้งหมด ซึ่งแผนเหล่านี้จะระบุไว้ล่วงหน้า กิจกรรมอะไร สมมุติฐานว่าอะไร สถานการณ์ว่าอะไร ใครรบผิดชอบตรงไหน แผนนี้ต้องออกไว้ล่วงหน้า แล้วทุกคนจะรู้หน้าที่ว่าทุกคนต้องทำอะไร เมื่อไรก็ตามที่เกิดเหตุการณ์น้ำท่วม ประกาศแผนนี้เป็นคำสั่งทุกคนก็ออกทำงานได้เลย แล้วไปปรับแก้เมื่อเจอเหตุการณ์ตรงหน้า

ถ้าไม่เขียนแผนอย่างนี้ที่สามารถแปรคำสั่งได้เลย ก็จะทำให้เสียเวลาเพราะต้องมีการเรียกประชุมก่อน แต่เราต้องลงไปก่อนแล้วค่อยเรียกกลับประชุม พื้นที่ต้องรับผิดชอบ ตนได้ให้แนวทางไปแล้ว ในระหว่างที่มีแผนออกมาหากยังไม่เหตุการณ์เกิดขึ้นก็ขอให้ซ้อมไปก่อน พร้อมทำความเข้าใจ ตามกิจกรรมที่มีอยู่ในปัจจุบัน จะทำอะไร ใครรับผิดชอบ เมื่อรัฐบาลประกาศแผนนี้เป็นคำสั่งก็สามารถทำงานได้เลย วันนี้เรากำลังปรับปรุงส่วนนี้อยู่

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงรับสั่งถึงพวกเราด้วยความพระเมตตาพระมหากรุณาธิคุณ ทรงห่วงใยเสมอมา ตั้งแต่วันที่ทรงรับเป็นพระมหากษัตริย์ ซึ่งพระองค์ท่านก็รับสั่งกับตนและคณะทำงานที่เข้าเฝ้าฯในเรื่องของภาคใต้ให้ดูแลประชาชนให้ดีที่สุด ทำให้ชีวิต ความเป็นอยู่เป็นปกติได้โดยเร็วที่สุด และแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน จะต้องแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน คือเรื่องการทำถนน เพราะถนนเส้นเพชรเกษมน้ำท่วมจะต้องทำอย่างไร ถนนริมทะเลจะทำอย่างไรเชื่อมต่อกันได้หรือไม่ แต่ปัญหาอยู่ประชาชนจะให้ทำหรือไม่ การขุดคลองระบายน้ำใหม่ ซึ่งมีแผนงานที่บางอันทำได้แล้ว บางอันจะต้องศึกษาใหม่ ขอความร่วมมือเถอะไม่อย่างนั้นก็ไม่ยั่งยืน แล้วน้ำก็จะท่วมอีก

อยากคิดว่าจะลดลงไปเรื่อย มันจะลดได้เพราะการป้องกัน แก้ไข ฟื้นฟู และระบบระบายที่สมบูรณ์ตามแนวทางของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ซึ่งประชาชนต้องให้ความร่วมมือ คนที่เสียสละรัฐบาลก็จะเข้าไปดู ทั้งนี้สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงพระราชทานถุงยังชีพ และพระราชทานองคมนตรีเข้าไปช่วยเหลือไปประชาชนที่ประสบปัญหาอุทกภัย

“ผมมีกำลังที่จะทำให้ท่าน มีกำลังกาย มีสมองที่จะทำให้ท่าน แต่มันไม่ใช่เงินของผม เงินของผมมีแต่เงินเดือนเท่านั้น แต่มันเป็นเงินภาษี เป็นเงินของประชาชนต้องใช้อย่างคุ้มค่า ใครคนใดคนหนึ่งก็ต้องแบ่งปันกันให้ทั่วถึง วันนี้ผู้ว่าราชการจังหวัด คณะรัฐมนตรีคือจำเลย แต่ผมต้องแก้ปัญหาให้ท่านให้ได้ ทั้งปัญหาเร่งด่วน และระยะยาว ผมเป็นนายกฯ ก็ต้องแก้ให้ท่าน แต่แก้ปีเดียวคงทำไม่ได้ แต่ต้องแก้ตั้งแต่ตอนนี้แล้วส่งไปรัฐบาลหน้า ต้องทำต่อไม่ทำต่อจะแบบนี้ ผมขอฝากความรัก ความปรารถนาดีจากคนกรุงเทพฯ มาให้ด้วย คงไม่มีอะไรแย่ไปกว่านี้แล้ว ถ้าเราปรับให้อยู่ให้ได้ วันหน้าก็จะทำได้ ซึ่งรัฐบาลก็จะช่วย แต่ประชาชนก็ต้องช่วยรัฐบาลด้วย อย่าไปคิดว่าเป็นคะแนนเสียงนี้ของพวกนี้ พวกนั้น ผมไม่คิด คนไทยทั้งประเทศ คือคะแนนเสียง 70 ล้านคนเราต้องฟังคนทั้ง 70 ล้านคน” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน